TOP 10 ปัญหาหลังคลอดที่หมอสูติอยากบอก

ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ก็จะมีอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นได้เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่นเดียวกับหลังคลอดมักจะพบปัญหาได้เช่นกัน เพราะฮอร์โมนที่เคยขึ้นสูงนั้น เมื่อคลอดเจ้าตัวน้อยแล้วฮอร์โมนจะลดระดับลงอาจมีผลกระทบกับคุณแม่ได้ มาดูกันว่า 10 ปัญหาหลังคลอด มีอะไรบ้าง ติดตามอ่าน

TOP 10 ปัญหาหลังคลอดที่หมอสูติอยากบอก

ปัญหาหลังคลอดข้อ 1 : ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในระยะหลังคลอดส่งผลต่อร่างกายอย่างไร

หมอสูติอยากบอก :

1. ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีโปรเจสเตอโรนสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลา ฮอร์โมนตัวนี้เองที่ทำให้คุณแม่มีความรู้สึกถึงความเป็นแม่ มีความรักลูก  มีความสุขที่จะมีลูก ซึ่งไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาว

2. เมื่อคลอดลูกแล้วสมองจะมีการสร้างฮอร์โมนโปรแลกตินออกมาจากต่อมใต้สมองเพื่อกระตุ้นเต้านมให้ขยายและมีน้ำนมสำหรับเลี้ยงลูก

3. ฮอร์โมนโปรแลกตินนี้ก็เป็นฮอร์โมนของความเป็นแม่ แต่กลับทำให้คุณแม่มีอารมณ์ทางเพศลดลงหรือหมดอารมณ์ทางเพศได้ เมื่ออ่านถึงตรงนี้คุณพ่ออย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ มีทางแก้ไขได้ค่ะ

4. เมื่อคุณแม่ให้นมลูก ก็จะไม่มีการตกไข่ ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนก็น้อยลง ส่งผลให้ช่องคลอดแห้ง ผนังช่องคลอดบางลง การผลิตน้ำหล่อลื่นน้อยลง การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้จึงอาจทำให้ผู้หญิงเจ็บมากกว่าปกติ ทำให้ผู้หญิงจึงมักไม่มีความสุขที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้

ดังนั้น  ระหว่างสามีภรรยาควรพูดคุยกันให้เข้าใจ  หรือปรึกษาคุณหมอเพื่อป้องกันปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาได้ โดยการใช้เจลหล่อลื่นเฉพาะที่จะไม่ทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์

ปัญหาหลังคลอดข้อ 2  : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังคลอดมีผลต่อน้ำนมหรือทารกหรือไม่

หมอสูติอยากบอก :

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนหลังคลอด  คือ  มีฮอร์โมนโปรแลกตินเพิ่มขึ้นทดแทนฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เริ่มลดลงหลังคลอด  ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลทำให้ร่างกายผลิตน้ำนมเพื่อเลี้ยงดูทารก ดังนั้น  จึงไม่มีผลเสียใด ๆ ต่อแม่หลังคลอดและทารก

ปัญหาหลังคลอดข้อ 3  :ใช้เวลานานแค่ไหนที่ฮอร์โมนในร่างกายจะกลับมาเป็นปกติ

หมอสูติอยากบอก :

ระยะเวลาขึ้นกับว่าฮอร์โมนตัวใดที่เปลี่ยนแปลง เช่น ในระหว่างตั้งครรภ์ จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนสูงมาก แต่พอหลังคลอดฮอร์โมนสองตัวนี้จะต่ำลงไปเลย เนื่องจากไม่มีไข่ตก ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด ฮอร์โมนจึงกลับสู่สภาพปกติ

ปัญหาหลังคลอด ข้อ 4 : หลังคลอดได้ยินคำว่า “baby blue”  คืออะไร มีผลอย่างไรกับแม่หลังคลอด

หมอสูติอยากบอก :

คำว่า “baby blue หมายถึง  อาการซึมเศร้าหลังคลอด เป็นปัญหาหลังคลอดที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยในระหว่างที่ตั้งครรภ์ จะมีฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่าเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนสูงมาก แต่พอคลอดลูก ฮอร์โมนสองตัวนี้จะต่ำลงไปทันที คุณแม่บางคนที่มีความไวต่อความรู้สึกหรือมีประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาไม่ค่อยดีนัก  เช่น  ในช่วงตั้งครรภ์ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่หรือมีความเครียดจึงเกิดอาการได้ง่าย  อาการซึมเศร้า เป็นอาการทางจิตประสาทหลอนๆ ซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย หรือในบางรายอาจเป็นหนักถึงขั้นทำร้ายตัวเองหรืออยากฆ่าตัวตาย

ปัญหาหลังคลอด ข้อ 5 : อาการ “baby blue” หรือซึมเศร้าหลังคลอดนี้มีทางรักษาหรือไม่ และมีโอกาสหายหรือไม่

หมอสูติอยากบอก :

ระยะเวลาของอาการซึมเศร้าหลังคลอด บางคนเป็นเพียงสัปดาห์เดียว บางคนมีอาการนานถึงหนึ่งเดือนหรือหกสัปดาห์ก็มี แต่เมื่อมีการตกไข่เมื่อไร ทุกอย่างจะเข้าสู่วงจรปติ และอาการก็จะหายขาด  สิ่งสำคัญ  ช่วงหลังคลอดคุณพ่อแลคนรอบข้างต้องดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ดูแลเรื่องอาหารการกิน  พูดคุยให้สบายใจ รวมถึงช่วยดูแลทารกเพื่อให้คุณแม่ได้พักผ่อนบ้าง  อาการจะดีขึ้นเองโดยไม่ต้องรักษา

