รู้ไหมคะว่ากระดูกท่อนจิ๋วของลูกน้อยนั้นก็มีโอกาสในการเกิดโรคกระดูกพรุนได้เหมือนกับผู้ใหญ่เลยค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะเพราะเพียงแค่ลูกได้รับแคลเซียมในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ร่วมกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ก็มีส่วนในการช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนในเด็กได้ ลูกน้อยเติบโตสมวัย โครงสร้างร่างกายแข็งแรง ซึ่งแหล่งแคลเซียมสำคัญสำหรับลูกน้อยแน่นอนว่าคือ “นมและผลิตภัณฑ์จากนม” ดังนั้น วันนี้เราจึงมี 9 นมกล่อง UHT ที่คุณแม่สามารถเลือกมาเป็น นมบำรุงกระดูก สำหรับลูกน้อยวัย 1 ปีขึ้นไปมาให้พิจารณาค่ะ
เสริมสร้างร่างกายลูกด้วย นมบำรุงกระดูก และโภชนาการที่ดี
หากคุณแม่ต้องการบำรุงกระดูกให้ลูกน้อยเติบโตสมวัย โครงสร้างร่างกายแข็งแรง การดูแลเรื่องโภชนาการตั้งแต่เด็กเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ ไม่ว่าจาก นมบำรุงกระดูก หรือจากอาหาร เพราะสิ่งที่ลูกได้รับจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของร่างกาย ซึ่งกระดูกเป็นโครงสร้างสำคัญที่รองรับน้ำหนักตัวและช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว
โดยความแข็งแรงของกระดูกนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณมวลกระดูก (bone mass) และร่างกายจะสะสมมวลกระดูกได้มากที่สุดในช่วงเด็กและวัยรุ่น หากสะสมมวลกระดูกได้อย่างเพียงพอก็จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนในวัยผู้ใหญ่หรือวัยสูงอายุได้ ซึ่งการส่งเสริมกระดูกให้แข็งแรงง่าย ๆ ก็คือ การกินอาหารที่มีแคลเซียมในปริมาณพอเหมาะกับความต้องการของร่างกายค่ะ
สารอาหารสำคัญที่ควรมีใน นมบำรุงกระดูก
ส่วนประกอบสำคัญของกระดูกคนเราก็คือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนในเนื้อกระดูกค่ะ ดังนั้น ลูกน้อยจึงควรได้รับสารเหล่านี้ให้เพียงพอต่อความต้องการตามช่วงวัยของเขานะคะ
-
แคลเซียม
สำคัญต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก โดยเฉพาะในเด็กที่กำลังเจริญเติบโต โดยแคลเซียมที่กินเข้าไปนั้นร่างกายจะดูดซึมได้เพียงร้อยละ 30 เท่านั้น เด็กแต่ละวัยจึงควรกินแคลเซียมให้เพียงพอกับความต้องการในแต่ละวัน ดังนี้
อายุ | ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับ/วัน |
แรกเกิด – 6 เดือน | 400 มิลลิกรัม/วัน |
6 เดือน – 1 ปี | 600 มิลลิกรัม/วัน |
1-3 ปี | 700 มิลลิกรัม/วัน |
4-8 ปี | 1000 มิลลิกรัม/วัน |
9-18 ปี | 1300 มิลลิกรัม/วัน |
ทั้งนี้ อาหารที่มีแคลเซียมปริมาณมากและดูดซึมได้ดีที่สุดคือ “นมและผลิตภัณฑ์จากนม” ค่ะ ส่วนอาหารอื่น ๆ ที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ กุ้งแห้ง ปลาตัวเล็ก เต้าหู้ และผักอย่างตำลึง ผักกระเฉด ขี้เหล็ก ดอกแค สะเดา
-
ฟอสฟอรัส
