คาร์ซีท ตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยลูกน้อยปลอดภัยทุกการเดินทาง เพราะไลฟ์สไตล์ของพ่อแม่มือใหม่ในปัจจุบัน มีการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น อุปกรณ์เสริมอย่างรถเข็นเด็ก หรือแม้กระทั่งคาร์ซีทติดเบาะรถยนต์สำหรับเด็ก จึงกลายเป็นของใช้จำเป็นที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกซื้อ แล้วถ้า ลูกไม่ยอมนั่งคาร์ซีท จะทำอย่างไรดี มาหาคำตอบพร้อมกันค่ะ
คาร์ซีท เลือกแบบไหนถูกใจแม่ สบายลูก ปลอดภัยทุกฝ่าย
จากสถิติใน สหรัฐอเมริกาการใช้คาร์ซีท อย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตของทารกอายุต่ำกว่า 1 ขวบจากอุบัติเหตุในรถยนต์ได้ถึง 71% และ ลดความเสี่ยงเสียชีวิตสำหรับเด็ก 1-4 ขวบได้ถึง 54% เมื่อตัดสินใจได้ว่าการให้ลูกได้นั่งคาร์ซีทจะลดความเสี่ยง และมีความปลอดภัยเมื่อพาลูกน้อยเดินทางแล้ว คาร์ซีทเลือกแบบไหนถูกใจแม่
ปัญหาสำหรับคุณพ่อคุณแม่ คือการตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทแบบไหนดี นอกจากรูปลักษณ์ รูปทรง ที่ตอบโจทย์ การรองรับสรีระของลูกน้อยแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือการ ได้รับมาตรฐานและผ่านการทดสอบ ด้านความปลอดภัยมาเป็นอย่างดี รวมถึงปัจจัยเหล่านี้
คาร์ซีท จะแบ่งหลัก ๆ ตามช่วงอายุวัยของเด็ก ออกเป็น 4 ประเภท
1.คาร์ซีทสำหรับเด็กวัยแรกเกิด แบ่งออกเป็น 2 แบบตามลักษณะสินค้า คือ
- Rear – Facing Seat คาร์ซีทแบบ นั่งหันหน้าเข้าเบาะ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 18 เดือน (หรือ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่น และยี่ห้อ) ส่วนมากจะเป็นแบบกระเช้า
- Forward – Facing Seat ใช้ได้ ตั้งแต่แรกเกิด – 4 ปี (หรือ 7 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น และ ยี่ห้อ) คาร์ซีทที่สามารถนั่งหันหน้าเข้าเบาะ หรือหันไปทางด้านหลังรถ และสามารถปรับเอนนอนได้ด้วยค่ะ
- Combination Seat เป็นคาร์ซีทแบบผสม หันได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังรถ
- Booster Seat คาร์ซีทแบบเบาะนั่งเสริมความสูง ซึ่งคาร์ซีทประเภทนี้จะใช้ช่วงสุดท้ายของวัยเด็ก ก่อนที่ลูกจะเข้าสู่ช่วงโตเป็นวัยรุ่น จนสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ได้
ปัจจัยในการเลือกซื้อคาร์ซีท
- นอกจากช่วงวัย การใช้งานของลูกแล้ว ยังต้องดูตำแหน่งติดตั้ง ลักษณะของเบาะรถ ซึ่งโดยส่วนใหญ่คาร์ซีทจะสามารถติดตั้งได้กับรถทุกประเภททั้ง รถเก๋ง รถกระบะ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของเบาะรถยนต์ที่จะติดตั้งด้วย
- ความแตกต่างของ คาร์ซีท แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะต่างกันที่วัสดุ ราคา ลักษณะของเบาะ ที่มีทั้งแบบ ผ้า และ แบบหนัง เบาะผ้า จะให้ความเย็น แต่ต้องหมั่นนำออกมาซักทำความสะอาด ส่วนเบาะหนังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
- น้ำหนักของคาร์ซีท ขึ้นอยู่กับการใช้งานของคุณแม่ หากจะยกขึ้น-ลง
- ระบบการติดตั้งคาร์ซีท มี 2 แบบคือ แบบ Safety belt กับ แบบ Isofix
