ช็อกวงการ ครูเตรียมอนุบาลญี่ปุ่น โรงเรียนเตรียมอนุบาล “ซากุระ โฮอิคุเอน” ทารุณกรรมทำร้ายร่างกายเด็กเล็กอย่างน้อย 15 ราย ให้การรับสารภาพแล้ว ตำรวจรวบตัวครูผู้หญิง 3 ราย ฐานกระทำทารุณเด็กเล็กหลายคนที่อยู่ในความดูแลของครูกลุ่มนี้
วันที่ 5 ธ.ค. 65 สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นหลายแห่ง รายงานว่า ตำรวจได้จับกุมตัว ครูเตรียมอนุบาลญี่ปุ่น ผู้หญิง 3 ราย ซึ่งเคยทำงานเป็นครูเตรียมอนุบาล อยู่ที่โรงเรียนเตรียมอนุบาล “ซากุระ โฮอิคุเอน” ในเมืองซูโซโนะ จังหวัดชิซูโอกะ ฐานกระทำทารุณเด็กเล็กหลายคนที่อยู่ในความดูแลของครูกลุ่มนี้ โดยการจับกุมในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากมีการเปิดเผยว่า อดีตครูโรงเรียนเอกชนกลุ่มนี้เกี่ยวข้องกับกรณีกระทำทารุณระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม จำนวน 15 กรณี มีทั้งการจับเด็กวัย 1 ขวบห้อยหัว บังคับเด็กถอดกางเกง ข่มขู่เด็กเล็กด้วยมีด และการกระทำทารุณอีกหลากหลายรูปแบบ
ทางการเมืองซูโซโนะเปิดเผยว่า ครูทั้ง 3 ราย เคยอยู่ในกลุ่มครู 6 คนที่รับผิดชอบดูแลห้องเรียนเนอสเซอรี่เด็กอายุ 1 ขวบ และได้ลาออกจากโรงเรียนเมื่อไม่นานนี้ ให้การสารภาพว่าพวกเธอมีพฤติกรรม กระทำทารุณ โดยกล่าวอ้างเหตุผลว่าพวกเธอต้องการสั่งสอนระเบียบวินัยแก่เด็ก
แหล่งข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเคยเรียกร้องทางโรงเรียนแห่งนี้ ให้ชี้แจงรายละเอียดกรณีกระทำทารุณกับเด็กแต่ละคนเมื่อกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ทางโรงเรียน ซึ่งรวมถึงครูใหญ่กลับเงียบหาย ไปนานถึง 3 เดือน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ครูใจบาป เอานักเรียนตัวเองไปขายบริการ ในประเทศเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบบันทึกที่ได้รับมา เชื่อว่าเกิดการกระทำทารุณที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งมีการบีบบังคับพนักงานทั้งหมดเซ็นสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน โดยตำรวจได้เร่งเข้าตรวจค้นภายในโรงเรียน ป้องกันการทำลายหลักฐาน
ด้าน นายโตชิฮิโกะ ซากุราอิ ครูใหญ่ของโรงเรียน ถูกสอบสวนและสั่งให้จัดทำบันทึกการปฏิบัติงานของครูทั้ง 3 ราย เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบพิเศษ ที่รัฐบาลท้องถิ่นให้เริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ในขณะที่พ่อชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเปิดเผยว่า เขารู้สึกตกใจกับการเปิดโปงกรณี การทำทารุณในโรงเรียนอย่างมาก และไม่มีทางจะเข้าใจคนที่กระทำการชั่วร้ายเช่นนั้นได้เลย และไม่ต้องการให้เหตุการณ์ ทารุณกรรมเด็กจากครูแบบนี้ เกิดขึ้นกับลูกสาววัย 1 ขวบของเขาด้วย.
