ใครว่าสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ จะมีอยู่แต่ในต่างประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เองก็สวยไม่แพ้ชาติใดในโลก ไปดู สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่สวยที่สุดในประเทศ จนนักท่องเที่ยวที่ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็ต้องเดินทางมาเที่ยวให้ได้สักครั้ง
ดอยหลวงเชียงดาว – จังหวัดเชียงใหม่
1 ดอยหลวงเชียงดาว – จังหวัดเชียงใหม่
สถานที่เที่ยวที่บรรยากาศดีๆ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พอตกกลางคืนก็นอนมองดูดาวสวยๆ บรรยากาศโรแมนติกแบบนี้ ไม่ได้มีแค่เพียงในละคร แต่มีอยู่ที่ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นภูเขาหินปูนที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย อยู่ภายใต้การดูแลของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว ที่นี่จะไม่มีแหล่งเก็บน้ำและแหล่งกำเนิดน้ำตามธรรมชาติ แต่กลับไม่แห้งแล้งแถมยังมีพรรณไม้ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอยู่มากมาย เช่น เทียนนกแก้ว ที่มีดอกรูปร่างเหมือนนกแก้ว ซึ่งจะมีที่นี่เพียงที่เดียวเท่านั้น เพื่อน ๆสามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 มีนาคม ของทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดจะอยู่ที่ -7 องศาเซลเซียส ใครที่มีแฟนต้องพาแฟนมาเที่ยวสถานที่โรแมนติกๆ แบบนี้ให้ได้สักครั้ง
การเดินทาง เพื่อนๆ จะต้องนั่งรถโดยสารที่ขนส่งช้างเผือกจังหวัดเชียงใหม่ ค่ารถราคา 40 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งโดยบอกคนขับว่าจะไปลงที่โลตัสเชียงดาว และควรจะไปถึงโลตัสเชียงดาวก่อนเที่ยง เพราะจะมีวินรถสองแถวขึ้นดอยหลวงเชียงดาวอยู่ ค่ารถคนละ 50 บาท ซึ่งจะมีคนขับมาคอยเรียกคนอยู่หน้โลตัส แต่ถ้าไปไม่ทันรอบเที่ยงจะต้องเหมาสองแถวขึ้นไป ค่ารถจะตกอยู่ที่ประมาณ 500-600 บาท/เที่ยว จากลตัสเชียงดาวรถสองแถวก็จะพาเราเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว ที่นี่เพื่อนๆ ต้องเสียค่าเข้าคนละ 20 บาท แล้วรถสองแถวก็จะพาเราไต่ดอยสูงไปยังหมู่บ้านนาเลาใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าลีซู
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 15 ที่เที่ยวเชียงใหม่ หน้าหนาว รับลมหนาวที่เชียงใหม่แบบฟิน ๆ
หินสามวาฬ – จังหวัดบึงกาฬ
2 หินสามวาฬ – จังหวัดบึงกาฬ
หินสามวาฬเป็นสถานที่สำหรับเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ อายุกว่า 75 ล้านปี รูปร่างคล้ายวาฬ 3 ตัวพ่อแม่ลูกกำลังว่ายน้ำอยู่ โดยมีต้นไม้สีเขียวล้อมรอบเปรียบเสมือนน้ำทะเล วาฬตัวที่เราสามารถเดินขึ้นไปได้ จะเป็นวาฬตัวพ่อและแม่ โดยเราจะเริ่มต้นเดินไปที่วาฬตัวพ่อก่อนจะเจอทางเชื่อมไปยังวาฬตัวแม่ที่อยู่ตรงกลาง ส่วนตัวลูกจะไม่สามารถเดินได้เพราะแคบมาก บนหลังวาฬนี้จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดในภูสิงห์ เพราะจะได้เห็นแสงสีส้มทองไล่เฉดจากการไต่ระดับขึ้นฟ้าของพระอาทิตย์โดยมีฉากหน้าเป็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และยังมองเห็นแม่น้ำโขงที่อยู่ระหว่างไทยกับลาวอีกด้วย แต่ว่าการจะขึ้นไปบนหินสามวาฬต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะด้วยสภาพของหินและน้ำค้างที่ตกลงมาอาจจะทำให้ลื่นตกหน้าผาได้ แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบเที่ยวแบบที่รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง จะพลาดที่นี่ไปไม่ได้เลย
การเดินทาง เพื่อนๆ สามารถเดินทางไปยังบึงกฬได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวที่ขับไปจาก กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 758 กิโลเมตร หรือถ้านั่งรถไฟก็ไปลงหนองคายแล้วไปต่อรถประจำทาง ถ้านั่งเครื่องบินก็ลงที่จังหวัดอุดรธานีแล้วต่อรถประจำทางเข้าจังหวัดบึงกาฬได้เหมือนกัน
เกาะนางยวน – จังหวัดสุราษฎ์ธานี
3 เกาะนางยวน – จังหวัดสุราษฎ์ธานี