อ่าน Top 10 ปัญหาหลังคลอดที่หมอสูติอยากบอก  (ข้อ 6 – 10 ) คลิกหน้าถัดไป

ปัญหาหลังคลอดข้อ 6 :ผมร่วงมากหลังคลอด เป็นเพราะอะไร  อันตรายหรือไม่ หรือจะหัวล้านหรือไม่

หมอสูติอยากบอก :

1. คุณแม่หลังคลอดมักจะมีอาการผมร่วง สาเหตุเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ที่มีคุณสมบัติเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และเพิ่มปริมาณรากฝอยเล็ก ๆ ให้แก่เส้นผม

2. เมื่อคลอดแล้วปริมาณของฮอร์โมนจะลดลงอย่างรวดเร็ว การสร้างรากผมก็ลดลงอย่างรวดเร็วตามไปด้วย เพราะฉะนั้น รากผมของคุณแม่หลังคลอดจึงเกิดการสลายมากกว่าการสร้าง และเกิดภาวะผมร่วงและบางลงเรื่อย ๆ

3. ลักษณะของผมร่วงหลังคลอดนั้น เส้นผมจะร่วงกระจายไปทั่วบริเวณหนังศีรษะ แต่จะมีเส้นผมบาง ๆ เหลืออยู่ ซึ่งผมเส้นใหม่จะขึ้นมาแทนที่ และกลับสู่ภาวะปกติในเวลาประมาณ 6-12 เดือนหลังคลอด

บทความแนะนำ  6 วิธีหยุดผมร่วงหลังคลอด

ปัญหาหลังคลอดข้อ 7 : หลังคลอดมีผื่นแพ้ขึ้น มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

หมอสูติอยากบอก :

ความไม่สมดุลกันของฮอร์โมนหลังคลอดส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะผิวหนังเป็นอวัยวะที่อยู่ด้านนอก มีโอกาสที่จะสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ได้มากทำเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ในช่วงหลังคลอดคุณแม่ไม่ควรอาบน้ำที่อุ่นจัดเพราะจะไปชะล้างไขมันทำให้ผิวหนังแห้งมากยิ่งขึ้น หลังอาบน้ำควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หากเป็นไปได้อาจดื่มน้ำผลไม้ด้วยจะยิ่งดี  จะช่วยให้มีสารต้านอนุมูลอิสระและทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นได้

บทความแนะนำ ไขข้อสงสัย “ผื่นแพ้หลังคลอด” เกิดจากอะไร

ปัญหาหลังคลอด ข้อ 8 : ผิวพรรณเปลี่ยนไปในช่วงตั้งครรภ์มักจะมีสีดำคล้ำไม่ใช่เฉพาะบริเวณท้องเท่านั้นหลังคลอดผิวจะมีโอกาสเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่

หมอสูติอยากบอก :

ในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนออกมามากขึ้น ทำให้เม็ดสีที่เรียกว่าเมลานินทำงานได้ดี ผิวจะคล้ำขึ้นโดยเฉพาะเส้นที่อยู่กลางตัวจะดำและคล้ำมากขึ้น  แต่หลังคลอดแล้วฮอร์โมนเริ่มปรับลดลงจนเป็นปกติรอยดำคล้ำนี้จะหายจางไปได้เองโดยไม่ต้องทำการรักษาใดๆ ทั้งสิ้น

ปัญหาหลังคลอด ข้อ 9 : หลังคลอดแล้วนานหรือไม่กว่าประจำเดือนจะมาเป็นปกติ

หมอสูติอยากบอก :

คุณแม่ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประจำเดือนจะมาภายใน 5-6 สัปดาห์หลังคลอด ส่วนคุณแม่ที่ให้นมลูกประจำเดือนจะมาช้ากว่านั้น  ดังนั้น หากประจำเดือนมาช้าก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต่อให้ประจำเดือนยังไม่มาคุณแม่ก็มีสิทธิ์ตั้งครรภ์ได้ปกติเช่นกัน หากไม่ได้คุมกำเนิดอย่างถูกต้อง

ปัญหาหลังคลอด ข้อ 10 : เพศสัมพันธ์หลังคลอดสามารถมีได้เมื่อไหร่จึงจะปลอดภัย

หมอสูติอยากบอก :

ควรงดมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด หรือจนกว่าจะหมดน้ำคาวปลา  เพราะช่วงหลังคลอดยังมีน้ำคาวปลาไหลอยู่ จึงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อในช่องคลอดและในโพรงมดลูกมากกว่าปกติ และเพื่อเป็นการรักษาแผลที่ฝีเย็บด้วย หากจำเป็นจริงๆควรใช้ถุงยางอนามัยด้วย

ไขข้อสงสัยกันแล้วนะคะสำหรับเรื่องหลังคลอด  อย่างไรก็ตามหากคลอดแล้วหากคุณแม่มีอาการผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น เช่น  มีไข้สูง  มีเลือดออกจากช่องคลอดหรือปวดท้องรุนแรงควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อทำการรักษา   หากไม่มีอาการผิดปกติก็ต้องไปพบคุณหมอตามนัดนะคะ

ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์   คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ  หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://haamor.com

bumrungrad

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

10 คำถามสุดฮิตที่แม่ท้องอยากรู้

10 วิธีรับมือข้อห้ามการปฏิบัติตัวหลังคลอด