ฝึกวินัยที่ถูกต้องให้ลูกด้วย 10 เทคนิค
1. ใช้ภาพสัญลักษณ์แทนคำพูด
การที่จะต้องคอยบอกลูกอยู่เสมอ ลูกอาจจะเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ลองใช้ภาพสัญลักษณ์แทนการพูด เพื่อช่วยเตือนความจำลูก ๆ เช่น การติดภาพห้ามวิ่งตรงบันได ภาพล้างมือที่หน้าห้องน้ำ เป็นต้น เมื่อลูกเห็นสัญลักษณ์เหล่านี้ซ้ำ ๆ ก็จะทำให้เขาจดจำสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการเตือนไว้ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 วิธีฝึกลูกช่วยเหลือตัวเอง เติบโตมาแข็งแรง และพึ่งพาตัวเองได้
2. ฝึกให้ลูกวาดรูปการ์ตูนทำตารางกิจกรรมเป็นลำดับขั้นตอน
คุณพ่อ คุณแม่ อาจวาดภาพเป็นรูปการ์ตูนง่าย ๆ ให้ลูกเห็นกิจกรรมที่ควรลูกทำเป็นลำดับขั้นตอน เช่น กิจกรรมหลังเลิกเรียน กลับบ้านเริ่มจากทำการบ้าน ออกไปวิ่งเล่น กินข้าว อาบน้ำ อาบหนังสือก่อนเข้านอน เป็นต้น ซึ่งการพาลูกวาดภาพเรื่อย ๆ นั้น จะทำให้ลูกรู้จักการวางแผนเป็นลำดับขั้นตอน เมื่อเวลาเขาไปโรงเรียน ก็จะช่วยให้เข้ารู้จักการจัดลำดับความคิดตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
3. ให้แต้มสะสมเมื่อทำความดี
การให้สะสมแต้ม เช่น ทำสมุดสะสมดาวด้วยตัวปั๊ม หลังจากลูกทำการบ้านเสร็จ หรือช่วยทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามวัย เมื่อสะสมครบ คุณพ่อคุณแม่อาจจะให้รางวัลลูกด้วยการพาไปสถานที่ที่ลูกชอบ เป็นต้น วิธีนี้จะทำให้ลูกตั้งเป้าหมายการทำงาน และอยากต้องการที่จะฝึกวินัยด้วยตัวเองให้ถูกระเบียบ
4. ลงโทษเมื่อลูกทำผิด
บางครั้งการลงโทษลูก ก็อาจช่วยให้ลูกมีวินัยขึ้นได้ เพราะการลงโทษลูกนั้น เป็นการตักเตือนให้เด็กได้เรียนรู้ว่า เมื่อตนทำความผิดนั้นคือสิ่งที่ไม่ดีและต้องมีการถูกลงโทษ อาจจะใช้วิธีการตีเบา ๆ แล้วค่อย ๆ สอนในสิ่งที่ถูกต้อง โดยไม่ใช่การตวาดเสียงดัง เพราะจะทำให้ลูกตกใจ หรือเกิดอาการต่อต้าน คุณพ่อคุณแม่อาจจะใช้วิธีการลงโทษให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก
5. ใช้วิธีเตือนแทนการบ่น
เราจะเห็นว่าเด็กเล็ก ๆ จะไม่ให้ความสนใจอะไรเป็นเวลานาน จึงไม่ควรไปคาดหวังว่าลูกจะทำ ตามลำดับขั้นตอนที่พ่อแม่วางไว้ได้ทั้งหมด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรกล่าวเตือนหรือสะกิดลูกให้ทำสิ่งนั้นได้แทนการบ่น หรือดุด้วยการใช้คำพูดที่ฟังดูเป็นมิตรกับลูก เช่น “ต่อไปลูกจะทำอะไรต่อนะ” หรือ “ลูกลืมทำอะไรไปหรือเปล่า” เป็นต้น
6. พ่อแม่ควรสอนลูกไปในทิศทางเดียวกัน
พ่อแม่ควรพูดคุยวางแผนกันก่อน หรือบอกผู้ใหญ่ในบ้าน ว่าเราจะช่วยกันฝึกสอนวินัยให้กับเจ้าตัวเล็กด้วยการทำแบบนี้ และทุกคนในบ้านควรช่วยกันสอนลูกหลานไปในทิศทางเดียวกัน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ หรือคนในบ้านสอนลูกต่างกันหลายแบบ ก็จะทำให้เด็กสับสน ทำตัวไม่ถูก และอาจไม่เชื่อฟังคุณพ่อหรือคุณแม่ได้
