แม่ติดโควิด แต่ลูกกลับเมินเฉย เมื่อฉันตรวจพบว่าติดโควิด -19 ผลเป็นบวก หลังจาก 3 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนบูสเตอร์ครั้งที่ 3 สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฉันเริ่มมีอาการเจ็บคอ ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะกินทาร์ตสับปะรดมากเกินไปในช่วงวันตรุษจีน
แม่ติดโควิด ใจสลาย เมื่อต้องห่างกับลูก !
แต่ฉันรู้ดีว่า เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันได้รับการแจ้งเตือน จากเพื่อนที่มาหาที่บ้านในวันตรุษจีน ว่าเธอได้สัมผัสกับผู้ป่วยที่ติดโควิดดังนั้นมันเลยทำให้ฉันต้องไปตรวจ PCR และทราบผลภายใน 24 ชั่วโมง และผลลัพธ์ออกมากลายเป็นบวก ซึ่งแพทย์ก็บอกให้ใจเย็น ๆ และเก็บทุกอย่างที่ต้องการของใช้ส่วนตัว เพื่อแยกตัวออกจากครอบครัว
เธอเลี้ยงลูกอย่างไร เมื่อต้องกักตัว ?
7 วันที่ผ่านมา ต้องอยู่กับความโดดเดี่ยว ต้องเฝ้ามองลูกชายผ่านทางกล้องวงจรปิดที่บ้าน ได้ยินเสียงเขาร้องเพลง หัวเราะ เธอเองรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่สามารถกอด หอ หรือปลอบโยนเวลาที่ลูกของเธอกำลังร้องไห้ได้
วันแรกที่ลูกของเธอกลับเข้ามาบ้าน ก็พบว่าแม่ไม่อยู่ ในวันที่สอง ลูกก็ยังคงถามหาฉัน แต่สามีฉันก็ได้เข้าไปปลอบ และเขาไม่เพียงแต่ดูแลลูกชายเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงตัวของเธอเอง สามีของเธอส่งกาแฟในช่วงเช้า ส่งอาหารในช่วงกลางวัน ของยามว่างบ่ายและอาหารเย็นของฉันให้อยู่ตลอด สามีของเธอทำทั้งหมดให้ภรรยา และลูก และเล่นกับลูกตลอดเวลา เขาทำให้เธอเห็นว่าเขาให้อาหารลูก และน้ำอย่างเพียงพอ ใส่เสื้อผ้าสะอาด และเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ตลอดเวลา
ภายในบ้านราบรื่นมาแม้ว่าเธอจะไม่อยู่ มันเป็นการพักผ่อนที่ดีในฐานะความเป็นแม่ การได้พักผ่อนและหายจากโควิดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องบ้านเป็นความวิเศษสำหรับเธอมาก แต่เธอไม่สามารถลดความรู้สึกความคิดถึงของครอบครัวได้เลย ทำให้เธอรู้สึกกลัว มันทำให้เธอรู้ว่าการที่โตมาพร้อมกับพ่อที่หายไปทิ้งบาดแผลภายในจริงใจมากมาย ความทรงจำของเธอและพ่อที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน ทำให้เธอนั้นคิดถึงช่วงวัยเด็ก ๆ แม้ว่าพ่อจะจากไปเมื่อตอนที่เธออายุ 3 – 4 ปี เท่านั้น ความทรงจำเลวร้ายที่เกิดขึ้นทำให้เด็กกลัวว่าลูกจะเป็นคนเก็บตัว แบบที่ฉันเคยเป็น แต่ในช่วง 7 วัน ฉันเห็นลูกชายรู้สึกเหมือนเธอเหมือนช่วงที่เธอสูญเสียพ่อไป
ผลกระทบทางจิตใจของลูก เมื่อแม่ติดโควิด
ประมาณวันที่ 3 – 4 ของการกักตัว สามีเธอบอกว่า ลูกชายเริ่มเรียกหา แม่ และเขาได้เอาตุ๊กตาวัวเดินไปทุกที่ ซึ่งแม่ของเธอก็บอกเธอเช่นเดียวกับสามีว่า ลูกเล่นตุ๊กตาวัวที่ครอบครัวของเธอ บอกลูก ๆ ว่า นี่คือ พ่อ แม่ ลูก ในเวลาเพียงไม่กี่วันที่ไม่มีพ่อแม่ ลูกชายของฉันก็รู้สึกว่าจะเป็นต้องรับบทบาทพ่อแม่กับตุ๊กตายัดนุ่น ซึ่งลูกของเธอไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีใครมาอยู่กับเขาใกล้ ๆ และแม่ก็ไม่ได้อยู่กับเขาด้วยซ้ำ
เพื่อเติมเต็มช่องว่าง ลูกของเธอได้สร้างบุคลิกใหม่ให้เข้ากับตัวเอง และเรียกตุ๊กตาเหล่านั้นว่า ลูกน้อย เมื่อเธอได้ยินลูกพูดเช่นนี้ หัวใจของเธอแตกสลายมาก ซึ่งเธอเองก็รับรู้ได้ว่าลูกของเธอต้องการพ่อแม่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 เป็นต้นไป ลูกชายของฉันไม่พูดคำว่าแม่ และเมื่อครบการกักตัว 7 วัน ฉันได้ลงไปข้างล่างเพื่อไปหาลูก สามีเธอและเธอคิดว่าลูกต้องดีใจมากแน่ ๆ แต่กลับกันลูกของพวกเขาเมินเฉยมาก ๆ
ตามที่ Dr.Geraldine Tan หัวหน้าจิตวิทยา The Therapy Room Pte Ltd ได้กล่าวว่า ภายใน 8 เดือน ทารกจะมีการพัฒนาแนวคิด เรื่องความคงอยู่ของวัตถุ ดังนั้นอีก 7 – 8 เดือน ลูกก็จะเริ่มชอบอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่ทารกจะรู้ได้ว่าพ่อแม่ของเขาจากไป และกลับมาในช่วงเวลาสั้น ๆ ดร.เจอราลดีนกล่าวอย่างละเอียด มีความรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจ ในกรณีที่ต้องแยกกับลูกเป็นเวลานาน เด็กหรือทารกไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงร้องของเขาไม่สามารถทำให้ใครกลับมาได้ ในฐานะผู้ใหญ่เราคิดว่าการวิดีโอคอลนั้นดีพอ แต่สมองที่กำลังพัฒนาในระยะสั้นอาจจะต้องการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมมากกว่าได้ยินเสียง ดังนั้นพ่อแม่ควรเข้ามาดูแลอย่างสม่ำเสมอ
พ่อแม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ เมื่อต้องแยกอยู่กับลูก
คุณพ่อคุณแม่สามารถทำหรือเตรียมสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกได้ทุกวันเมื่อต้องแยกกันอยู่ โดยรวมแล้วควรมีความสม่ำเสมอและทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าพื้นที่ที่เขาอยู่นั้นปลอดภัย การเว้นช่วงเวลาสั้น ๆ อาจทำให้เด็ก ๆ เริ่มเมิน แต่ด้วยความรักความห่วงใยที่สม่ำเสมอที่พ่อแม่มอบให้ จะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะเข้าใจว่าพ่อแม่จะกลับมาในไม่ช้า
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :
แม่ติดโควิดหลังคลอด ให้นมบุตรได้หรือไม่? ควรปฏิบัติตนอย่างไร?
ป้องกันลูกรัก จากโควิด-19 หากลูกติดโควิด-19 ต้องทำอย่างไร
รู้หรือไม่ !! เด็กกว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก เสียพ่อแม่ไปเพราะโควิด 19
ที่มา : theasianparent