เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมามีการแชร์สนั่นโลกโซเชียล หลังร้านชาบูแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า โคยกี๊ หม้อไฟ ได้เผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับ ครอบครัวชาบู โดยมีเนื้อหาข้อความพร้อมภาพประกอบว่า
“#เตือนภัยครับอ่านสักนิด มิจฉาชีพหลอกทานฟรีครับ ขับรถก็ดีนะครับ ทะเบียนก็เลขสวย กท.กรุงเทพมหานคร ทาน 1,085 บาท แล้วหาเรื่องน้องๆในร้านบอกว่าทางร้านจัดอาหารมั่ว เค้าไม่ได้สั่ง #อ้างว่าลูกชายอายุ 14 สั่ง ถ้าอยากได้เงินก็ให้ไปแจ้งความจับเด็กละกัน “อยากจะเอาเรื่องกับเด็กนึไง” แม่เด็กพูดนะครับ แต่ดูจากกล้องวงจร พ่อกับแม่สั่งตลอดนะครับ #สุดท้ายตอบจบบอกว่าพกเงินสดมาแค่ 200 บาท ไม่มีเงินแล้ว ถ้าอยากได้ให้ไปแจ้งความเอา…”
โพสต์ของทางร้านเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปัจจุบันได้มีการลบไปเรียบร้อนแล้ว (ขอบคุณภาพจาก sanook.com)
โดยโพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปเรื่อย ๆ จนทำให้เกิดเป็นกระแสขึ้นมาในโลกโซเชียล ซึ่งทางเจ้าของร้าน นายภาวัต สงวนหงส์ อายุ 42 ปี ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ว่า เมื่อสันที่ 12 มิถุนายน เวลาประมาณ 18.00 น. ครอบครัวชาบู ได้เข้ามานั่งทานอาหารในร้าน โดยพนักงานของร้านได้แจ้งกับลูกค้าดังกล่าวแล้วว่าร้านเป็นแบบอาลาคาร์ต ซึ่งครอบครัวชาบูก็ไม่ได้พูดอะไรต่างก็หยิบกระดาษและปากกามาติ๊กรายการอาหารที่ตนต้องการก่อนที่จะเริ่มทาน เมื่อทานเสร็จและเมื่อถึงเวลาจ่ายเงินมีอาการบางส่วนที่ยังไม่ทานอยู่ด้วย บิลทั้งหมดราคา 1,360 บาท โดยรายการสั่งของลูกชายคนโตอยู่ที่ 1,045 บาท เขาบอกกับพนักงานว่าตอนนี้เขามีเงินเพียง 200 บาทเท่านั้น ถ้าอยากได้เงินก็ไปแจ้งความจับเอา แล้วทิ้งท้ายประโยคที่ว่า “อยากเอาเรื่องกับเด็กรึไง” ก่อนที่ทางร้านจะตัดสินใจให้พวกเขาทานฟรี และออกจากร้านไป ทั้งหมดจึงทำให้เกิดการโพสต์ข้อความดังกล่าวขึ้น
นายภาวัต สงวนหงส์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านโคยกี๊ หม้อไฟ (ขอบคุณภาพจาก sanook.com)
เจ้าของร้านหม้อไฟดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีเจตนาที่จะเอาผิด หรือต้องการเงินจากครอบครัวดังกล่าว แต่การลงบันทึกประจำวัน เพื่อไม่ให้คนอื่นทำเป็นเยี่ยงอย่าง และเพื่อเป็นการเตือนผู้ประกอบการ ห้าง ร้านต่างๆ ในราชบุรีให้ระวังกัน และล่าสุดทั้งสองฝ่ายได้มีการเคลียร์ใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยครอบครัวชาบู ได้เข้าพบพบ ร.ต.ท.เจริญทรัพย์ โพธิ์พระ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เจ้าของคดี ตามนัดหมาย เพื่อเจรจาพูดคุยกับทางเจ้าของร้านชาบู ซึ่งเหตุการณ์เป็นการพูดคุยกันด้วยดีทั้ง 2 ฝ่าย
การลงบันทึกประจำวัน เพื่อไม่ให้คนอื่นทำเป็นเยี่ยงอย่าง และเพื่อเป็นการเตือนผู้ประกอบการ ห้าง ร้านต่างๆ ในราชบุรีให้ระวังกัน (ขอบคุณภาพจาก sanook.com)
ทางครอบครัวชาบู ได้ทำการโอนเงินจำนวน 1,360 บาท ให้กับทางเจ้าของร้านชาบู เพื่อเป็นการชำระเงินทั้งหมด โดยมีการให้สัมภาษณ์ว่า ลูกชายคงเข้าใจผิดว่าเป็นการทานแบบบุฟเฟ่ต์ จึงทำให้เขาสั่งมาในจำนวนมาก และในตอนคิดเงินทางครอบครัวได้ยินเสียงกระแทกจานลงกับโต๊ะเหมือนกันไม่พอใจ จึงทำให้พูดและทำกิริยาออกไปเช่นนั้น โดยเงินทั้งหมดที่ได้รับมา เจ้าของร้านแจ้งว่าเขาจะไม่รับเงินไว้เอง แต่จะแบ่งให้พนักงานที่ทำงานในวันนั้นเพื่อเป็นการปลอบขวัญแก่พนักงาน เพราะว่าเขาได้แจ้งไปแล้วว่า เขาให้รับประทานฟรีนั่นเอง
นอกจากนี้เจ้าของร้านยังได้มีการพูดเชิญชวนครอบครัวดังกล่าวในครั้งหน้าหากมีโอกาสที่จะผ่านมาทำธุระ หรือมาแถวราชบุรีก็สามารถมาทานที่ร้านได้ พร้อมทั้งเขาจะมีส่วนลดให้เป็นกรณีพิเศษ
บทความที่น่าสนใจ :
20 ร้านชาบูเดลิเวอรี่ เสิร์ฟความอร่อยถึงที่ สายกินไม่ควรพลาด
คนท้องกินชาบูได้ไหม อยากกินบุฟเฟ่ต์ชาบู แม่ท้องอยากกินชาบู ต้องระวังอะไรบ้าง
รวมพิกัด 155 ร้าน ป้าบุญล้อม บุฟเฟ่ต์รับทุกโครงการ คนละครึ่ง เราชนะ ม.33