คือ แร่ธาตุที่ทำงานร่วมกับแคลเซียมเป็นโครงสร้างของกระดูกและฟัน มีหน้าที่กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท กระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งปริมาณฟอสฟอรัสที่ควรได้รับในแต่ละวัน คือ
อายุ | ปริมาณฟอสฟอรัสที่ควรได้รับ/วัน |
แรกเกิด – 6 เดือน | 100 มิลลิกรัม/วัน |
6 เดือน – 1 ปี | 275 มิลลิกรัม/วัน |
1-3 ปี | 460 มิลลิกรัม/วัน |
4-8 ปี | 500 มิลลิกรัม/วัน |
9-18 ปี | 1000 มิลลิกรัม/วัน |
โดยอาหารที่มีฟอสฟอรัสในปริมาณที่เหมาะสม คือ ไข่ขาว เนื้อปลา เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ ไม่ติดหนัง วุ้นเส้น น้ำมะนาว น้ำใบเตย น้ำอัญชัน น้ำขิง
-
วิตามินดี
ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสจากอาหาร ออกฤทธิ์ที่กระดูก ช่วยในการเจริญเติบโต และยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ สาเหตุให้เกิดการสลายกระดูก มวลกระดูกของเด็กที่ขาดวิตามินดีอย่างรุนแรงอาจทำให้เป็นโรคกระดูกอ่อน ตัวเตี้ยและขาโก่งได้ค่ะ ซึ่งปริมาณวิตามินดีที่เด็กควรได้รับคือ วันละ 400-600 IU (10-15 ไมโครกรัม) ดังนั้น คุณแม่ควรให้ลูกได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ได้รับแสงแดด เนื่องจากแสงแดดจะช่วยเปลี่ยนคอเลสเตอรอลในร่างกายไปเป็นวิตามินดีนั่นเอง รวมถึงกินอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล น้ำมันตับปลา ไข่แดง นม
-
โปรตีน
การกินโปรตีนและได้รับพลังงานเพียงพอมีความสำคัญต่อการขยายตัวของกระดูกค่ะ หากลูกน้อยขาดโปรตีนระดับฮอร์โมน IGF-1 จะต่ำลง ซึ่งฮอร์โมนนี้มีความสำคัญต่อการขยายตัวและแบ่งตัวของเซลล์กระดูกบริเวณส่วนปลายของกระดูกยาว ลูกจึงต้องได้รับโปรตีนที่เพียงพอเพื่อการเติบโตของกระดูกค่ะ สำหรับลูกวัย 1-3 ขวบนั้นสัดส่วนโปรตีนที่ได้รับต่อวันไม่ควรเกินร้อยละ 15 ของพลังงานทั้งหมด (วัยนี้ต้องการพลังงานวันละ 1,000 กิโลแคลอรี) หรือประมาณ 19 กรัมต่อวันค่ะ
-
สังกะสี
มีผลต่อการสร้างและการเจริญเติบโตของกระดูก หากขาดแร่ธาตุชนิดนี้ จะทำให้การเจริญเติบโตของลูกน้อยลดลง เบื่ออาหาร ลูกอาจมีภาวะผมร่วง หรือผื่นผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โดยแร่ธาตุสังกะสีพบมากในเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อแดง ไข่แดง ตับ เนย หอยนางรม ทั้งนี้ ลูกน้อยที่อายุไม่เกิน 2 ปี ควรได้รับสังกะสีวันละ 2-3 มิลลิกรัม ในวัย 6-8 ปี ควรได้รับวันละ 4 มิลลิกรัม และอายุ 9-12 ปี ควรได้รับวันละ 5 มิลลิกรัมค่ะ
-
แมกนีเซียม
ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการสร้างกระดูก พบมากในธัญพืช ผักใบเขียว และถั่ว โดยปริมาณแมกนีเซียมที่ปลอดภัยและเหมาะกับช่วงวัย 1-3 ปี คือมีปริมาณที่น้อยกว่า 80 มิลลิกรัมต่อวัน อายุ 4-8 ปี 130 มิลลิกรัม และเด็กอายุ 9-13 ปีขึ้นไป คือ 240 มิลลิกรัม
-
วิตามินเค
ช่วยในการสร้างโปรตีนที่ช่วยให้แคลเซียมจับกับกระดูกได้ดีขึ้น พบมากในผักใบเขียวเข้ม โดยปริมาณวิตามินเคที่แนะนำต่อวันตามช่วงวัยคือ