เกาะนางยวนที่ไม่ได้มีดีแค่ชื่อที่เย้ายวนใจชวนให้มาพิสูจน์ แต่ยังงดงามราวกับสวรรค์จนได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของสถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุด และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักดำน้ำนิยมเดินทางมา เพราะมีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึกที่ยังสมบูรณ์สวยงามอยู่ และมีปลาการ์ตูนตัวน้อยใหญ่ แหวกว่ายไปมาให้ชมอย่างเพลิดเพลิน บนยอดเขาด้านบนจะมีจุดชมวิวที่สามารถมองลงมาเห็นหาดทรายสีขาวสะอาดตาทอดยาวผ่านน้ำทะเลสีเขียวมรกตเชื่อมต่อระหว่างหมู่เกาะสามเกาะเอาไว้ด้วยกัน และที่นี่ยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนหาดเดียวกัน ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะนางยวนที่มีเพียงแห่งเดียวในโลก
การเดินทาง การเดินทางไปยังเกาะพงั้น เพื่อนๆสามารถปได้สองทาง คือ นั่งเรือด่วนจากท่เรือท่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพรมายังเกาะเต่าแล้วค่อยต่อไปยังเกาะพงน และอีกเส้นทางคือมาจากสุราษฎร์ธานี-เกาะสมุย-เกาะเต่า-เกาะพงัน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : แนะนําสถานที่ท่องเที่ยว หน้าฝนไปทะเลที่ไหนไม่เจอมรสุม
หลีเป๊ะ – จังหวัดสตูล
4 หลีเป๊ะ – จังหวัดสตูล
ใครที่ฝันอยากจะไปฮันนีมูนที่มัลดีพส์สักครั้งแต่งบดันไม่พอ ต้องมาที่หลีเป๊ะเลยค่ะ เพราะหาดของที่นี่งดงามราวกับสวรรค์บนดินจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “มัลดีพส์เมืองไทย” ด้วยหาดทรายขาวสะอาดกับน้ำที่ใสแจ๋วจนเห็นโขดหินและผืนทรายที่อยู่ใต้น้ำนี้ ทำให้หลีเป๊ะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าเพื่อนๆ ได้มาที่หลีเป๊ะแล้ว มีสิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยนั่นก็คือการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดซันไรซ์ และชมพระอาทิตย์ตกที่หาดซันเซ็ท เพราะวิวจะสวยมากจนถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาที่หลีเป๊ะเลย
การเดินทาง เพื่อนๆ จะต้องไปที่ท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล ที่นี่จะมีเรือไปที่เกาะหลีเป๊ะทุกวัน เพื่อนๆ สามารถเดินทางได้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี แต่ว่าอย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศกันก่อนนะคะ หรือจะเลือกนั่งเครื่องบินไปลงที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แล้วค่อยต่อรถไปก็ได้
เสม็ดนางซี – จังหวัดพังงา
5 เสม็ดนางซี – จังหวัดพังงา
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยมากจนต้องไปให้ได้สักครั้งก็คือ เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา ที่ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบทะเลใต้เพียงเท่านั้น แต่ยังมีจุดกางเต็นท์นอนดูดาวและชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยไม่แพ้ภาคเหนือเลย ที่จุดชมวิวเพื่อนๆ จะมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบสุดแสนอันซีนเหนืออ่าวพังงา ท่ามกลางเทือกเขาหินปูนและท้องทะเลที่รายล้อมอยู่
การเดินทาง ถ้าเพื่อนๆ มาจากภูเก็ตให้ใช้เส้นทางที่จะไปพังงา ผ่านสะพานสารสินมาประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เพื่อนๆกลับรถตรงวัดท่านุ่น แล้วจะมีซอยที่เขียนว่า “ท่าเรือบ้านหินร่ม” ระยะทางจากปากซอยเพียง 15 กิโลเมตร ก็จะถึงทางขึ้นจุดชมวิว
เขื่อนรัชชประภา – จังหวัดสุราษฎร์ธานี
6 เขื่อนรัชชประภา – จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขาสก หรือเขื่อนรัชชประภา เดิมชื่อว่าเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และด้วยความสวยงามทางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยขุนเขาสูงตระหง่าน น้ำใสสีเขียวมรกต และถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะมาเที่ยวที่เขื่อนเชี่ยวหลาน เราแนะนำให้มาเที่ยวกันในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เพราะอากาศช่วงนี้จเย็นสบาย ไม่ค่อยมีฝนตก แถมในช่วงช้ายังมีหมอกออกมาให้ได้ชมกันอีกด้วย
