ครูโหดทำโทษหนัก ใช้ดาบกระบี่กระบองตีเด็กจนไม้หัก ทำเด็กนั่งเรียนไม่ได้
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารย์ในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีที่ ครูโหดทำโทษหนัก ใช้ไม้ดาบกระบี่กระบองตีเด็กซ้ำๆ จนไม้หัก เล่นเอาเด็กช้ำไม่สามารถนั่งเรียนต่อได้ ต้องยืนเรียนตั้งแต่เช้า
โดยเหตุการณ์เริ่มต้นจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความเล่าถึงเรื่องราวของเด็กที่ครูตีทำโทษอย่างหนัก พร้อมทั้งเผยแพร่ภาพของเด็กชายคนหนึ่งที่มีแต่รอยพกช้ำตามตัว เหตุเพราะไม่ทำการบ้านโดยระบุข้อความว่า…
“ความระยำของครู. #โรงเรียน……………
แค่เด็กไม่ทำการบ้าน ทำได้ขนาดนี้เลยหรอ ใช้ไม้ดาบกระบี่กระบอง ตีจนหัก แล้วก็ตีซ้ำอีก เด็กๆนับได้ประมาน 25-26 ที ตีตั้งแต่ 3 โมงเช้า เด็กนั่งเรียนไม่ได้ ต้องยืนเรียนถึงโรงเรียนเลิก กว่าจะปั่นจักยานกลับบ้านได้เกือบ 6 โมงครึ่ง ตอนเย็น มีการสั่งเด็กไม่ให้กลับไปบอกผู้ปกครองอีก..
พวกกูเรียนมายังไม่เคยเจอเลย มึงต้องออกสถานเดียว
เลวจิงๆ ฝาก ผอ. ……………. จัดการด้วย
อย่าให้มันมาสอนที่นี่อีก #เด้วเจอกันที่โรงเรียน
#ช่วยกันแชร์ความเลวของมันครับ”
ครูโหดทำโทษหนัก
หลังจากที่ได้เผยแพร่ลงสื่อโซเชียล ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนไม่พอใจและพากันแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย เช่น
“ตีแบบนี้มันเกินกว่าเหตุ ครูไม่ได้มีจิตใจเมตตาเอื้ออารีกับเด็กเลยไม่สมควรจะเป็นครูอีกต่อไป แบบนี้เขาเรียกว่าทำงานหวังกินเงินเดือนไปวันๆไม่ได้อยากทำอาชีพนี้จริงๆ ทำโทษได้แต่ต้องไม่หนักถึงขนาดนี้แบบนี้มันเกินไปจริงๆ”
“นี่ตีหรือซ้อมเด็ก ระเบียบการใช้ไม้เรียวไม่ทราบว่าเดี๋ยวนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า ว่าขนาดของไม้เรียวต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางกี่ซม.?ไม่กระบีี่กระบองมันเกินขนาดมาตรฐานเยอะมาก น่าสงสารเด็กนะ”
“ครูมีสิทธิ์ตีได้ แต่ครูก็ไม่สมควรที่จะตีเด็กได้ขนาดนี้ ตีให้คิด ตีให้เด็กจำ ไม่ใช้ตีให้ตาย ถ้าเป็นลูกตัวเองครูจะรู้สึกยังไง”
“แย่มากๆค่ะตีเพื่อสั่งสอนแค่ ทีสองทีเราก็ให้อภัยถือว่าสังสอนอบรมเด็ก แต่ตีแบบนี้จะเอาให้ตายเลยเหรอค่ะ จิตใจคุณครูทำด้วยอะรัย ผู้ปกครองต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดค่ะ แล้วแผลที่จิตใจเด็กที่ถูกกระทำขนาดนี้สงสารจับใจเลยลูกเอ๋ย”
“ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ควรดำเนินการตามระเบียบให้ถึงที่สุด แต่ถ้าไม่ใช่ความจริงคนโพสหรือแชร์อาจจะโดน พรบ.คอมได้ง่ายๆนะครับ ผมมองว่าเนื้อหาในโพสไร้ซึ่งหลักฐานมีเพียงภาพถ่ายเท่านั้น ซึ่งในภาพเด็กไปโดนอะไรมาก็ไม่ทราบได้ ขออภัยที่ผมคิดต่างเพราะผมเชื่อในความถูกต้องเสมอครับ”
ภาพเด็กถูกครูทำโทษ
ภาพเด็กถูกครูทำโทษ