อายุ | ปริมาณวิตามินเคที่ควรได้รับ/วัน |
แรกเกิด – 6 เดือน | 2 ไมโครกรัม/วัน |
6 เดือน – 1 ปี | 2.5 ไมโครกรัม/วัน |
1-3 ปี | 30 ไมโครกรัม/วัน |
4-8 ปี | 55 ไมโครกรัม/วัน |
9-13 ปี | 60 ไมโครกรัม/วัน |
9 นมบำรุงกระดูก แคลเซียมสูง เพื่อโครงสร้างร่างกายแข็งแรงของลูกน้อย
- นม UHT ที่มากจากนมวัวแท้ 100%
นมบำรุงกระดูก ในหมวดนี้จะมีแคลเซียมตามธรรมชาติในปริมาณสูงค่ะ คือประมาณ 25-35% (ต่อปริมาณ 1 หน่วยบริโภค : 1 กล่อง) ดังนั้น คุณแม่ต้องเสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงกระดูกชนิดอื่น ๆ เข้าไปด้วยการให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้นะคะ
1) ไทย-เดนมาร์ค โอเมก้าพลัส นมยูเอชที รสจืด
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
เป็นนม UHT ที่ผลิตจากน้ำนมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผง เหมาะสำหรับลูกน้อยวัยอายุ 1 ปีขึ้นไป เป็นสูตรที่มีครบทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน วิตามินดี แมกนีเซียม วิตามินเค และสังกะสี ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง นอกจากนี้ในสูตรยังเติม DHA จากปลา โอเมก้า 3, 6, 9 และวิตามินต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาด้วยค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 25% |
ฟอสฟอรัส | 25% |
วิตามินดี | 40% |
โปรตีน | 5 กรัม |
สังกะสี | 4% |
แมกนีเซียม | 4% |
วิตามินเค | 45% |
2) โฟร์โมสต์ นมโคแท้ 100% รสจืด
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
ผลิตจากนมโคแท้ 100% และไม่ผสมนมผง เป็นนมที่มีสารอาหารสำคัญในการบำรุงกระดูกลูกน้อยหลายชนิด คือ มีแคลเซียมตามธรรมชาติ ฟอสฟอรัส วิตามินดี วิตามินเค และมีโปรตีนในปริมาณสูงค่ะ ส่วนสารอื่น ๆ อาทิ แมกนีเซียม สังกะสี คุณแม่สามารถหาได้จากอาหารมื้อหลักจำพวกผักใบเขียว ไข่แดง ตับ ฯลฯ สูตรนี้ก็มีการเพิ่มวิตามินอื่น ๆ รวมถึงโอเมก้า 3, 6, 9 ด้วยค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 35% |
ฟอสฟอรัส | 25% |
วิตามินดี | 6% |
โปรตีน | 7 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | – |
วิตามินเค | 4% |
3) ดัชมิลล์ ซีเล็คเต็ด น้ำนมโคยูเอชที รสจืด
ปริมาณ 225 มิลลิลิตร
เป็นนมวัว 100% ที่มีแคลเซียมตามธรรมชาติสูง มีฟอสฟอรัส และโปรตีนสูง เหมาะเป็นอาหารเสริมบำรุงกระดูกลูกน้อยวัย 1-3 ปี ที่ได้รับอาหารหลักครบถ้วน 3 มื้อ และได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอด้วยค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 30% |
ฟอสฟอรัส | 25% |
วิตามินดี | – |
โปรตีน | 7 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | – |
วิตามินเค | – |
- นม UHT ที่เป็นนมผสม
นมกล่อง นมบำรุงกระดูก ในหมวดนี้จะเป็นสูตรนมวัวผสมนมผงและสารประกอบอื่น ๆ ค่ะ จึงจะมีการเติมสารอาหารเข้ามาหลากหลายชนิด และเติมแคลเซียมเข้ามาในปริมาณที่สูง 30-40% รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุหลักที่สำคัญในการบำรุงกระดูกและฟันของลูกน้อยด้วย
