กลัวลูกติดโควิด จน ไม่กล้าพาลูกไปฉีดวัคซีน มีผลเสียอย่างไร

กลัวลูกติดโควิด เลย ไม่กล้าพาลูกไปฉีดวัคซีน จะส่งผลเสียกับลูกหรือไม่ TAP Ambassador จะพาคุณพ่อคุณแม่มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับรายการ TAP Ambassador ของเราในสัปดาห์นี้ มาพร้อมกับประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นเรื่องที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านได้โพสไว้ในแอปพลิเคชัน theAsianparent โดยหัวข้อในวันนี้คือ “ กลัวลูกติดโควิด จน ไม่กล้าพาลูกไปฉีดวัคซีน มีผลเสียอย่างไร ” ซึ่งในวันนี้  theAsianparent จะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกคนมาไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กันกับคุณหมอแอม แพทย์หญิงพรนิภา ศรีประเสริฐ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของจิตวิทยาพัฒนาการ และจิตวิทยาสมองและการเรียนรู้ของเด็ก

วัคซีนที่ทารกและลูกวัยเตาะแตะต้องเข้ารับวัคซีนอย่างเด็ดขาด มีอะไรบ้าง

สำหรับวัคซีนในช่วง 1 ปีแรก เป็นวัคซีนที่ห้ามพลาดทุกตัวเลย เพราะได้มีการทำการศึกษามาแล้วว่า วัคซีนป้องกันโรคที่จะนำมาฉีดให้แก่เด็ก 1 ขวบ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และถ้าเด็กเป็นโรคนั้น ๆ ก็มีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก เพราะฉะนั้นวัคซีนของเด็กในช่วง 1 ปีแรก ที่นับตั้งแต่แรกคลอด เป็นวัคซีนที่มีความสำคัญทั้งหมด ไม่ควรขาดวัคซีนตัวใดตัวหนึ่งเลย แต่สำหรับในกรณีที่มีความจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถที่จะเลื่อนการรับวัคซีนได้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในระยะ 2 – 4 สัปดาห์ แต่ไม่ควรเกิน 1 – 2 เดือน

บทความที่น่าสนใจ : วัคซีนเด็กมีอะไรบ้าง 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

 

ไม่ให้ลูกไปฉีดวัคซีน เพราะกลัวโควิด จะส่งผลเสียมากกว่าจริงไหม ?

การที่คุณพ่อคุณแม่กังวลกับสถานการณ์โควิดจน ไม่กล้าพาลูกไปฉีดวัคซีน นั้นมีผลเสียมากกว่า เพราะอัตราการเสียชีวิตของเด็กด้วยโรคโควิด – 19 นั้นมีน้อยมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันอัตราการเสียชีวิตของเด็กด้วยโรคไอกรน คอตีบ บาดทะยัก  หัด หัดเยอรมัน คางทูม และโรคไข้สมองอักเสบซึ่งเป็นโรคที่จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันในช่วง 1 ปีแรกนั้น มีอัตราการเสียชีวิตและอัตราผลกระทบที่ส่งผลต่อสมองเด็กสูงมาก ๆ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่พาลูกไปฉีดวัคซีนเลย จะทำให้เด็กไม่มีภูมิคุ้มกันโรคและอาจส่งผลให้เสียชีวิต หรือพิการได้

 

ไม่ให้ลูกไปฉีดวัคซีน เพราะกลัวโควิด จะส่งผลเสียมากกว่าจริงไหม

 

โรคไข้สมองอักเสบมีอาการอย่างไร คุณพ่อคุณแม่จะป้องกันลูกได้ยังไงบ้าง ?

โรคไข้สมองอักเสบ สามารถเป็นได้จากหลายเชื้อ ซึ่งเชื้อที่ถูกนำมาทำวัคซีนเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงค่อนข้างสูง ซึ่งสมัยก่อนคนที่ติดโรคนี้มีโอกาสเสียชีวิตที่สูงมาก ๆ โดยเทียบอัตราเป็น 1 ใน 3 ส่วนคนที่หายจากโรคนี้ 2 ใน 3 จะมีความพิการทางสมองตลอดชีวิต ซึ่งโรคชนิดนี้เกิดการแพร่กระจายมาจากยุง ซึ่งยุงเป็นยุงรำคาญที่สามารถพบได้ทั่วไปตามบ้าน ทำให้โรคนี้สามารถติดได้ง่าย โดยในส่วนของอาการไข้สมองอักเสบนั้น จะมีอาการคือ มีไข้สูง มีอาการซึม และมีอาการชัก ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่น่าสนใจ : แม่แชร์ด้วยใจสลาย โรคไข้สมองอักเสบญี่ปุ่น ต้นเหตุพรากลูกไปจากอกแม่

 

นอกจากวัคซีนที่ต้องรับตามช่วงวัยของลูกแล้ว ควรเสริมวัคซีนที่เกี่ยวกับโรคอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ?

