ค่าเทอม 13 โรงเรียนทางเลือก น่าสนใจใน กทม. และปริมณฑล

13 โรงเรียนทางเลือก ใน กทม. และพื้นที่ใกล้เคียง ที่น่าสนใจ ค่าเทอม เท่าไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อลูกน้อยเติบใหญ่พร้อมเข้าสู่ “วัยเรียน” การเลือกโรงเรียนให้ลูกจึงเป็นอีกหนึ่งหัวข้อหลักที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญและพิถีพิถันอย่างมาก เพราะการศึกษาที่ดีเป็นจุดเริ่มสำคัญของการดำเนินชีวิตในสังคมของลูก แล้วจะเลือกโรงเรียนอย่างไร หลักสูตรแบบไหน จะเน้นวิชาการหรือหันเข้าหา “โรงเรียนทางเลือก” ที่เริ่มได้รับความนิยมและเข้ามามีบทบาทมากขึ้นต่อการตัดสินใจของคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญทั้ง IQ และ EQ ของลูก ดังนั้น จะขอพาไปทำความรู้จักกับรูปแบบต่าง ๆ พร้อมเปิด ค่าเทอม โรงเรียนทางเลือก ใน กทม. และพื้นที่ใกล้เคียง ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เก็บไว้ประกอบการตัดสินใจเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมให้ลูกค่ะ

โรงเรียนทางเลือกคืออะไร 

  • โรงเรียนที่มีแนวการศึกษาหลากหลายและเฉพาะตัว เพื่อตอบสนองต่อความสนใจของผู้เรียนเป็นหลัก
  • มีระบบการศึกษาที่ค่อนข้างยืดหยุ่น มีการปรับแนวทางการเรียนการสอนที่ไม่ได้เน้นการเขียนอ่าน และท่องจำ
  • มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะจากความสามารถเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน โดยให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เด็กจะได้เรียนรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น ได้ลงมือปฏิบัติจริง
  • เด็กจะมีอิสระในการเลือกในกิจกรรมที่ชอบ ส่งเสริมให้เด็กกล้าคิด แสดงออก และมีความเป็นตัวของตัวเอง

โดยในปัจจุบัน โรงเรียนทางเลือก แต่และแห่งจะมีแนวทางและรูปแบบการสอนที่แตกต่างกันไป ทำให้มีลักษณะเฉพาะของตัวเอง

เหตุผลที่ทำให้ โรงเรียนทางเลือก มีความน่าสนใจ 

สิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านหันมาสนใจ โรงเรียนทางเลือก น่าจะมาจากความเปลี่ยนแปลงในสังคมปัจจุบันเป็นหลัก โดยระบบการศึกษาหลักไม่ได้ให้ความสำคัญกับการค้นหาตัวตนและการหาความหมายให้กับชีวิตของเด็ก ๆ แต่หลักสูตรการศึกษาถูกออกแบบมาเพื่อเตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับโลกแห่งการทำงาน มีชุดทักษะที่จะช่วยสร้างความสำเร็จทางวัตถุ แต่อาจยังขาดการหล่อเลี้ยงให้เด็ก ๆ เติบโตอย่างมีความสุขสมบูรณ์รอบด้านตามพัฒนาการ ทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การเรียนการสอนในโรงเรียนทางเลือกจึงคล้ายสิ่งที่จะเข้ามาเติมเต็มด้านที่ขาดหายไปจากระบบการศึกษาในปัจจุบันนั่นเอง

 

10 แนวทางการสอนของ โรงเรียนทางเลือก รูปแบบต่าง ๆ 

วิธีการสอนของโรงเรียนทางเลือกแต่ละแห่งมักแบ่งตามปรัชญาที่ยึดเป็นพื้นฐานในการศึกษา ซึ่งตัวอย่างแนวทางการสอนของโรงเรียนทางเลือก รูปแบบต่าง ๆ มีอาทิ

1) แนวการสอนแบบวอลดอร์ฟ (Waldorf)