4) ไฮคิว 1 พลัส ซูเปอร์โกลด์ พรีไบโอโพรเทก นมยูเอชที สูตร 3
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
เป็นนมสูตรที่มีนมวัว 51% ผสมกับนมผงขาดมันเนย 2.64% และส่วนประกอบอื่น ๆ สูตรนี้มีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงแก่กระดูกและฟันให้ลูกน้อยค่อนข้างครบ ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน แมกนีเซียม วิตามินดีและเคในปริมาณสูง ทั้งยังเป็นสูตรที่มีใยอาหาร ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย มีโอเมก้า 3, 6, 9 และวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ เสริมเข้ามาอีกหลายชนิดค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 30% |
ฟอสฟอรัส | 20% |
วิตามินดี | 40% |
โปรตีน | 7 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | 4% |
วิตามินเค | 20% |
5) เอนฟาโกร เอพลัส ซุพีเรียร์ นมยูเอชที สูตร 3
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
เป็นนม UHT สูตรที่ใช้นมผง 7% ผสมกับบัตเตอร์มิลค์ เวย์โปรตีน และผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ เป็นสูตรที่เติมสารอาหารบำรุงกระดูกลูกน้อยมาครบถ้วน ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน แมกนีเซียม สังกะสี วิตามินดีและเค โดยมีการเติมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เข้ามา รวมทั้ง DHA และโอเมก้า 3, 6, 9 ด้วย
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 30% |
ฟอสฟอรัส | 20% |
วิตามินดี | 15% |
โปรตีน | 5 กรัม |
สังกะสี | 10% |
แมกนีเซียม | 6% |
วิตามินเค | 8% |
6) โฟร์โมสต์ โอเมก้า 369 โกลด์ 1 พลัส นมยูเอชที รสจืด
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
เป็นนมสูตรที่มีนมวัว 38% ผสมกับนมผงขาดมันเนย 3.7% และส่วนประกอบอื่น ๆ สูตรนี้มีสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงแก่กระดูกและฟันให้ลูกน้อยค่อนข้างครบ โดยเฉพาะแคลเซียมมีมาในปริมาณสูง ฟอสฟอรัส โปรตีน แมกนีเซียม วิตามินดีและเคในปริมาณสูง มีการเพิ่ม DHA โอเมก้า 3, 6, 9 สฟิงโกไมอีลิน วิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 40% |
ฟอสฟอรัส | 25% |
วิตามินดี | 45% |
โปรตีน | 4 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | 4% |
วิตามินเค | 30% |
- นมถั่วเหลือง และนมสูตรพิเศษ
นมบำรุงกระดูก ในหมวดนี้จะเป็นสูตรนมถั่วเหลือง และนมสูตรอื่น ๆ อาทิ นมที่ไม่มีแลคโตส (Lactose Free) ซึ่งมีแคลเซียมสูง มีสารอาหารอาหารที่ช่วยหลักสำคัญในการบำรุงกระดูกและฟันของลูกน้อย ที่สำคัญคือ เหมาะสำหรับเป็นทางเลือกให้กับเด็กที่แพ้โปรตีนในนมวัว หรือมีภาวะย่อยน้ำตาลแลคโตสบกพร่องแต่ยังต้องการบำรุงกระดูกและฟันด้วยค่ะ
7) m Milk UHT สูตร Lactose Free รสจืด
