ข่าวการทำร้ายร่างกายเด็ก ไม่ว่าครอบครัวไหนก็อยากให้เกิดขึ้น ยิ่งถ้าหากเป็นคนที่เราไว้วางใจ ให้ดูแลลูกของเราแล้ว ยิ่งทำให้เจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก หากเกิดเรื่องการทำร้ายร่างกายขึ้น เช่นข่าวดังที่ผ่านมา เมื่อปี 2563 ในโรงเรียนเอกชนชื่อดัง ครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก โรงเรียนสารสาสน์ฯ ที่เป็นข่าว มีคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ครูพี่เลี้ยง ทำร้ายเด็กนักเรียนอนุบาลหลายคน ภายในห้องเรียน
ครูพี่เลี้ยงทำร้ายเด็ก โรงเรียนสารสาสน์ฯ
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และรองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน(สคช.) เมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ผบ 1919/2565 ที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ กรณีผู้ปกครองของนักเรียนรายหนึ่ง ได้ยื่นขอให้อัยการให้ความช่วยเหลือ กรณีลูกถูกครูพี่เลี้ยงทำร้าย ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าว
อัยการ สคช. จึงได้เชิญฝ่ายโรงเรียนและผู้ปกครองมาทำการไกล่เกลี่ยเพื่อตกลง ระงับข้อพิพาท ได้จัดให้มีการประนอมข้อพิพาทหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากฝ่ายโรงเรียนไม่ตกลงด้วย ไม่สามารถตกลงกันได้ โรงเรียนแจ้งขอยุติการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท
ฝ่ายผู้ปกครอง จึงขอให้สำนักงานอัยการคุ้มครองผู้บริโภค ช่วยจัดหาทนายความอาสา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายให้ สคช. ดำเนินการตามระเบียบ สำนักงานอัยการสูงสุดในการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย จึงได้จัดทนายความอาสาในความดูแลของอัยการ ดำเนินคดีจน ศาลจังหวัดนนทบุรีได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 ให้โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ ชดใช้เงินจำนวน 114,319 บาทแก่ผู้ปกครองนักเรียนรายนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกอนุบาล 2 รร.ดังฝั่งธน เสียชีวิตปริศนา แม่ร้องทนายดังช่วยเอาผิด!
สังเกตลูกหากโดนทำร้ายร่างกาย จะสังเกตอย่างไร?
ปัญหาเรื่อง เด็กโดนทำร้ายร่างกาย ทำร้ายเด็ก เราจะเห็นว่าเมื่อเราฝากลูกไว้กับคนที่รู้สึกไว้ใจ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก อาจจะมีคนที่มีพฤติกรรม การทำร้ายร่างกายเด็ก ซึ่งไม่ได้พึ่งมีมา แต่มีมานานมากแล้ว ทั้งการใช้ไม้เรียว การด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย การลงโทษโดยวิธีต่าง ๆ ที่ส่งต่อมาในสังคมไทยเป็นเวลานาน กว่าเราจะมาให้ความสนใจและพูดถึงอย่างจริงจัง วันนี้เราจะมาบอกวิธีสังเกตลูก หากโดนทำร้ายร่างกาย สามารถสังเกตได้อย่างไร ว่าลูกของเรา โดนทำร้ายร่างกาย
วิธีสังเกตเด็กโดนทำร้ายร่างกาย จากบาดแผลภายนอก
เราจะมาแนะนำ วิธีสังเกตเด็ก หรือ ลูกของเราหากโดนทำร้ายร่างกาย มีหลายวิธี เช่น
- กลับบ้านมามีรอยแผลตามตัว ที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน
- รอยโดนทำร้าย
- รอยถลอก