เน้นการบูรณาการวิชาการกับกิจกรรรมต่าง ๆ โดยให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์ ให้เด็กได้พัฒนาทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา ผ่านการใช้ศิลปะเป็นตัวเชื่อม พัฒนาให้เด็กเป็นมนุษย์ที่มีบุคลิกภาพที่สมดุลกลมกลืนไปสิ่งแวดล้อม เน้นให้เด็กมีโอกาสได้ปฏิบัติจริง ใช้ชีวิตเรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่มีห้องเรียน ไม่มีกระดานดำ แต่มีมุมเรียนรู้ต่าง ๆ ทั้งกลางแจ้งและในห้องเรียน ค่อย ๆ เรียนรู้ผ่านกิจกรรมทางกาย อารมณ์ความรู้สึก และการคิด การละเล่น กิจกรรมฝึกทักษะ และจินตนาการ ครบทั้งศิลปะ ดนตรี ทักษะการใช้ร่างกาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

2) การสอนแบบมอนเตสซอรี (Montessori)

เกิดจากความเชื่อที่ว่า เด็กแต่ละคนมีความเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน จึงควรได้รับการยอมรับ เติบโตในแบบของตัวเองตามความสามารถที่มี จึงเน้นการเรียนการสอนตามพัฒนาการและความต้องการของเด็กแต่ละคน ยึดเด็ก ๆ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ โรงเรียนเพียงจัดสรรสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับช่วงวัย ให้เด็กได้ตั้งคำถาม ลงมือทำด้วยตัวเองอย่างอิสระ พร้อมกับสอนให้เด็กรักตัวเอง มีความอดทนอดกลั้น รู้จักรับผิดชอบ เห็นคุณค่าและเคารพความแตกต่างของผู้อื่น ลูกน้อยจะสามารถออกแบบความคิดได้เอง ลงมือทำอย่างอิสระภายใต้ขอบเขต เกิดการสั่งสมประสบการณ์ เรียนรู้ เข้าใจ และจดจำ เติบโตไปเป็นเด็กที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ สามารถแก้ปัญหาได้เองอย่างสร้างสรรค์ในอนาคต

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3) แนวทางการสอนแบบเรกจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emilia)

เป็นหลักสูตรที่เน้นทักษะด้านกระบวนการทางความคิด ส่งเสริมให้เด็กรู้จักคัดกรองความรู้ มีการวางแผน คาดคะเนคำตอบ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ สนับสนุนให้เกิดการตั้งคำถามและหาคำตอบด้วยกันเป็นกลุ่ม กระตุ้นให้เด็ก ๆ เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งจะทำให้เด็กมีความมั่นใจ เห็นคุณค่าในตัวเอง และเคารพผู้อื่น หัวข้อกิจกรรมในห้องเรียนจะเกิดจากสิ่งที่เด็กต้องการเรียนรู้ ไม่มีการกำหนดระยะเวลาแน่นอน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสนใจของเด็ก นอกจากนี้สิ่งที่ต่างจากแนวทางสอนรูปแบบอื่น ๆ คือ เรกจิโอ เอมิเลีย จะรวมพ่อแม่ ครู เด็ก ชุมชน เข้าไปในกิจกรรม ให้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ร่วมกันด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4) แนวการสอนแบบนีโอ-ฮิวแมนนิสต์ (Neo-Humanist Education)

มุ่งเน้นสร้างเด็กที่มีความฉลาด จิตใจดี มีความคิดด้านบวก มีความภาคภูมิใจในตัวเอง มีร่างกายที่แข็งแรง ผ่านกิจกรรมในการสร้างเซลล์สมองที่พัฒนาไปตามวัยได้อย่างเต็มที่ มีการผสมผสานการเรียนและการเล่นเข้าด้วยกัน ทำให้เด็กมีความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) จากการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการพาเด็กไปสัมผัสกับประสบการณ์จริงนอกห้องเรียน เช่น การไปเรียนรู้ธรรมชาติที่สวนสาธารณะ ไปทัศนศึกษา เป็นอาสาสมัคร เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก

 

5) การสอนแบบพหุปัญญา (Multiple Intelligence)

เน้นการเชื่อมโยงระหว่างสาระการเรียนรู้และความสามารถทางการเรียนรู้ในเด็ก เป็นแนวการสอนที่เชื่อว่าเด็กมีแต่ละคนมีความฉลาดที่ต่างกัน จึงเน้นส่งเสริมให้เด็กแต่ละคนได้พัฒนาศักยภาพตามความถนัดใน 8 ด้าน ได้แก่ ภาษา, ดนตรี, ตรรกะและคณิตศาสตร์, มิติสัมพันธ์, ร่างกายและการเคลื่อนไหว, มนุษยสัมพันธ์, การเข้าใจตนเอง และด้านธรรมชาติ เพื่อทำให้เด็กรู้จุดเด่นจุดด้อยแล้วดึงศักยภาพของตัวเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกิดความภาคภูมิใจ และสามารถตั้งเป้าหมายในอนาคตได้

