ความใกล้ชิดระหว่างคนในครอบครัว ถึงแม้จะเป็นพ่อแท้ ๆ แม่แท้ ๆ ก็ยังต้องมีระยะห่างที่เหมาะสม ล่าสุดมีนักศึกษาสาวรายหนึ่ง ได้โพสต์ความอัดอั้นตันใจ เมื่อเธอโตมาแล้วกลับรู้สึกว่า พ่อไม่ใช่เซฟโซน เพราะมีพฤติกรรมชอบจุ๊บ-แอบขึ้นเตียง-มองตอนโป๊
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยบนกลุ่มเฟซบุ๊ก โดยหญิงสาววัย 20 รายหนึ่ง ที่ได้ตั้งคำถามถึงเรื่อง พ่อไม่ใช่เซฟโซน ถึงคนอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน โดยเธอได้ระบุว่า พฤติกรรมหลายอย่างของพ่อเธอ ทำให้เธอและแม่แทบจะทนไม่ได้ โดยระบุข้อความว่า “อยากสอบถามว่ามีใครเจอปัญหาแบบนี้บ้าง… ฉันเป็นนักศึกษาหญิงที่มี อายุมากกว่า 20 ปี รู้สึกหมดหนทางกับพ่อมาก ๆ เพราะเขาไม่มีเหตุผลและฟัง ฉันกับแม่แทบจะคลั่งอยู่แล้ว”
เธออ้างว่า แม้เธอจะอายุมากกว่า 20 ปีแล้ว แต่พ่อของเธอ ยังคงปฏิบัติกับเธอเหมือนเด็ก จะกอดและจูบแบบ “ปากต่อปาก” โดยไม่ขอความยินยอมก่อนเสมอ บางครั้งเวลาเธอโกรธหรืออาย จะบอกตรง ๆ ว่าให้พ่อถอยออกไป นี่มันไม่เหมาะสมจริง ๆ แต่ทุกครั้งที่ปฏิเสธ พ่อก็จะสร้างความกดดันทางอารมณ์ โดยตัดพ้อถึงเรื่องที่โดนปฏิเสธว่า ลูกสาวของเขา ไม่รักเขาแล้ว
เธอเล่าด้วยว่า ปัจจุบันเธอเรียนอยู่ต่างประเทศ และกลับมาบ้านเฉพาะช่วงวันหยุดยาว พ่อมักจะเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู และขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกัน มีหลายครั้งที่พ่อปลุกให้เธอตื่น ด้วยการจูบหน้าผากหรือคอ แบบไม่ทันตั้งตัว เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอหวาดกลัวการกระทำดังกล่าว จนถึงขั้นกรีดร้องออกมา แต่พ่อของเธอกลับมองว่า เธอคิดจริงจังเกินไป และโทษว่าที่เธอเป็นแบบนี้ เพราะแม่เธอสอนมาไม่ดี
เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อเธอเปิดเผยอีกว่า ทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอกกับพ่อ ไม่ว่าจะเป็นการไปซื้อของ หรือทานข้าวด้วยกัน พ่อมักจะเรียกร้องให้เธอจับมือ แบบประสานมือทุกครั้ง หากไม่ทำเช่นนั้น พ่อจะโกรธเป็นอย่างมาก ทั้งยังห้ามเรื่องการใส่กางเกงขาสั้น กางเกงแฟชั่นขาด ๆ เสื้อครอป หรือแม้แต่การฉีดน้ำหอม ก็ยังเป็นเรื่องต้องห้าม
