วันที่ 26 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สส.สภ.เมืองชุมพร พร้อมด้วย ร.ต.อ.ปิยพล ฉัตรภูมิ รอง สว.สส.สภ.เมืองชุมพร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด สืบสวน ได้เข้าจับกุมตัว นายแดนไพร อินทะพันธ์ อายุ 50 ปี คนพื้นที่จังหวัดชุมพร ขณะอยู่ในร้านสนุกเกอร์แห่งหนึ่ง เขตเทศบาลเมืองชุมพร ตามหมายจับศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.240/2565 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ในมาตรา 317 ข้อหา ข่มขืนเด็ก
“พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปจากบิดามารดา, กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบสามปีโดยใช้อาวุธ, พาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนใจ ให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ซึ่งได้กระทำโดยมีอาวุธ, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร” ก่อนนำตัวพร้อมรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น HIACE สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพาหนะในการก่อเหตุ มาสอบปากคำ ที่ สภ.เมืองชุมพร
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองนำ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเมืองชุมพร ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ภัคฆพร สุขสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อให้เข้าจับกุมดำเนินคดีกับ นายแดนไพร คนขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ที่ก่อเหตุโดยใช้อาวุธมีดบังคับข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ที่เป็นบุตรสาว หลังพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความแล้ว ได้ส่งตัว ด.ญ.เอ เข้าตรวจร่างกาย ที่รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งพบร่องรอยอวัยวะเพศฉีกขาด จากนั้นจึงได้ขอหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุมตัวดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายแดนไพร ให้การว่า ตนเองมีอาชีพขับรถรับ-ส่งนักเรียน โดยจะขับรถตู้ไปรับเด็กนักเรียนตามจุดต่าง ๆ ใน อ.ท่าแซะ เพื่อไปส่งยังโรงเรียนในเขตเมืองชุมพร ซึ่งเด็กนักเรียนใช้บริการรถตู้ตนมาหลายปี จนผู้ปกครองนักเรียนเชื่อใจและไว้ใจตนอย่างมาก 1 ในนั้นคือ ด.ญ.เอ ที่จะสนิทสนมกับตนมากเป็นพิเศษ โดยตนได้มอบหมายให้ ด.ญ.เอ คอยทำหน้าที่เปิดปิดประตูรถให้เด็กนักเรียนคนอื่น ๆ เพื่อขึ้นลงรถ ซึ่งตนจะจ่ายเงินให้เดือนละ 200 บาทเป็นค่าขนม
นายแดนไพร ให้การต่อว่า ด้วยความสนิทสนมกัน อีกทั้ง ด.ญ.เอ ยังมาขอเงินตนเองหลายครั้ง และมีท่าทีพูดจายั่วยวนและสมยอม ตนจึงพา ด.ญ.เอ ไปร่วมหลับนอนบนเบาะหลังในรถตู้ โดยจะจอดรถที่บริเวณริมถนน ใกล้ทางลอดรถไฟ และกระทำมาหลายครั้งติดต่อกันเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว โดยไม่รู้ว่าผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ รู้เรื่องและเข้าแจ้งความไว้แล้ว ซึ่งมารู้อีกที ก็ตอนที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวพร้อมหมายจับแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์ของ นายแดนไพร พบคลิปโป๊จำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นคลิปอนาจารเด็ก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว นายแดนไพร ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอยู่นั้น ผู้ปกครองของด.ญ.เอพร้อมด.ญ.เอได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนพอดี ชุดจับกุมจึงนำตัว นายแดนไพร เดินเลี่ยงออกไปทางประตูด้านข้าง เนื่องจากเกรงว่าจะมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : เมียหมดความอดทน! แจ้งจับ พ่อข่มขืนลูก วัย 7 ขวบ
สอนลูกให้ระวังตัวจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