 

6) แนวทางการสอนวิถีพุทธ (Buddhist School)

โรงเรียนทางเลือก แนววิถีพุทธนี้จะเป็นสถานศึกษาในระบบปกติ ที่นำองค์ความรู้อันเป็นคำสอนในพระพุทธศาสนาเข้ามาประยุกต์ใช้ในหลักสูตร นำหลักคำสอนมาใช้ในการจัดการศึกษา ให้ธรรมะคอยกล่อมเกลาจิตใจ เด็กๆ จะได้เรียนรู้การสวดมนต์ นั่งสมาธิ การเจริญสติปัญญา มีการพัฒนาด้านศีล สมาธิ และปัญญา รู้จักวิธีปฏิบัติเพื่อพัฒนาจิตใจของตนเอง เกิดการเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความเข้าอกเข้าใจ สามารถมองเห็นและรับมือกับปัญหาได้เป็นอย่างดี และเติบโตอย่างมีอารมณ์ที่มั่นคง

 

7) การสอนแบบองค์รวม (Holistic Education)

เป็นการสอนที่เตรียมนักเรียนให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในการใช้ชีวิตและวิชาการ เน้นการเรียนแบบบูรณาการ และเชื่อว่าสิ่งสำคัญสำหรับเยาวชน คือ การเรียนรู้ในแต่ละด้าน ได้แก่ ด้านที่เกี่ยวกับตนเอง, เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ดีในการใช้ชีวิตและพฤติกรรมส่งเสริมสังคม, เกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านสังคมและการอยู่ร่วมกับคนอื่น, เกี่ยวกับการพัฒนาด้านอารมณ์ และความยืดหยุ่นและปรับตัว โดยเน้นการตั้งคำถามและหาคำตอบ เริ่มต้นจากการค้นหาตัวตน ความหมายและเป้าหมายในการดำเนินชีวิต แล้วจึงค่อย ๆ ขยายขอบเขตให้กว้างขึ้น เริ่มมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ไปจนถึงระดับสังคม ผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริง (Experience-based learning)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

8) แนวทางการสอนแบบโครงการ (Project Approach)

เป็นแนวทางที่พัฒนามาจากการเรียนรู้แบบเรกจิโอ เอมิเลีย เปิดโอกาสให้เด็กได้เลือกทำโครงการในหัวข้อที่สนใจ ศึกษา รวบรวม สืบค้นข้อมูลได้เองทั้งจากแหล่งข้อมูลและสิ่งแวดล้อมจริง และนำมาเสนอ เพื่อให้เด็กได้ Learning to Learn และ Learning to Think โดยมีครูช่วยบูรณาการกิจกรรม ภาษาไทย อังกฤษ คณิต วิทย์ สังคม ผนวกเข้ากับกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งนอกจากจะทำให้เด็กฝึกการเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้ว ยังมีความสุขกับในการเรียนสิ่งที่สนใจจริง ๆ รู้จักคิด วิเคราะห์ พิจารณาสิ่งต่าง ๆ อย่างมีเหตุมีผล รวมทั้งทำงานอย่างมีแบบแผนได้สมบูรณ์

 

9) การสอนแบบไฮสโคป (High Scope)

เน้นพัฒนาศักยภาพของเด็กผ่านการลงมือทำด้วยพื้นที่มุมเล่นที่หลากหลาย สื่อและกิจกรรมมีความเหมาะสมกับพัฒนาการ เปิดโอกาสให้ลูกน้อยได้ริเริ่มการเล่นหรือกิจกรรมต่าง ๆ อย่างอิสระ เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เกิดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ และรู้จักลงมือแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยหลักปฏิบัติ 3 อย่าง คือ การวางแผน การปฏิบัติ และการทบทวน ซึ่งเมื่อสิ่งที่ทำนั้นสำเร็จ ก็จะเกิดเป็นความภูมิใจในตนเองตามมา

 

