เชื่อว่าการแสดงออกถึงความรัก ผ่านทางการกระทำ ด้วยการกอด หรือหอมแก้มลูก เป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายคนทำเป็นประจำ แต่ใครจะรู้ว่าจะส่งผลเสีย ทำให้ลูกป่วยเป็น โรคจูบ ได้ อันตรายจากการป่วยที่มาพร้อมไวรัส แพทย์เตือนเป็นไปได้อย่าหาทำ!
ตามการรายงานของเว็บไซต์ China News Weekly และ MedSci ได้ระบุว่า พบเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน มีอาการป่วยต้องสงสัย ว่าจะเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ เนื่องจากเป็นไข้สูง นานกว่า 1 สัปดาห์ แต่เมื่อพาไปหาหมอ กลับได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคจูบ หรือ Kissing Disease
ซึ่งอาการของโรคนี้ เกิดจากเชื้อไวรัสเอ็มสไตล์บาร์ (Epstein-Barr) นับเป็นไวรัสเริมชนิดที่ 4 ของมนุษย์ สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย และเสมหะได้ โดยมีระยะการฟักตัว ราว 1-2 สัปดาห์ สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โดยส่วนมากมักพบในช่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ร่วง ทั้งนี้เด็กเล็กสามารถติดได้เช่นกัน เพราะเป็นช่วงอายุที่ร่างกาย มีความต้านทานต่ำ จึงมีโอกาสติดเชื้อได้สูง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกติดเริมเพราะโดนจุ๊บ แม่เตือนติดไวรัสเพียงหอมแก้ม เสี่ยงลูกในท้องตายได้
จากการวินิจฉัยของแพทย์คือ หากทารกที่ติดเชื้อจาก โรคจูบ อาการส่วนใหญ่จะสามารถบรรเทาได้ หลังจากการรักษาตามอาการ ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า ถึงพ่อแม่จะรักลูกมากแค่ไหน ก็ควรที่จะใส่ใจพฤติกรรม และระวังการป่วยที่ติดต่อจากการกอดหรือหอมด้วย
นอกจากนี้จากการค้นข้อมูล จากการรายงานของ China Youth Daily พบว่า เมื่อปีก่อน (2564) เคยพบเด็กติดเชื้อไวรัสเริม โดยอาการของเด็กคนนั้นแย่ลงอย่างรวดเร็ว ในเวลาไม่นาน โดยมีอาการไข้สูง ชัก และหัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตลงหลังจากนั้นใน 5 วัน ในช่วงก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือน ก็มีเด็กที่เสียชีวิตจากโรคเริมเช่นกัน โดยในช่วง ก.ค. 65 ที่ผ่านมา โรงพยาบาล Changsha Fouth ได้รับเด็ก 3 คนเข้ามารักษาตัว โดยทั้งหมดได้รับการวินิจฉัยว่า ติดเชื้อโมโนนิวคลีโอซิส
ไวรัสจูบ สามารถพบได้บ่อยในเด็กที่อายุ ต่ำกว่า 5 ปี โดยไวรัสอาจเข้าสู่ผิวหนัง ผ่านรอยแตกเล็ก ๆ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจาก การที่ผิวหนัง หรือภูมิต้านทานลูกต่ำลง จะมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2559 ประมาณ 67% ของประชากรโลกอายุ 0 ถึง 49 ปีติดเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 1 และมีประมาณ 3.7 พันล้านคน
โรคจูบ คืออะไร ?
โรคจูบ (Kissing Disease) หรือ โรคโมโนนิวคลิโอซิส เกิดจากไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epsterin Barr Virus หรือ EBV) เป็นเชื้อไวรัสที่ไม่ได้จำกัดการแพร่เชื้อแค่การสัมผัส การจูบ แต่ติดต่อได้ง่ายจากสารคัดหลั่ง เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวัง
เมื่อมีคนอื่นเข้ามาสัมผัส หรือหอมแก้มลูกน้อยของคุณ ก็สามารถติดโรคนี้ได้แล้ว ไปจนถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ ที่สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้จาก การไอ จาม การใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ มีดโกน แม้กระทั่งการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย ก็สามารถติดเชื้อไวรัสนี้ได้แล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง : เริมที่ปาก อาการเป็นอย่างไร เป็นโรคติดต่อหรือไม่ วิธีการรักษาเริมที่ปาก
อาการของโรคจูบ
มีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดทั่ว ๆ ไป ผู้ติดเชื้อ EBV จะสามารถแยกจากอาการค่อนข้างยาก ต้องตรวจจากเลือด เมื่อได้รับเชื้อแล้ว อาการจะแสดง 2-3 สัปดาห์ต่อมา และเชื้อจะยังติดอยู่กับเราไปตลอดชีวิต แม้จะรู้สึกว่าร่างกายปกติดี แต่เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายอ่อนแอ เข้าเชื้อไวรัสนี้จะกลับมากำเริบอีก โดยมีอาการดังนี้
- เป็นไข้
- เจ็บคอ
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ
อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 3-4 วัน โดยไม่ต้องใช้ยารักษา แต่ในรายที่เป็นหนักจนเกิดอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอใหญ่ขึ้นจนสังเกตได้ ม้ามโต ตับโต มีจุดสีขาวขึ้นบนต่อมทอนซิล และควรระวังโรคแทรกซ้อน และหากเกิดอาการเหล่านี้ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที เช่น
- ดีซ่าน
- ตับอักเสบ
- โลหิตจาง
- หายใจไม่ออก
การป้องกันโรคจูบ
ข่าวร้ายสำหรับไวรัสนี้ คือ ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แม้ไวรัสนี้จะเกิดขึ้นมานานมากแล้ว แต่ยังสามารถป้องกันตัวเองได้ง่าย ๆ ด้วยการ
- กินร้อน : ทานอาหารที่ปรุงสุก ถูกสุขลักษณะ
- ช้อนกลาง : เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้อื่น ที่เราหรือเขาอาจไม่รู้ตัว ด้วยการใช้ช้อนกลาง เมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน
- ล้างมือ : ให้สะอาดอยู่เสมอ ล้างให้บ่อย ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค
เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้ลูกน้อยป่วยเป็นโรคจูบ และเป็นอีกหนึ่งการป้องกัน นั่นก็คือความอดทนที่จะไม่สกินชิพลูก พร้อมกันนี้ต้องใส่ใจเรื่องการฆ่าเชื้อ ใส่ใจเรื่องของภูมิต้านทานของเด็ก แยกภาชนะบนโต๊ะอาหารสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เพราะการกระทำที่แสดงออกถึงความรัก บางครั้งอาจซ่อนเร้นอันตรายมาสู่ลูกได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกติดเริมจากจูบแม่ ทารก 21 เดือน ติดเริมจากจุมพิษรัก แค่จูบแค่หอมลูกก็ป่วยได้
อุทาหรณ์ โรคเริมในเด็ก ใครจะคิด ลูกน้อยติดเริม จนเกือบตาบอด เพราะจูบของแม่
โรคเริม หรือ ไวรัสเริม(HSV) รวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโรคเริม
ที่มา : sanook, paolohospital
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!