การเจ็บป่วยของลูกน้อย หากรู้เร็วก็สามารถช่วยเหลือได้เร็ว แต่ถ้าหากการป่วยนั้นกลายเป็นอาการหนัก จนไม่สามารถประคองค่าใช้จ่ายได้ อาจจะต้องวอนขอผู้ช่วยเหลือใจดี อย่างเช่นคุณแม่ท่านนี้ ที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยระบุว่า แม่ขอยืมเครื่องช่วยหายใจ เพราะต้องการพาลูกสาวที่ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน
ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Saichon Jongsamak ได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่า แม่ขอยืมเครื่องช่วยหายใจ อยากจะขอผู้ใจบุญที่พอมีเครื่องเก่า ให้ยืมมาใช้กับลูกสาววัย 4 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Spinal Muscular Atrophy: SMA) ขั้นรุนแรง รักษา 2 เดือนไม่ดีขึ้น หมอให้กลับบ้าน แต่ถ้าจะยื้อลูกต้องหาเครื่องช่วยหายใจเพราะโรงพยาบาลมีไม่พอ หากซื้อเองต้องใช้เงินกว่า 2 แสน แต่ครอบครัวยากจน วอนช่วยเหลือ แม่เผยรอวันที่มีปาฏิหาริย์ลูกกลับมาหายใจเองได้ โดยผู้ร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าวคือ น.ส.สายชล จงสมัคร หรือ น้ำ อายุ 22 ปี ชาว ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดย น.ส.น้ำ เล่าว่า ตนได้แยกทางกับสามีเมื่อกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นลูกสาวคือ น้องเบเน่ อายุได้ประมาณ 6 เดือน
ลูกสาวเริ่มมีอาการผิดปกติตอนอายุได้ 11 เดือน คือมีอาการอ่อนแรง ไม่ตั้งไข่เหมือนเด็กทั่วไป ต่อมาตนได้ออกไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วส่งเงินมาให้ตากับยาย ที่เลี้ยงลูกสาวให้ 2-3 เดือนจึงจะกลับมาเยี่ยม เมื่อลูกอายุได้ 2 ปี อาการเริ่มชัดขึ้น ลูกสาวไม่ก้าวเดิน จึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ก่อนที่โรงพยาบาลจะส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เพื่อหาสาเหตุ สุดท้ายหมอระบุว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนอยู่โรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือน แล้วกลับมาพักที่บ้าน รักษาไปตามอาการ แล้วให้ตาทวดกับยายทวด เลี้ยงไว้เหมือนเดิม ส่วนตนไปทำงานที่กรุงเทพฯ ต่อ
จนเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา แม่ได้โทรไปบอกว่าน้องมีอาการผิดปกติอีก จึงเดินทางกลับมาพบว่า มีอาการทรุดไปเรื่อย ๆ ต่อมาต้องมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ หมอระบุว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงระยะรุนแรง เมื่อใช้เครื่องช่วยหายใจอาการต่าง ๆ เช่น อาการปอดที่ติดเชื้อก็จะหายไป อาการไข้ก็จะหายไป แพทย์ระบุว่าหลังจากนี้อาจจะต้องเจาะคอเด็ก เพื่อป้องกันการติดเชื้อ สุดท้ายหมอแจ้งว่าเด็กจะต้องรักษาแบบนี้ตลอดไป แต่ถ้าอยากจะให้ลูกสาวกลับไปรักษาต่อที่บ้าน จะต้องมีเครื่องช่วยหายใจ ,ไฟสำรอง ,เครื่องดูเสมหะ และออกซิเจน
แต่ทั้งหมดตนไม่มีปัญญาจะหาซื้อมาได้ เพราะรวมแล้วคิดเป็นเงินกว่า 200,000 บาท ตอนนี้อยากจะให้ลูกสาวกลับมารักษาที่บ้าน เพราะไม่อยากให้เป็นภาระของแพทย์ รวมถึงค่าใช้จ่ายระหว่างเดินทางมาเฝ้าลูกสาวที่ต้องจ่ายทุกวันแต่ไม่ได้ทำงาน ใช้เงินคนชราของตากับยายมาเป็นค่าเดินทางทุกวัน จึงอยากจะร้องขอให้ผู้ใจบุญที่มีอุปกรณ์ดังกล่าวที่เหลือใช้เหลือเก็บ มาให้ตนยืมไปใช้ก่อนจนกว่าลูกสาวจะหมดบุญแล้วจะส่งคืนให้
ด้านนางจุรีย์ คอนรัมย์ อายุ 67 ปี ยายทวดของน้องเบเน่ เล่าว่า ทราบข่าวเรื่องหลานแล้วตกใจ สงสาร เพราะตนเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ ถ้าจะให้ไปซื้อเครื่องช่วยหายใจคงไม่มีปัญหา เพราะมีมูลค่าถึงกว่า 200,000 บาท อยากให้ผู้ที่มีกำลังมาช่วยเหลือด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้หลานตัวเองใช้ชีวิตอยู่ต่อให้นานที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : แพทย์เตือน! เด็กรุ่นใหม่จิ้มแต่จอ จับดินสอไม่ถูก เสี่ยงกล้ามเนื้ออ่อนแรง
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง คืออะไร ?
กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis: MG) หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี คือมีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการหนังตาตก ยิ้มได้น้อยลง หายใจลำบาก มีปัญหาการพูด การเคี้ยว การกลืน รวมไปถึงการเคลื่อนไหวของร่างกาย โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยทุกเพศทุกวัย ปัจจุบัน การรักษาทำได้เพียงเพื่อบรรเทาอาการ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม และเอาใจใส่จากคนรอบข้างอย่างสม่ำเสมอ
อาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
โดยปกติแล้วมักไม่พบอาการเจ็บหรือปวด แต่ผู้ป่วยอาจรู้สึกเจ็บหรือปวดหลังมีประจำเดือน หรือหลังออกกำลังกาย อาการที่สังเกตได้ตามบริเวณส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ตา ใบหน้า ลำคอ แขนและขา โดยอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมักมีรายละเอียดดังนี้
- กล้ามเนื้อรอบดวงตา : หนังตาตกข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง เป็นอาการแรกที่สังเกตได้ รวมถึงพบปัญหาด้านการมองเห็น เช่น มองไม่ชัด หรือเห็นภาพซ้อน เป็นต้น อาการจะดีขึ้นเมื่อหลับตาข้างใดข้างหนึ่งลง
- ใบหน้า : หากกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกบนใบหน้าได้รับผลกระทบ จะทำให้การแสดงออกทางสีหน้าถูกจำกัด เช่น ยิ้มได้น้อยลง หรือกลายเป็นยิ้มแยกเขี้ยวเนื่องจากไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้
- การหายใจ : ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงจำนวนหนึ่งมีอาการหายใจลำบาก โดยเฉพาะเมื่อนอนราบอยู่บนเตียงหรือหลังออกกำลังกาย
- การพูด : การเคี้ยวและการกลืน เกิดจากกล้ามเนื้อรอบปาก เพดานอ่อน หรือลิ้นอ่อนแรง ส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติบางอย่าง เช่น พูดเสียงเบาแหบ พูดเสียงขึ้นจมูก เคี้ยวไม่ได้ กลืนลำบาก ไอ สำลักอาหาร บางกรณีอาจเป็นสาเหตุไปสู่การติดเชื้อที่ปอด
- ลำคอ แขนและขา : อาจเกิดขึ้นร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ มักเกิดขึ้นที่แขนมากกว่าที่ขา ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น เดินเตาะแตะ เดินตัวตรงได้ยาก กล้ามเนื้อบริเวณคออ่อนแรง ทำให้ตั้งศีรษะหรือชันคอลำบาก เกิดปัญหาในการแปรงฟัน การยกของ รวมไปถึงการปีนบันได
หากพบว่ามีปัญหาด้านการมอง การหายใจ การพูด การเคี้ยว การกลืน รวมไปถึงการเคลื่อนไหวร่างกายที่เป็นไปโดยลำบาก เช่น การใช้มือและแขน การทรงตัว การเดิน เป็นต้น ควรรีบไปพบแพทย์
จริงอยู่ที่การป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาจจะเป็นภัยร้ายที่อาจคร่าชีวิตของคนได้ โดยเฉพาะถ้าอาการป่วยนี้เกิดขึ้นกับเด็ก โดยในปัจจุบัน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงยังไม่สามารถป้องกันได้ แต่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ที่กระตุ้นให้เกิดอาการได้ โดยการมีสุขอนามัยที่ดี หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักเกินไป ควบคุมความเครียด ไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกร้อนหรือหนาวมากเกินไป เพียงเท่านี้ก็จะไม่มีความเสี่ยงที่จะป่วยแล้วค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ลูกไม่พลิกคว่ำ อาจเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง SMA
ห่วงยางลอยคอเด็ก ควรใช้งานอย่างระวัง แม้จะน่ารัก หลังมีรายงานเสียชีวิต
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง คืออะไร? กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นแล้วอย่าปล่อยไว้ อาจอันตรายถึงตาย!
ที่มา : sanook.com , FB Saichon Jongsamak , pobpad.com