ทั้งนี้หากคุณพ่อ คุณแม่ ตัดสินใจซื้อคาร์ซีทมาแล้ว เพื่อความปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกน้อย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดคาร์ซีทให้ถูกวิธี โดยดูจากคู่มือการติด หรือ ข้อคำแนะนำจากพนักงานขายเพื่อความมั่นใจกับความปลอดภัยของลูกที่เพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลสัมภาษณ์ จากผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยี่ห้อ Camera และ Recaro
ลูกไม่ยอมนั่งคาร์ซีท แก้ปัญหาอย่างไรดี
เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้วิธีแก้ปัญหาเมื่อลูกน้อยไม่ชอบคาร์ซีท
- ทำให้เด็ก ๆ รู้สึกสบายใจตั้งแต่แรก ทารกที่อารมณ์เสียในนาทีแรกที่ถูกวางไว้ในคาร์ซีทจะเป็นแบบนั้นไปจนถึงปลายทาง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเริ่มต้นที่ดีจึงเป็นเหตุผลสำคัญ โดยการทำให้เบาะคาร์ซีทนั่งสบายที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ อย่าปล่อยให้เด็กน้อยรู้สึกอึดอัดตั้งแต่แรก เพราะอาจทำให้พวกเขาตกใจหรือทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ทำให้เด็กรู้สึกเกลียดคาร์ซีท การเล่นกับเด็กในขณะที่อยู่ในคาร์ซีทก็ช่วยให้เด็ก ๆ ผ่อนคลายมากขึ้น
- เลือกเสื้อผ้าที่เหมาะสม อุณหภูมิอาจเป็นปัญหาสำหรับเด็ก ๆ เมื่อนั่งคาร์ซีท บางทีอากาศร้อนเกินไปก็ไม่ควรให้เด็กนั่งคาร์ซีทโดยการสวมเสื้อแจ็กเกต เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ร้อนเกินไป แต่เสื้อแจ็กเกตจำนวนมากยังช่วยให้สายรัดเบาะรถทำงานได้ไม่ดีพออีกด้วย
- ร้องเพลงด้วยกัน เสียงเพลงช่วยปลอบประโลมเด็ก ๆ ระหว่างนั่งรถ การใช้ดนตรีช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกสงบมากขึ้น การจัดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดของลูกน้อยอาจได้ผลดี
- เด็กทารกที่มีแก๊สในท้องมากหลังรับประทานอาหาร ซึ่งเด็ก ๆ จะไม่ชอบการถูกบีบรัดหลังกินอิ่ม คุณพ่อคุณแม่ต้องวางแผนให้เด็ก ๆ ได้เคลื่อนไหว ได้เรอ ก่อนที่จะกลับไปนั่งคาร์ซีท
- ตรวจสอบดูว่ามีอะไรทำให้ลูกน้อยรู้สึกไม่สบายใจ เช่น พระอาทิตย์ส่องใบหน้าของลูกหรือไม่ แนะนำให้ใช้ที่บังแดดแบบติดกระจก อาจจะเป็นที่บังแดดลายการ์ตูนน่ารัก ๆ เพื่อเพิ่มความสนใจแก่เด็ก ๆ
- ยิ้มและอดทน เพราะความปลอดภัยต้องมาก่อน เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทำทุกอย่างแล้ว แต่ลูกไม่ยอมนั่งคาร์ซีทอยู่ดี อาจต้องอดทนกับการนั่งรถที่มีเสียงร้องดังของลูก ไม่ว่าลูกจะแสดงความไม่พอใจออกมาดังแค่ไหน ให้คิดเอาไว้เสมอว่า คาร์ซีทสำคัญกับลูกที่สุดในการเดินทาง ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับ 1
คาร์ซีทนั้น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง บางคนอาจจะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ หรือไม่จำเป็น แต่แท้จริงแล้วเมื่อไหร่ที่ทารกตัวน้อยขึ้นรถ คาร์ซีทเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตาม เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น คาร์ซีทนี้เองจะเป็นตัวช่วยให้ลูกน้อยของเราปลอดภัยได้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะมีคาร์ซีทให้ลูกด้วย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ความสำคัญของคาร์ซีท คาร์ซีทจำเป็นไหม วิธีฝึกลูก นั่งคาร์ซีท ให้ทารก เด็กเล็ก ปลอดภัย
คาร์ซีทจำเป็นไหม เราเฉลยให้ที่นี่
อันตรายถึงชีวิต หากติดตั้งคาร์ซีทผิดวิธี
ที่มา : kidshealth