ต้องระวัง! โรคจูบ อาการป่วยที่เกิดได้แม้กับเด็ก แพทย์เตือน! ผู้ปกครองอย่าหาทำ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เชื่อว่าการแสดงออกถึงความรัก ผ่านทางการกระทำ ด้วยการกอด หรือหอมแก้มลูก เป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายคนทำเป็นประจำ แต่ใครจะรู้ว่าจะส่งผลเสีย ทำให้ลูกป่วยเป็น โรคจูบ ได้ อันตรายจากการป่วยที่มาพร้อมไวรัส แพทย์เตือนเป็นไปได้อย่าหาทำ!

 

ตามการรายงานของเว็บไซต์ China News Weekly และ MedSci ได้ระบุว่า พบเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีอาการป่วยต้องสงสัย ว่าจะเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ เนื่องจากเป็นไข้สูง นานกว่า 1 สัปดาห์ แต่เมื่อพาไปหาหมอ กลับได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคจูบ หรือ Kissing Disease

 

 

ซึ่งอาการของโรคนี้ เกิดจากเชื้อไวรัสเอ็มสไตล์บาร์ (Epstein-Barr) นับเป็นไวรัสเริมชนิดที่ 4 ของมนุษย์ สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย และเสมหะได้ โดยมีระยะการฟักตัว ราว 1-2 สัปดาห์ สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โดยส่วนมากมักพบในช่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ร่วง ทั้งนี้เด็กเล็กสามารถติดได้เช่นกัน เพราะเป็นช่วงอายุที่ร่างกาย มีความต้านทานต่ำ จึงมีโอกาสติดเชื้อได้สูง

บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกติดเริมเพราะโดนจุ๊บ แม่เตือนติดไวรัสเพียงหอมแก้ม เสี่ยงลูกในท้องตายได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

จากการวินิจฉัยของแพทย์คือ หากทารกที่ติดเชื้อจาก โรคจูบ อาการส่วนใหญ่จะสามารถบรรเทาได้ หลังจากการรักษาตามอาการ ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ถึงพ่อแม่จะรักลูกมากแค่ไหน ก็ควรที่จะใส่ใจพฤติกรรม และระวังการป่วยที่ติดต่อจากการกอดหรือหอมด้วย

 

นอกจากนี้จากการค้นข้อมูล จากการรายงานของ China Youth Daily พบว่า เมื่อปีก่อน (2564) เคยพบเด็กติดเชื้อไวรัสเริม โดยอาการของเด็กคนนั้นแย่ลงอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่นาน โดยมีอาการไข้สูง ชัก และหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตลงหลังจากนั้นใน 5 วัน ในช่วงก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน ก็มีเด็กที่เสียชีวิตจากโรคเริมเช่นกัน โดยในช่วง ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โรงพยาบาล Changsha Fouth ได้รับเด็ก 3 คนเข้ามารักษาตัว โดยทั้งหมดได้รับการวินิจฉัยว่า ติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิส

 

ไวรัสจูบ สามารถพบได้บ่อยในเด็กที่อายุ ต่ำกว่า 5 ปี โดยไวรัสอาจเข้าสู่ผิวหนัง ผ่านรอยแตกเล็ก ๆ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจาก การที่ผิวหนัง หรือภูมิต้านทานลูกต่ำลง จะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2559 ประมาณ 67% ของประชากรโลกอายุ 0 ถึง 49 ปีติดเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 1 และมีประมาณ 3.7 พันล้านคน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

โรคจูบ คืออะไร ?

โรคจูบ (Kissing Disease) หรือ โรคโมโนนิวคลิโอซิส เกิดจากไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epsterin Barr Virus หรือ EBV) เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่ได้จำกัดการแพร่เชื้อแค่การสัมผัส การจูบ แต่ติดต่อได้ง่ายจากสารคัดหลั่ง เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวัง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เมื่อมีคนอื่นเข้ามาสัมผัส หรือหอมแก้มลูกน้อยของคุณ ก็สามารถติดโรคนี้ได้แล้ว ไปจนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ที่สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้จาก การไอ จาม การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ มีดโกน แม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย ก็สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้แล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง : เริมที่ปาก อาการเป็นอย่างไร เป็นโรคติดต่อหรือไม่ วิธีการรักษาเริมที่ปาก

 

อาการของโรคจูบ

มีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดทั่ว ๆ ไป ผู้ติดเชื้อ EBV จะสามารถแยกจากอาการค่อนข้างยาก ต้องตรวจจากเลือด เมื่อได้รับเชื้อแล้ว อาการจะแสดง 2-3 สัปดาห์ต่อมา และเชื้อจะยังติดอยู่กับเราไปตลอดชีวิต แม้จะรู้สึกว่าร่างกายปกติดี แต่เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายอ่อนแอ เข้าเชื้อไวรัสนี้จะกลับมากำเริบอีก โดยมีอาการดังนี้

  • เป็นไข้
  • เจ็บคอ
  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ

 

อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 3-4 วัน โดยไม่ต้องใช้ยารักษา แต่ในรายที่เป็นหนักจนเกิดอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอใหญ่ขึ้นจนสังเกตได้ ม้ามโต ตับโต มีจุดสีขาวขึ้นบนต่อมทอนซิล และควรระวังโรคแทรกซ้อน และหากเกิดอาการเหล่านี้ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เช่น

  • ดีซ่าน
  • ตับอักเสบ
  • โลหิตจาง
  • หายใจไม่ออก

 

การป้องกันโรคจูบ

ข่าวร้ายสำหรับไวรัสนี้ คือ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แม้ไวรัสนี้จะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ยังสามารถป้องกันตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการ

  1. กินร้อน : ทานอาหารที่ปรุงสุก ถูกสุขลักษณะ
  2. ช้อนกลาง : เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้อื่น ที่เราหรือเขาอาจไม่รู้ตัว ด้วยการใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน
  3. ล้างมือ : ให้สะอาดอยู่เสมอ ล้างให้บ่อย ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค

 

 

เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้ลูกน้อยป่วยเป็นโรคจูบ และเป็นอีกหนึ่งการป้องกัน นั่นก็คือความอดทนที่จะไม่สกินชิพลูก พร้อมกันนี้ต้องใส่ใจเรื่องการฆ่าเชื้อ ใส่ใจเรื่องของภูมิต้านทานของเด็ก แยกภาชนะบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เพราะการกระทำที่แสดงออกถึงความรัก บางครั้งอาจซ่อนเร้นอันตรายมาสู่ลูกได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ลูกติดเริมจากจูบแม่ ทารก 21 เดือน ติดเริมจากจุมพิษรัก แค่จูบแค่หอมลูกก็ป่วยได้

อุทาหรณ์ โรคเริมในเด็ก ใครจะคิด ลูกน้อยติดเริม จนเกือบตาบอด เพราะจูบของแม่

โรคเริม หรือ ไวรัสเริม(HSV) รวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโรคเริม

ที่มา : sanook, paolohospital

บทความโดย

Kanthamanee Phisitbannakorn