อย่างไรก็ตาม ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นมาอย่างไร และในอนาคตหากครูมีการทำโทษเด็กแบบนี้ จะมีมาตรการอย่างไรบ้างค่ะ
—————————————————————————————————————————-
พ่อแม่ที่ตีลูก ดุด่าลูก ใส่อารมณ์กับลูก ระวังลูกโตไปเป็นเด็กเสียคน ไร้วินัย
ภาพครูโหดทำโทษหนัก – ครอบครัว
พ่อแม่ที่ตีลูก ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าลูกมักจะ แสดงพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้ พ่อแม่รู้สึกไม่พอใจ หรือเป็นเพราะ เด็กทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พ่อแม่เลย อยากจะ เตือนว่าสิ่งที่ลูก ทำนั้นมันไม่ดีนะ จึงต้องต่อว่า และ ตีลูกบ้างในบางครั้ง แต่พ่อแม่ รู้ไหมว่าสิ่งที่ ทำนั้นถึงแม้จะทำให้ ลูกหยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้ แต่การทำบ่อยๆ จะเกิดผลเสีย กับ ลูกมากกว่าเสียอีก เป็นเพราะ อะไรกันนั้น คุณหมอมีคำตอบค่ะ
ทำไมถึงห้ามตีลูก ดุด่าลูก
ภาพครูโหดทำโทษหนัก – ครอบครัว
คุณหมอจากเพจ Sigtyra Schroeter ได้แชร์ เรื่องเพื่อน ของคุณหมอเกี่ยวกับการ ลงโทษลูกไว้ได้ดีมากว่า การตี หรือ การลงโทษลูกโดย ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ดุด่า ถ้อยคำรุนแรง หรือ การลงโทษ ที่ทำให้เกิด การอับอาย ถือว่าเป็น เรื่องของ physical abuse (การทำร้ายร่างกายที่เห็นบาดแผลได้ชัดเจน) และ emotional abuse (การทำร้ายทางด้านจิตใจ และมักจะแสดงออกมาทางคำพูด) โดยเฉพาะ คุณครู ที่มีการลงโทษเด็กด้วยการ ตีเด็ก เพื่อน คุณหมอได้กล่าวว่า “ครูตีคือ ครูมักง่าย เพราะการตี มันง่าย หยุดพฤติกรรม ไม่พึงประสงค์ได้ทันที โดยที่ครู ไม่ต้องคิดห่าไร พอ ๆ กับที่เด็ก ไม่ได้พัฒนาห่าไรเลย”
สาเหตุที่ไม่ควรตีเด็ก ก็เพราะว่าเด็กมักจะเรียนรู้พฤติกรรมด้วยการเลียนแบบ จึงไม่แปลกถ้าเด็กจะตีพ่อแม่คืน หรือโตขึ้นไปก็จะซ้อมเมีย เห็นใครผิดก็รุมประชาทัณฑ์ทั้ง ๆ ที่ กม. ก็มีวิธีลงโทษ เพราะมันอยู่ใน unconscious ว่าใครทำผิด(ซึ่งบางครั้งก็แค่ผิดในสายตาตัวเอง) ทำร้ายร่างกายเขาได้ ไปทุบรถเขาได้นั่นเองดังที่เห็นกันในโซเชียลทุกวันนี้
คนไทยไม่เคยถูกฝึกการควบคุมตนเอง แต่ถูกควบคุมโดยคนอื่นจากการทำให้เจ็บปวดด้วยการตีหรือการดุด่า ซึ่งกระทบทั้งร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ทำให้การกระทำนั้นหยุดโดยอัตโนมัติไปเลย เมื่อไม่ถูกตีถูกด่าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่เคยฝึกการยับยั้งชั่งใจมาก่อน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยโตขึ้นมาถึงไร้ระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่ำ
การฝึกให้ยับยั้งชั่งใจคือสิ่งที่ควรทำ
