เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2564 เวลาประมาณ 21:09 น. นางสาวมาณิตา อายุ 25 ปี ได้เข้าไปแจ้งของลงบันทึกประจำวัน ที่ สน.พระโขนง เนื่องจากโดน แท็กซี่มหาภัย เดินลงมาจากรถ แล้วกระชากแมสที่ใส่อยู่จนขาด และทำให้เกิดแผลเล็บข่วนบริเวณลำคอ
ช่วงเวลา 19:48 น. ของวันที่ 9 มิ.ย. 2564 นางสาวมาณิตา ยืนรอรถเมล์โดยสารที่บริเวณป้ายหยุดรถประจำทางใต้ BTS อ่อนนุช ฝั่งห้างเซนจูรี่ ได้มีรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เลขทะเบียน มช 9648 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดเทียบ
หญิงสาวถูกกระชากแมสจนขาด และยังทิ้งรอยข่วนเล็บไว้บริเวณลำคอ
จากนั้นคนขับแท็กซี่ เป็นชาย อายุ 46 ปี โดยประมาณ ได้ลงมาจากรถแล้วกระชากแมสของผู้ประสบเหตุอย่างแรง จนขาดออก เป็นเหตุให้บริเวณลำคอโดนเล็บของผู้ก่อเหตุจนเป็นแผล แล้วจึงเดินกลับขึ้นรถ แต่ยังคงมองหน้าเหมือนพยายามหาเรื่องตนอยู่ตลอดเวลา
จากนั้นจึงได้ถ่ายรูปรถ และทะเบียนรถผู้ก่อเหตุ แล้วจึงไปแจ้งตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน พร้อมโพสต์เรื่องราวขึ้นเฟสบุ๊คส่วนตัว เพื่อเตือนภัยให้กับคนที่จะต้องขึ้นรถกลับบ้านเพียงลำพัง
ต่อมา ผกก.สน.พระโขนง ได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน เร่งออกตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตามจับตัวผู้กระทำความผิดให้ได้โดยไว
ภาพจากคลิปวิดีโอ ขณะนายนานา คนขับแท็กซี่ ขับรถปาดหน้า แล้วเดินลงมากรรโชกทรัพย์
14 มิ.ย. 2564 ได้ปรากฎคลิป VDO ที่ถูกโพสต์ผ่านทางเฟสบุ๊ค เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแท็กซี่ ขับปาดหน้ารถ แล้วลงมาจากรถพร้อมไม้หน้าสาม พร้อมข่มขู่เอาเงินจำนวน 1,000 บาท อ้างว่า เจ้าของรถคู่กรณี เคยทำร้ายร่างกายเขา (ในขณะที่ผู้เสียหายยืนยีนว่าไม่เคยรู้จักกับแท็กซี่รายนี้มาก่อน)
เมื่อทำการตรวจสอบ พบว่า แท็กซี่ที่ก่อเหตุทั้งสองคดี เป็นเลขทะเบียนเดียวกัน โดยมีนาย นานา อายุ 46 ปี เป็นผู้ขับขี่แท็กซี่คันดังกล่าว
เมื่อเรื่องราวถูกโพสต์ออกไปทางสื่อโซเชียล ทำให้มีผู้ที่เคยได้รับความเสียหาย ต่างพากัน บอกเล่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาลวนลาม หาว่าเคยคบกัน ไม่ยอมทอนเงินค่าโดยสารแท็กซี่ ขับรถพาเข้าม่านรูด (แต่โชคดีหนีออกมาได้) ขู่กรรโชกทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย ซึ่งแต่ละเคสเกิดขึ้นต่างกรรม ต่างวาระ และดูเหมือนว่า จะมีผู้ได้รับความเสียหายมากพอสมควร
ผู้ที่ประสบเหตุ ก็ได้แจ้งข้อมูลเข้ามาเรื่อย ๆ
ต่อมาจีงได้ติดตามหาจนพบรถแท็กซี่คันดังกล่าว ขณะที่นายนานา ขับรถรับส่งผู้โดยสารไปบริเวณปากซอยงามวงศ์วาน 53 เขตจตุจักร กรุงเทพฯ จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แลทำการจับกุม เพื่อสอบประวัติ และดำเนินคดี
โดยนายนานา ยอมรับว่าตนเป็นผู้ที่ก่อเหตุกระชากแมสของหญิงสาวที่ป้ายรถเมล์ บริเวณใต้ BTS สถานีอ่อนนุชจริง แต่ยังคงปฏิเสธเรื่องการขู่กรรโชกทรัพย์ พาผู้หญิงเข้าม่านรูด และคดีอื่น ๆ โดยอ้างสาเหตุของการกระชากหน้ากากว่า ตนเองคิดว่าเป็นคนรู้จัก จึงต้องการดึงแมสออกมาเพื่อให้เห็นหน้าชัด ๆ
เบื้องต้น ผู้ต้องหายังสามารถพูดจาโต้ตอบได้เป็นปกติ สามารถให้ข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ไม่มีทีท่าว่าจะเป็นวิกลจริตแต่อย่างใด รถแท็กซี่ที่ใช้ เป็นรถเช่าวันละ 350 บาท ซึ่งตำรวจไม่ได้ทำการตรวจยึดไว้ แต่จะนำส่งคืนเจ้าของรถต่อไป
คำพิพากษา
ในขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ จึงนำตัวไปส่งพนักงานอัยการเพื่อทำการฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้
โดยทางศาลแขวงพระนครใต้มีคำพิพากษาให้จำคุก 15 วัน ปรับ 1,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี
ส่วนกรณีที่นายนานา อาจจะได้ไปกระทำความผิดลักษณะเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน ในพื้นที่อื่น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงศ์เภตรา ผบช.น. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.ฯ ปฏิบัติราชการ บช.น. ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อสั่งฟ้อง ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วนทุกเหตุการณ์ต่อไป
ภาพข่าว
ที่มา : ejan
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คุณพ่อนักซิ่ง ขับรถมากับลูกสาววัย 10 ขวบ หลับในจนรถพลิกคว่ำตกคูคลอง !
ซิ่งรถหรูฝ่าฝน เหินข้ามเกาะกลาง จนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต 3 ศพ
คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว พาลูกพิการขับแท็กซี่ หาค่ารักษาพยาบาล
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!