เธอเปิดเผยว่าพ่อของเธอ เคยบอกให้เธอตัดผมสั้นให้เหมือนเด็กผู้ชายด้วย ทั้งที่ทั้งหมดนั้นเป็นการแต่งตัว เพื่อที่จะออกจากบ้านไปทำงานพิเศษ แต่พ่อกลับคิดว่า เธอแต่งตัวเพื่อที่จะให้หนุ่ม ๆ มาหลงรักในความสวยของเธอ
และที่ไร้สาระที่สุดคือ พ่อเคยเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตู และเจอเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ตอนนั้นเธอตะโกนด้วยความโมโห แต่พ่อกลับเฉยเมย และพูดเรียบ ๆ ว่า “ไม่เป็นไร เคยเห็นมาตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว” สุดท้ายแม่ต้องช่วยกล่าวว่าพ่อทำแบบนี้ไม่ได้ และนั่นทำให้พ่อน้อยใจ เดินออกจากห้องไป
นอกจากนี้ พ่อยังไม่อนุญาตให้เธอ ติดต่อกับเพื่อนร่วมชั้นผู้ชายอีกด้วย และเมื่อเธอถ่ายรูปกับรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกัน เธอก็ถูกพ่อถามอย่างโกรธเกรี้ยวทันทีว่า เธอมีแฟนใช่ไหม เรื่องนี้แม้แต่แม่ของเธอก็มองว่า มันไม่มีเหตุผล
ส่วนปัญหาในเรื่องสุขอนามัย เนื่องจากพ่อของเธออาบน้ำโดยไม่ใช้สบู่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมทั้งผ้าปูที่นอน ก็ไม่ค่อยทำความสะอาด ทำให้กลิ่นตัวรุนแรงมากขึ้น เธอไม่อยากแม้แต่กอดอีกต่อไป เนื่องจากเธอเป็นภูมิแพ้ง่าย และทุกครั้งที่ได้กลิ่น จะรู้สึกปวดหัว จนอยากอาเจียน และเบื่ออาหาร
เธอทำอะไรไม่ถูก กับสถานการณ์ภายในครอบครัว พ่อสร้างปัญหาให้เธอและแม่เป็นเวลานาน ถึงแม้ว่าเธอจะกลับบ้านนาน ๆ ครั้ง แต่เธอก็แทบจะทนไม่ได้ กับพฤติกรรมของพ่อ ดังนั้นเมื่อลองนึกถึงแม่ที่ต้องอยู่กับพ่อทุกวัน นั่นทำเอาเธอรู้สึกแทบหมดแรง เธอจึงคิดว่าในฐานะลูกสาว เธอควรบอกพ่อไปตรง ๆ ด้วยคำพูดแรง ๆ อย่างเช่น “พ่อสกปรก และน่าขยะแขยงจริง ๆ ” เลย จะเป็นเรื่องดีไหม
เมื่อเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ประสบการณ์ทั้งหลายของเธอที่ชาวเน็ตอ่าน ต่างทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด คอมเมนต์ส่วนหนึ่งระบุว่า “มันเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว คุณจะทนได้ยังไง”, “นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่พ่อควรจะมี อยู่ห่าง ๆ พ่อไว้ดีกว่า”, ” ช่างเป็นพ่อที่แย่มาก… นี่เป็นพฤติกรรมทางจิตที่ผิดปกติ”
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีแสดงออกของพ่อ ทำอย่างไรได้บ้าง ให้ลูกสาวรู้ ว่าพ่อรัก
พ่อแม่สามารถ กอด หอม ลูก ไปได้จนถึงเมื่อไหร่ ?