- รอยไหม้
- ตาช้ำ
- กระดูกหัก
- รอยโดนกรีด
- รอยกัด
- หลักฐานการบาดเจ็บอื่น ๆ ถ้ามีรอยไหน ปรากฏซ้ำ ๆ นี่ถือว่า เป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่
หากสังเกตตามตัวของลูกแล้ว ไม่พบรอยแผลปรากฏให้เห็น ให้ลองสังเกตพฤติกรรมของลูกที่เปลี่ยนไป เช่น ลูกดูซึมเศร้าลง เก็บตัวเงียบ ไม่พูดคุยกับใคร ไม่ร่าเริง มีอารมณ์รุนแรง แสดงความหวาดกลัวคนอื่นหรือผู้ปกครอง งอแงเวลาต้องไปโรงเรียน หรือ ไปสถานที่เลี้ยงเด็ก หากเด็กแสดงความหวาดกลัวต่อคุณครู หรือบุคคลไหนเป็นพิเศษ ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กโดนทำร้ายร่างกาย สังเกตอย่างไร? ทำอย่างไรถึงจะรู้ว่าลูกโดนทำร้ายร่างกาย
สังเกตว่าเด็กโดนทำร้ายร่างกาย ด้วยลักษณะท่าทาง
เรื่องที่เด็กเผชิญในสังคม ต้องพบเจอ เรื่องน่าเศร้าที่เด็กจำนวนมาก ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายและจิตใจ เราที่เป็นผู้ปกครอง จะสังเกตอย่างไรได้บ้าง ดูได้ดังนี้
- มีอาการเจ็บ คัน หรือ มีเลือดไหล ออกมาจากบริเวณ อวัยวะเพศ
- เดิน นั่ง ด้วยความลำบาก เพราะเจ็บบริเวณ อวัยวะเพศ หรือ ทวารหนัก หรือ อาจจะมีอาการเพราะการติดเชื้อก็เป็นไปได้
- ใส่เสื้อหลายชั้น ไม่ยอมถอดเสื้อออก อยากจะทำอย่างไรก็ได้ เพื่อปกปิดตัวเอง
- มีข้อมูลเรื่องเพศ มีความสงสัย หรือ มีพฤติกรรมทางเพศ เกินวัยที่เหมาะสม
- เด็กอาจจะมีรอยต่าง ๆ ตามร่างกาย เหมือนกับเด็กที่ถูกทำร้ายร่างกายได้เช่นกัน และ อาจจะมีอาการอื่น ๆ เช่น นอนฉี่ราด อุจจาระรดกางเกง มีปัญหาที่โรงเรียน หรือ ปัญหาเรื่องการกินข้าว
สังเกตว่าเด็กโดนทำร้ายร่างกาย จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
ปัญหาการทำร้ายด้านจิตใจ เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ ที่เกิดขึ้น และ สังเกตได้ยากที่สุด เพราะในบางที อาจจะไม่มีบาดแผล หรือ ร่องรอยใด ๆ ให้เห็น แต่ก็มีวิธีสังเกตเช่นกัน
- มีปัญหาด้านพฤติกรรม มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น ทำตัวห่างเหินจากครอบครัว มีอารมณ์ รุนแรง ขึ้นลง และ แปรปรวน
- ไม่พูดไม่จา พูดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
- ทำตัวไม่น่ารัก พูดจารุนแรงกับผู้ใหญ่
- พูดช้า คิดช้า ทำอะไรช้า มีอาการเหม่อลอย
- บอกว่ามีอาการปวดหัว
- เวลาใครพูดอะไร ที่ไม่ดีเกี่ยวกับตน ก็เรื่องที่จะเชื่อมัน เช่นแม่บอกว่า เราไม่ดี เราไม่เก่ง ก็เชื่อ และ ยอมรับเรื่องนั้นเลย
การสังเกตลูก ก็จะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยยับยั้งและลดความเสี่ยงที่ลูกอาจจะลูกทำร้ายร่างกาย การสังเกตลูกไม่ใช่เรื่องยาก เพียงผู้ปกครอง ใส่ใจไม่ละเลย ใช้เวลาพูดคุยกับเด็ก ๆ นอกจากจะช่วยป้องกัน ยับยั้ง ยังทำให้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้อีกด้วยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อุทาหรณ์! แม่จ้างนักบำบัดมาดูแลลูกออทิสติก ลับหลัง ลูกโดนทำร้ายร่างกาย!
แม่ควรทำไงดี เมื่อลูกถูกครูตีจนกระดูกมือร้าว
คลิปฉาว ครูสาวเตะเด็กสุดแรง วิ่งโร่ขอโทษผปค. หลังชาวเน็ตรุมวิจารณ์