1.บอกลูกรู้ หนูเป็นเจ้าของร่างกายของตัวเอง
ย้ำเตือนลูกอยู่เสมอว่า หนูเป็นเจ้าของร่างกาย และไม่มีใครมีสิทธิที่จะแตะต้องร่างกายของหนูได้ โดยเฉพาะการสัมผัสที่ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายใจ และเริ่มสอนลูกว่ามีบางส่วนในร่างกายที่ถือเป็นพื้นที่ต้องห้าม เพราะเป็นของส่วนตัวของลูก และไม่ว่าใครก็ไม่ได้รับอนุญาตให้สัมผัสในส่วนนั้น เว้นเสียแต่ว่าทำเพื่อการทำความสะอาด เมื่อลูกรู้สึกอึดอัดเวลาใครมาสัมผัสร่างกาย ลูกต้องกล้าที่จะบอกว่า “ไม่” แล้วรีบมาบอกกับพ่อแม่ทันที เมื่อมีใครมาแตะต้อง หรือกวนใจลูก เพื่อป้องกันการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
2.เรียกอวัยวะส่วนนั้นด้วยชื่อเรียกที่ถูกต้อง
เมื่อถึงวัยที่ลูกได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างของอวัยวะเพศของผู้หญิงและอวัยวะเพศของผู้ชาย ต้องสอนลูกถึงชื่อเรียกที่ถูกต้อง ห้ามเรียกส่วนนั้นด้วยคำที่ฟังดูน่ารัก เพราะเวลาที่ลูกต้องการอธิบายหรือพูดคุยกับพ่อแม่ จะได้ใช้คำพูดที่เข้าใจในเรื่องเดียวกัน หากลูกเรียนรู้คำเหล่านั้นเป็นชื่อน่ารัก ๆ หรือคำที่พ่อแม่สอนให้เรียก เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นก็จะทำให้ไม่สามารถอธิบายเรื่องราวได้อย่างถูกต้อง
3.พูดคุยกับลูก เรื่องล่วงละเมิดทางเพศ
พูดคุยกับลูกด้วยบรรยากาศสบาย ๆ อย่าใช้โทนเสียงที่เคร่งเครียด ที่จะทำให้บรรยากาศการพูดคุยอึดอัด ขณะที่พูดถึงพื้นที่ส่วนตัว หรือเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อลูกเกิดไม่สบายใจ สงสัย หรือมีคำถาม ลูกจะกล้าถามพ่อแม่ได้ตรง ๆ จะได้ไม่มีความลับกับพ่อแม่
บทความที่เกี่ยวข้อง : สอนลูกให้ระวังการล่วงละเมิดทางเพศ
4.อธิบายพื้นที่ส่วนตัว ห้ามล่วงละเมิดด้วยกฎชุดว่ายน้ำ
ในโรงเรียนอนุบาลหรือโรงเรียนเตรียมอนุบาล จะมีหลักการที่ใช้อธิบายเรื่องของส่วนตัว หรือพื้นที่ต้องห้ามในร่างกายของเด็ก ๆ ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้ภาพประกอบพร้อมกับคำแนะนำ เพื่อให้เด็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ายากเกินกว่าจะจดจำ ขอแนะนำ กฎชุดว่ายน้ำ พร้อมอธิบายลูกว่า ทุกส่วนในร่างกายภายใต้ชุดว่ายน้ำถือเป็นพื้นที่ต้องห้าม ห้ามจับ ห้ามจ้อง และห้ามถ่ายรูป ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นกับลูกได้ สำหรับคนที่ต้องระวัง ไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าเท่านั้น แต่คนคุ้นเคยหรือคนใกล้ชิด อาจจะเป็นคนที่มาล่วงละเมิดทางเพศลูกก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถ้าทำให้ลูกเกิดความอึดอัดใจ หรือสัมผัสตัวลูกในส่วนสำคัญ ให้ลูกรีบมาบอกพ่อแม่ในทันที
5.อธิบายถึงการสัมผัสอย่างปลอดภัย
ควบคู่กับการสอนให้ลูกระวังการล่วงละเมิดทางเพศ พ่อแม่ต้องสอนเรื่องการสัมผัสที่สามารถทำได้ เพื่อให้ลูกเข้าใจด้วยว่า พ่อแม่ พี่เลี้ยง หรือคุณหมอ จำเป็นต้องสัมผัสลูกเวลาที่อาบน้ำ หรือทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น การอาบน้ำและเปลี่ยนผ้าอ้อม ส่วนคุณหมอเองก็จำเป็นต้องตรวจเช็กร่างกายทุก ๆ ส่วนเพื่อให้ลูกสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย
สิ่งที่สำคัญเลย คือต้องสอนลูกให้รู้จักของสงวน พื้นที่ต้องห้าม หรือของส่วนตัว ที่ใครก็แตะต้องไม่ได้ และอย่าลืมย้ำเตือนลูกว่า ลูกเป็นเจ้าของร่างกาย ถ้าใครมาสัมผัสแล้วทำให้ลูกไม่สบายใจ ลูกมีสิทธิ์จะบอกว่า “ไม่” และเมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่สบายใจ ต้องสอนให้ลูกรีบมาบอกพ่อแม่ เพื่อให้ลูกรู้จักระมัดระวังตัวเอง ก่อนจะเกิดปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ คำสอนสำคัญที่ควรให้ลูกรู้จักตั้งแต่เด็ก
สถิติเด็กถูกล่วงละเมิด ภัยสังคมร้อนแรงในไทย เมื่อตัวเลขพุ่งสูง
เมื่อคนใกล้ตัวล่วงละเมิดลูกสาว ภัยร้ายของสังคมที่ต้องระวังให้ดี
ที่มา : thairath.co.th