ลักษณะการกอดว่ามีหลายแบบ สามารถใช้การกอดได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในช่วงวัยของเด็ก เวลา และสถานที่ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 วัย ดังนี้
1. การกอดในวัยแรกเกิดและหัดเดิน
เด็กต้องการสัมผัสมากเป็นพิเศษ ในช่วง 2-3 ปีแรก และโชคดีที่การอุ้มและการกอดเป็นสัญชาตญาณของแม่ เด็กควรได้รับการสัมผัสอย่างรักใคร่และอ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนอาหารหรือขณะอุ้ม พอโตขึ้นทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงล้วนยังต้องการ การกอดและการหอม สัมผัสกันด้วยความรักใคร่เหมือนกัน เพราะมีความสำคัญมาก ต่อพัฒนาการทางอารมณ์ของเด็ก
2. การกอดในวัยเริ่มเรียน
หรือการกอดลูกก่อนไปโรงเรียนทุกเช้า อาจส่งผลให้เขามีอารมณ์มั่นคงได้ตลอดทั้งวัน ในขณะเดียวกัน การกอดลูกตอนกลับจากโรงเรียน อาจทำให้เขารู้สึกสงบ ไม่งอแง เพราะเวลาไปโรงเรียน ลูกต้องเจอเหตุการณ์ใหม่ ๆ ทุกวัน อาจมีทั้งความรู้สึกดี หรือไม่ดีต่อคนรอบข้าง การกอดด้วยความรักอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย และสามารถปรับตัวกับรอบข้างได้ง่ายขึ้น
3. การกอดสำหรับลูกวัยรุ่น
สิ่งสำคัญ คือ การแสดงความรักในทางสร้างสรรค์ และเหมาะสมทั้งเวลาและสถานที่ พ่อแม่ควรแสดงความรักต่อทั้งลูกสาวลูกชาย เพราะวัยรุ่นยังต้องการการสัมผัสเหมือนเดิม เพียงแต่ควรทำที่บ้าน แม่ไม่ควรกอดลูกชายต่อหน้าเพื่อนของลูก เนื่องจากเด็กกำลังพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง การทำแบบนั้นอาจทำให้เด็กอาย และอาจถูกเพื่อนล้อ ในทำนองเดียวกัน ลูกสาวก็ยังต้องการการกอดและการหอมจากพ่อ ดังนั้นเวลาและสถานที่ จึงมีความสำคัญในวัยนี้ ส่วนการที่พ่อกอดลูกชายและแม่กอดลูกสาวอย่างรักใคร่ เป็นสิ่งที่เหมาะสมในทุกช่วงการพัฒนาการของเด็ก
สำหรับเด็กผู้หญิงที่กำลังเริ่มโต ฮอร์โมนทางเพศของลูกค่อย ๆ มีมากขึ้น รวมถึงของคุณพ่อเอง ดังนั้นการแตะตัวลูกหรือการอยู่ด้วยกันตามลำพัง จึงต้องระวังและวางตัวให้เหมาะสม เพราะเมื่อลูกยิ่งโตเป็นสาวขึ้น การแสดงความรักด้วยการกอด หอม หรือสัมผัสมากไป อาจเป็นอันตรายทางความรู้สึก ระหว่างพ่อกับลูกสาวได้ โดยแนวโน้มจะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคุณพ่อแต่ละคน
ด้วยข้อจำกัดนี้ทำให้คนเป็นพ่อวางตัวไม่ถูกว่าควรจะแสดงความรักกับลูกอย่างไรให้เหมาะสมซึ่งตรงนี้คุณพ่อสามารถให้ความรักในแบบที่เป็นผู้ใหญ่แทนได้ด้วยการเฝ้าดูลูกด้วยความรักความห่วงใยแสดงออกด้วยการพูดคุยชมเชยและการลูบศีรษะเบา ๆ ตอบสนองถึงความสนใจเป็นที่ปรึกษาที่ดีมองลูกสาวในมุมบวกก็ไม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าห่างเหินและทำให้ลูกรับรู้ถึงความรักที่มีให้ได้
สำหรับคุณแม่ที่ใกล้ชิดกับลูกสาวมากที่สุด มีบทบาทสำคัญที่จะมาช่วยในเรื่องนี้ได้ ด้วยการสอนลูกสาวให้รู้จักวางตัวกับคุณพ่ออย่างเหมาะสม สอนการแสดงความรักกับพ่อให้เหมาะสมกับวัย และอธิบายให้เข้าใจในเรื่องที่คุณพ่อเริ่มไม่เข้ามากอด หรือใกล้ชิดเหมือนในตอนเล็ก ๆ โดยในสถานการณ์นี้ จะทำให้ลูกยังคงเข้าใจความรักจากคุณพ่อ และรู้จักวางตัวเองให้เหมาะสมมากขึ้น ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกห่างเหิน ระหว่างพ่อกับลูกสาวกันไป เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
จิตแพทย์แนะคุณพ่อที่มีลูกสาว ถ้าวันหนึ่ง ลูกโตเป็นสาว จะวางตัวยังไงไม่ให้รู้สึกห่างเหิน
10 วิธีสู่ การเป็นคุณพ่อที่ดี ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
รวมรายชื่อโรงพยาบาลและคลินิกที่มีจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น
ที่มา : sanook, facebookAnonymous participant, rakluke
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!