7. ตั้งกำหนดเวลาชัดเจน
การกำหนดเวลาจะทำให้รู้ตัวว่าหลังจากนั้นเขาควรจะทำอะไรต่อ และจะกลายเป็นวินัยติดตัวที่ดีไปจนโต เช่น หลังจากทำการบ้านแบ่งเวลาให้ลูกได้ดูหนัง หรือเล่นโทรศัพท์ได้ไม่เกิน 10 นาที โดยใช้การจับเวลาเป็นตัวช่วย เมื่อถึงกำหนดเวลาลูกก็จะรู้จักหยุด หรือหากมีการต่อรอง คุณแม่อาจจะใช้เทคนิคในการเพิ่มเวลาหรือลดเวลาในวันถัดไป ก็จะช่วยให้ลูกรู้จักวินัยมากขึ้นค่ะ
8. ฝึกลูกให้ช่วยเหลือตัวเองได้มากที่สุด
เด็กน้อยในวัยอนุบาล เริ่มที่จะทำนู่นทำนี่ด้วยตัวเองได้หลายอย่าง เช่น สามารถถอดกางเกงเข้าห้องน้ำเองได้ ใส่รองเท้า หรือติดกระดุมเองได้ คุณพ่อคุณแม่ควรเฝ้ามองให้ลูกน้อยได้ลองช่วยตัวเองอยู่ห่าง ๆ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ลูกฝึกแก้ปัญหา และอย่าเพิ่งเข้าไปโดยที่ลูกไม่ได้ร้องขอ ถึงแม้จะช้าไปบ้าง แต่นั้นคือสิ่งที่ลูกพยายามทำและจะช่วยตัวเอง ซึ่งเมื่อสำเร็จจะทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองอีกด้วย
9. ให้ลูกช่วยทำงานบ้าน
ไม่ว่าจะลูกสาวหรือลูกชาย พ่อแม่สามารถชวนให้ลูกช่วยมาช่วยกันทำงานบ้านได้ ด้วยการมอบหมายงานที่เหมาะสมกับวัย เช่น เด็กในวัย 3 ขวบอาจจะเริ่มต้นจากการเช็ดโต๊ะ เปิดน้ำรดน้ำต้นไม้ได้ หรือชวนลูกทำอาหาร เป็นต้น เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นมาอีกหน่อย คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกเริ่มทำงานบ้านต่าง ๆ ที่ให้เขามีความรับผิดชอบมากขึ้น เช่น ล้างจาน พับผ้า เก็บผ้า หรือกวาดบ้าน เป็นต้น
10. ลงโทษด้วยการตี
ถึงแม้ว่าการลงโทษจะสามารถช่วยให้ลูกเรียนรู้เมื่อเขาทำในสิ่งที่ผิด แต่การ “ตี” จะเป็นวิธีการลงโทษสุดท้ายที่คุณพ่อคุณแม่ควรใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกติดพฤติกรรมความรุนแรงจากการเลียนแบบ หรือเกิดอาการต่อต้าน และไม่เชื่อใจพ่อแม่ได้ อย่างไรก็ตาม การตีลูก อาจทำให้ลูกรู้สึกเสียใจ และเป็นปมสำหรับเด็กได้ หากคุณพ่อคุณแม่เลี่ยงได้ ก็พยายามตีลูกให้น้อยที่สุด
หากคุณพ่อคุณแม่ อยากที่จะเริ่ม ฝึกวินัยให้ลูกอย่างถูกวิธี และทำให้ลูกรู้จักที่จะรับผิดชอบตนเอง สามารถใช้ชีวิตอย่างมีวินัยได้ดีทั้งที่บ้าน และโรงเรียน อย่าลืมนำวิธีข้างต้นไปปรับใช้ได้นะคะ รับรองว่าลูกจะได้ฝึกวินัยอย่างถูกและปรับตัวให้มีระเบียบอย่างแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
พ่อเลี้ยงใจร้าย ! ทุบตีลูกอายุ 6 ขวบ จนตาปูด อยู่ในสภาพสะบักสะบอม
เด็ก 1 ขวบ วิ่งร้องไห้ตามหาพ่อข้างถนน พลเมืองดีเตือน อาจไม่โชคดีทุกครั้ง!
เลี้ยงลูกอย่างไรให้ห่างความรุนแรง เลี้ยงลูก อย่างไร? ไม่ให้ลูกตกเป็นเหยื่อ
ที่มา : www.thairath.co.th, www.dailynews.co.th