ในส่วนวัคซีนเสริมที่แนะนำว่าควรฉีดได้แก่

1. วัคซีนโรต้า ซึ่งหลายคนยังไม่ทราบว่าวัคซีนชนิดนี้ ได้เข้าโปรแกรมเป็นวัคซีนหลักแล้ว ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดมีลูกที่เกิดไม่ทันช่วงที่วัคซีนโรต้าเข้าโปรแกรม ควรพาลูกน้อยไปรับวัคซีนตัวนี้ เพราะวัคซีนตัวนี้สำคัญมาก เพราะโรต้าเป็นเชื้ออันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กท้องเสียได้บ่อย และทำให้ท้องเสียนาน โดยควรเป็นเด็กอายุไม่เกิน 8 เดือน จึงจะสามารถรับวัคซีนโรต้าได้

2. วัคซีนไอพีดี เพราะเชื้อไอพีดี (IPD) เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคมากมายทั้ง ปวดบวม สมองอักเสบ มีไข้ ติดเชื้อในกระแสเลือด และโรคอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งเชื้อตัวนี้ค่อนข้างรุนแรง ซึ่งวัคซีนชนิดนี้จะช่วยป้องกันโรคที่รุนแรงในตัวเด็กได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. วัคซีนสุกใส ซึ่งถึงแม้โรคนี้จะไม่ทำให้เสียชีวิต แต่คนที่เป็นโรคนี้จะมีตุ่มใส ๆ ไม่น่ามอง และยังมีไข้ และถึงแม้จะได้รับวัคซีนตัวนี้แล้ว แต่ลูกน้อยก็ยังสามารถเป็นสุกใสได้ แต่ความรุนแรงของโรคก็จะลดลง

4. วัคซีนมะเร็งปากมดลูก เป็นอีกหนึ่งวัคซีนเสริมที่ควรฉีด ซึ่งวัคซีนชนิดนี้ควรฉีดในเด็กที่มีอายุ 9 ปีขึ้นไป

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นอกจากวัคซีนหลักแล้ว ลูกควรฉีดวัคซีนเสริมอะไรอีกบ้าง ?

 

ในกรณีลูกฉีดวัคซีนครั้งแรก แล้วมีตุ่มใส ๆ จะมีผลอะไรกับลูกบ้าง

วัคซีนชนิดนี้เป็นวัคซีนวัณโรค ที่จะต้องฉีดให้กับเด็กทุกคนก่อนออกจากโรงพยาบาล ซึ่งเด็กบางคนจะมีตุ่มขึ้นบริเวณแขน ซึ่งมีทั้งตุ่มใส ตุ่มหนอง ซึ่งวิธีการรักษาคือปล่อยให้ตุ่มแห้งเองตามธรรมชาติ คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ไปบีบตุ่มนั้น แต่ในกรณีเด็กบางคนเป็นตุ่มหนอง แล้วหนองแตกให้คุณพ่อคุณแม่ใช้น้ำเกลือเช็ด และอย่าให้แผลโดนน้ำ แต่หากเป็นกรณีที่มีก้อนใต้รักแร้ขนาดใหญ่ ทางคุณหมอจะให้รักษาด้วยการให้ทานยา

 

และสำหรับหัวข้อ  ” กลัวลูกติดโควิด จน ไม่กล้าพาลูกไปฉีดวัคซีน มีผลเสียอย่างไร ” นั้น ต้องบอกคุณพ่อคุณแม่เลยว่าวัคซีน โดยเฉพาะวัคซีนในช่วง 1 ปีแรกนั้น เป็นวัคซีนที่คัดมาแล้วว่าสำคัญ จำเป็น และอัตราการเสียชีวิตที่สูงมากในเด็ก เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังกังวลกลัวว่าถ้าพาลูกไปฉีดวัคซีนจะทำให้ลูกติดโควิดนั้น อยากให้คิดไว้เสมอว่าอัตราการเสียชีวิตของโรคโควิดในเด็กนั้นน้อยมาก เมื่อเทียบกับโรคที่จะต้องฉีดวัคซีนในช่วง 1 ปีแรก ระวังได้แต่ต้องไม่ระแวงจนเกินไป ซึ่งหากในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ สามารถที่จะเลื่อนการรับวัคซีนได้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในระยะ 2 – 4 สัปดาห์ แต่ไม่ควรเกิน 1 – 2 เดือน อย่าขาดการฉีดวัคซีน เพื่อให้ลูกมีภูมิคุ้มกันโรคที่อันตรายกว่าโควิด

 

คุณหมอแอม แพทย์หญิงพรนิภา ศรีประเสริฐ กุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของจิตวิทยาพัฒนาการ  และจิตวิทยาสมองและการเรียนรู้ของเด็ก

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : 

จะรู้ได้อย่างไรว่า ลูกน้อยสายตาสั้นและหูหนวก หรือลูกพัฒนาการช้า กันแน่

เพศเรื่องธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา คุณพ่อคุณแม่มีวิธีรับมือยังไง!

สังเกตอย่างไร? ว่า ลูกเป็นออทิสติก พฤติกรรมแบบไหนเสี่ยงต่อโรคนี้

 

ที่มา : คุณหมอแอม แพทย์หญิงพรนิภา ศรีประเสริฐ

เจ้าของเพจ เรื่องเด็ก ๆ by หมอแอม

บทความโดย

watcharin