10) แนวการสอนแบบภาษาธรรมชาติ (Whole Language Approach)

โรงเรียนทางเลือกที่มีการสอนภาษาแบบธรรมชาติ เน้นให้เด็กได้เรียนรู้การใช้ภาษาอย่างรอบด้าน ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน โดยเน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง ให้ลงมือทำด้วยตนเอง เช่น อ่านหรือฟังนิทาน เล่าเรื่องราว เขียนคำที่สนใจจากเรื่องที่ได้ฟัง เด็กมีโอกาสเลือกทำกิจกรรมอย่างอิสระ โดยมีครูเป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้ ได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับสังคม เพื่อการใช้ชีวิตหรือเข้าสังคมในอนาคต

 

เปิดค่าเทอม 13 โรงเรียนทางเลือก น่าสนใจใน กทม. และและปริมณฑล

โรงเรียน

แนวทางการสอน

ระดับชั้นที่เปิดสอน

พื้นที่

* ค่าเทอม (เริ่มต้น) / ปี

1 เพลินพัฒนา  วอลดอร์ฟ (Waldorf) ช่วงชั้นอนุบาล – ช่วงชั้นมัธยม กทม. (ทวีวัฒนา) 166,764 บาท
2 อนุบาลยุวมิตร มอนเตสซอรี (Montessori) เตรียมอนุบาล – อ.3 กทม. (หนองแขม) 24,000 บาท
3 อนุบาลมณีรัตน์ เรกจิโอ เอมิเลีย (Reggio Emilia) เตรียมอนุบาล – อ.3 กทม.(ยานนาวา) 90,000 บาท
4 อมาตยกุล นีโอ-ฮิวแมนนิสต์

(Neo-Humanist Education)

อ.1 – ม.6 กทม.(บางเขน) 28,000 บาท
5 อนุบาลจุติพร พหุปัญญา

(Multiple Intelligence)

เตรียมอนุบาล – อ.3 นนทบุรี(เมืองทองธานี) 87,000 บาท
6 ทอสี วิถีพุทธ (Buddhist School) เตรียมอนุบาล – ป.6 กทม. (สุขุมวิท 71) 140,000 บาท
7 รุ่งอรุณ  องค์รวม (Holistic Education) อ.1 – ม.6 กทม.(บางขุนเทียน) 76,800 บาท
8 จิตต์เมตต์ องค์รวม (Holistic Education) เตรียมอนุบาล – อ.3 กทม. (ตลิ่งชัน) 130,200 บาท
9 อนุบาลบ้านพลอยเพลิน โครงการ/องค์รวม

(Project Approach / Holistic Education)

อ.1 – อ.3 กทม.(ดอนเมือง) 39,000 บาท
10 อนุบาลกุ๊กไก่ โครงการ (Project Approach) เตรียมอนุบาล – อ.3 กทม.(คลองเตย) 116,600 บาท
11 วรรณสว่างจิต โครงการ/ภาษาธรรมชาติ

(Project Approach / Whole Language Approach)

เตรียมอนุบาล – ป.6 กทม.(บางขุนเทียน) 81,000 บาท
12 สาธิตละอออุทิศ ไฮสโคป (High Scope) เตรียมอนุบาล – ป.6 กทม.(ดุสิต) 178,000 บาท
13 ทอรัก ภาษาธรรมชาติ

(Whole Language Approach)

เตรียมอนุบาล – ป.6 อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 52,000 บาท

* ค่าเทอม 13 โรงเรียนทางเลือก แต่ละแห่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีการศึกษา คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบกับทางโรงเรียนได้อีกครั้งในวันที่เข้าเยี่ยมชมหรือวันสมัครเรียน

 

ที่มา : wondervalley.ac.th , www.the1.co.th , www.roong-aroon.ac.th , www.wsc.ac.th , plearnpattana.ac.th , โรงเรียนอนุบาลบ้านพลอยเพลิน , www.maneerut.com , www.central.co.th

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ชี้เป้า! 10 โรงเรียนนานาชาติ ค่าเทอมไม่แพง

ส่องค่าเทอมสุดหรู! 10 อันดับ โรงเรียนนานาชาติ ค่าเทอมแพงที่สุด ในไทย ปี 2024/2025

เปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาตัวเอง ด้วยเทคนิคการเรียนแบบ Home School

บทความโดย

จันทนา ชัยมี