การเดินทาง เพื่อนๆ จะต้องเดินทางไปยังบริเวณท่าเรือหลังเขื่อนเพื่อติดต่อเรือ และก่อนลงเรือจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ส่วนค่าเรือก็จะคิดแบบเหมารำไปกลับประมาณ 1,200-1,500 บาทต่อรำ ขึ้นอยู่กับขนาดเรือ
ดอยเสมอดาว – จังหวัดน่าน
7 ดอยเสมอดาว – จังหวัดน่าน
เพื่อนๆคนไหนที่ชื่นชอบการดูดาวจะต้องจดดอยเสมอดาวไว้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในชสถานที่ดูดาวที่สวยที่สุดในประเทศไทย สมกับฉายา “ดาวเสมอดอย ที่อยเสมอดาว” จริงๆ ตอนกลางคืนเพื่อนๆ จะได้สัมผัสกับอากาศที่แสนเย็นสบาย และนอนดูดวงดาวที่สว่างเต็มผืนฟ้า ส่วนในตอนเช้าก็จะมีทะเลหมอกสวยๆ ให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน
การเดินทาง เพื่อนๆ จะต้องไปขึ้นรถทัวร์ไปลงที่สถานีขนส่งอำเภอเวียงสา แล้วไปต่อรถเมล์สีเขียวที่มีป้ายเขียนไว้ว่า เวียงสา- นาน้อย – นาหมื่น เพื่อไปลงที่อำเภอนาน้อย ถ้าไปถึงแล้วที่นั่นจะมีรถกระบะรับจ้างสำหรับพาไปดอยเสมอดาวอยู่
ภูชี้ดาว – จังหวัดเชียงราย
8 ภูชี้ดาว – จังหวัดเชียงราย
ภูชี้ดาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงรายที่นักท่องเที่ยวหลายคนกำลังจับตามอง เพราะสวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้าเลย ถ้าเพื่อนๆมาที่นี่จะสามารถชมทะเลหมอกในตอนเช้าได้แบบ 360 องศาเลยที่เดียว การเดินทางขึ้นมาอาจจะค่อนข้างลำบาก และต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเพื่อนๆ ขึ้นมาถึงแล้ว รับรองได้เลยว่าวิวสวยๆ จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้ขึ้นมาชมแน่นอน
การเดินทาง เพื่อนๆ จะต้องใช้เส้นทางดอยผาตั้งหรืออำเภอเวียงแก่นเพื่อมายังภูซี้ตาว และเมื่อถึงทางที่จะขึ้นไปยังภูซี้ตาวแล้วเพื่อนๆต้องโดยสารรถ 4 x 4 ไปยังจุดจอดรถ แล้วเดินต่อไปบนยอดภูซี้ดาวอีกประมาณ 300 เมตร
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 30 ที่เที่ยวเชียงราย เที่ยวไหนดีที่เชียงราย เหนือสุดแดนสยาม
สามพันโบก – จังหวัดอุบลราชธานี
9 สามพันโบก – จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับเพื่อนๆที่เป็นสายผจญภัยคงไม่มีใครไม่รู้จักสามพ้นโบกที่ถูกขนานนามว่าเป็น “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” แน่นอน สามพ้นโบกจะมีลักษณะเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ล้ายภูเขาอยู่กลางลำน้ำโขง โดยจะมีแอ่งกว่า 3,000 แอ่ง ที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งทำให้มองเห็นเป็นภาพต่าง ๆที่มีรูปร่างแตกต่างกันออกไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ หัวใจคู่ สุนัข หรือแม้แต่มิกกี้เม้าส์ก็มีให้เห็นตามแต่เพื่อนๆจะจินตนาการกันเลย
การเดินทาง เพื่อนๆ จะต้องนังรถท้วร์สายกรุงเทพฯ – สองคอน มาลงที่บ้านสองคอน แล้วนังรถสองแถวต่อไปยังสามพ้นโบก
น้ำตกปิตุโกร อุทยานแห่งชาติอุ้มผาง – จังหวัดตาก
10 น้ำตกปิตุโกร อุทยานแห่งชาติอุ้มผาง – จังหวัดตาก
น้ำตกปิตุโกรเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเส้นทางสุดหด แต่ปลายทางจะมีสิ่งสวยงามรออยู่ เพื่อนๆ ที่จะไปจำเป็นต้องพกความอืดและร่างกายที่สตรองค์พร้อมลุยเป็นอย่างมาก เพราะจะต้องเดินบุกป่ ฝ่าดง ลุยน้ำกันเป็นระยะทางไกล แถมยังต้องค้างคืนกันในป่าอีกด้วย แต่ขอเลยว่าเมื่อมาถึงน้ำตกแล้ว ความงดงามของน้ำตกปิตุโกรจะทำให้เพื่อนๆลืมความเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว
การเดินทาง เพื่อนๆ ต้องนั่งรถจากอุ้มผางไปยังหมู่บ้านกุยเลอตอ ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร แแล้วเดินเท้าเพื่อไปยังน้ำตกปิตุ๊โกรกันต่อ
ที่มา : chillpainai.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :
ใครว่า ที่เที่ยวเชียงใหม่ มีดีแค่ธรรมชาติ พาชม 5 พิพิธภัณฑ์ น่าไปเมืองเชียงใหม่
พาลูกเที่ยว สวนสัตว์ ที่เที่ยวในประเทศไทย ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องสัตว์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!