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
เป็นนม UHT ที่ผลิตจากนมวัวแท้ 100% นะคะ แต่เป็นสูตรที่มีการย่อยน้ำตาลแลคโตสตามธรรมชาติ ด้วยเอนไซม์จนกลายเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่ดูดซึมง่าย ไม่ทำให้ท้องอืดค่ะ โดยนมสูตรนี้มีสารอาหารบำรุงกระดูกที่สำคัญอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน และวิตามินแร่ธาตุอื่น ๆ ทั้งยังน้ำตาลน้อยด้วย ซึ่งคุณแม่สามารถใช้เป็นอาหารเสริมจากอาหารมื้อหลักให้ลูกน้อยที่มีภาวะย่อยแลคโตสบกพร่องได้ค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 25% |
ฟอสฟอรัส | 20% |
วิตามินดี | – |
โปรตีน | 5 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | – |
วิตามินเค | – |
8) วีซอย นมถั่วเหลือง รสจืด
ปริมาณ 230 มิลลิลิตร
เป็นนมถั่วเหลือง UHT ที่มีปริมาณแคลเซียมสูงมาก เหมาะเป็น นมบำรุงกระดูก ของลูกน้อยโดยเฉพาะกรณีที่ลูกแพ้นมวัว ซึ่งนอกจากแคลเซียมแล้วยังมีสารอาหารตัวอื่นที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูและฟันมาค่อนข้างครบ โปรตีนสูง วิตามินดีสูง รวมถึงมีใยอาหารและน้ำตาลน้อยด้วยค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 50% |
ฟอสฟอรัส | 15% |
วิตามินดี | 50% |
โปรตีน | 9 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | 15% |
วิตามินเค | 20% |
9) 137 Degrees นมอัลมอนด์ รสจืด สูตรไม่เติมน้ำตาล
ปริมาณ 180 มิลลิลิตร
เป็นนมอัลมอนด์ UHT สูตรไม่เติมน้ำตาล เหมาะสำหรับลูกน้อยที่แพ้นมวัว หรือมีภาวะย่อยแลคโตสบกพร่อง โดยเป็นสูตรที่มีแคลเซียมและสารอาหารหลักที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูและฟัน และมีการเติมวิตามินกับสารอาหารที่มีประโยชน์อื่น ๆ มาอีกหลายตัวค่ะ
สารอาหาร | ปริมาณ |
แคลเซียม | 25% |
ฟอสฟอรัส | 20% |
วิตามินดี | – |
โปรตีน | 2 กรัม |
สังกะสี | – |
แมกนีเซียม | 8% |
วิตามินเค | – |
สำหรับลูกน้อยวัย 1-3 ปีนั้น การได้รับ นมบำรุงกระดูก ควรเป็นไปในรูปแบบของอาหารเสริมนะคะ เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ควรให้เขาได้กินอาหารหลักครบ 5 หมู่ทั้ง 3 มื้อ เพื่อให้ร่างกายทุกส่วน ทุกระบบ ได้รับสารอาหารที่สำคัญอย่างครบถ้วน ลูกจึงจะเติบโตอย่างแข็งแรงและมีพัฒนาการที่สมวัยทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญาค่ะ นอกจากนี้ หากคุณแม่ไม่มั่นใจ ก่อนจะเลือกนมชนิดอื่น ๆ นอกเหนือจากนมแม่ให้ลูกกิน อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะ
ที่มา : www.si.mahidol.ac.th , www.synphaet.co.th , www.petcharavejhospital.com , www.thaihealth.or.th , www.pobpad.com , hdmall.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 นมผงเด็ก 1 ขวบ เลือกที่เหมาะ บ่มเพาะพัฒนาการลูกน้อย
1 ขวบกินนมเปรี้ยวดีไหม ประโยชน์-โทษต่อลูกน้อยมีอะไรบ้าง
ลูกฉี่รดที่นอน เรื่องปกติไหม บ่อยแค่ไหนน่ากังวล