เมื่อเด็กทำผิด คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้เด็กยอมรับผลการกระทำของตัวเอง ไม่ใช่เอะอะก็ด่าไว้ก่อน เช่น เด็กไม่เรียน ด่า ตีแล้วลากให้มาสอบซ่อมจนผ่าน ทั้งๆ สิ่งที่ควร คือ พูดดี ๆ บอกว่าแม่รักลูกนะ ครูรักลูกนะ ไม่ว่าหนูจะเรียนรึเปล่า และปล่อยให้สอบตก ซ้ำชั้น ไม่เรียนให้ไปหางานทำ
แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำเวลาที่ลูกมีปัญหา เช่น เด็กมีเรื่องชกต่อยกันที่โรงเรียน ทางโรงเรียนก็เรียกผู้ปกครองไป พ่อแม่ก็เข้าไปคุณครูว่าขอให้ลูกเรียนให้จบหรือไม่ก็อย่าให้ย้ายโรงเรียนเลย หลังจากนั้นก็กลับมาด่าลูกต่อที่บ้าน ทั้งๆที่ควรทำคือ บอกว่าพ่อกับแม่รักลูก เคียงข้างลูกเสมอ อยากให้ช่วยอะไรบอกได้เลยนะ แต่เรื่องที่โรงเรียนต้องเป็นไปตามกฎของโรงเรียน จะถูกพักการเรียน กักบริเวณ ตัดคะแนนความประพฤติ จนหมดสิทธิ์สอบ ต้องไปทำความสะอาดส้วม หรืออะไรตามกติกาก็ทำไป ต้องโดนแบบนี้ซ้ำ ๆ มากกว่า
พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเลี้ยงลูกให้เก่งกว่าคนรุ่นเก่า
คนสมัยก่อนที่เลี้ยงลูกแบบด่าทอทุบตี จะเห็นว่า ปัจจุบันนี้ คนเหล่านั้นกลายเป็นคนที่ เละเทะ ฝ่าฝืนกฎ กันโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ไม่มีใครเห็น ก็แอบทำ ไม่มีตำรวจก็แอบทำ เพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เนื่องจากไม่เคยฝึก และเคยชินกับการถูกควบคุมจากภายนอกแต่เด็ก ยิ่งเด็กในยุคนี้มีสิ่งที่ล่อตาล่อใจก็มากขึ้น ดังนั้นเด็กรุ่นใหม่จะใช้ชีวิตยากขึ้น ทำให้เขาต้องเก่งกว่าคนรุ่นเก่า ๆ
เก่งไม่ใช่ชีวิตไม่เคยด่างพร้อย แต่ด่างพร้อยแบบที่เรียนรู้แล้วว่าจะควบคุมตัวเองยังไงไม่ให้ด่างพร้อยซ้ำกับเรื่องเดิมได้ คือ การควบคุมตัวเองยังไงได้ โดยไม่ต้องให้ใครมา ควบคุมเป็นสิ่งสำคัญที่ พ่อแม่ควรเน้นสอนกับลูกให้มากๆ โดยพยายามให้ลูกทำตามกฎกติกาของสังคม ฝึกความรับผิดชอบในตัวเอง เช่น มีหน้าที่เรียน คือต้องไปเรียน จะได้มีความรู้ ได้มีงานทำ เลี้ยงตัวเอง ไม่ใช่ไปเรียนเพราะกลัวครูตี แม่ด่า พอไม่มีครูหรือแม่ก็ไม่ไปเพราะมันคุมตัวเองไม่ได้ ต้องรอให้คนอื่นคุม
การลงโทษแบบให้รับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำนี่แหละ มันยากสำหรับคนเป็นพ่อแม่ ใครจิตใจอ่อนแอไม่มั่นคงก็ทำใจไม่ได้ แต่พ่อแม่ก็ต้องทำ แรกๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะเด็กยังไม่เคยได้เรียนรู้การจัดการการโกรธของตัวเอง เวลาที่ลูกสงบไม่ได้พ่อแม่ก็ไม่ควรโมโหใส่ลูก เอาลูกเข้ามากอดพูดกับลูกดีๆ แล้วเด็กจะค่อยๆ ซึมซับและค่อยๆ เรียนรู้วิธีการจัดการอารมณ์ของตัวเองได้เอง
—————————————————————————————————————————-
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกทำผิดพ่อแม่ให้ท้าย ความล้มเหลวในการเลี้ยงลูก ทำลูกแยกแยะผิดถูกไม่เป็น
พ่อแม่ที่ตีลูก ดุด่าลูก ใส่อารมณ์กับลูก ระวังลูกโตไปเป็นเด็กเสียคน ไร้วินัย
เด็กดื้อต้องถูกทำโทษ ลงโทษอย่างไรให้ลูกหายดื้อ แต่ทำไมยิ่งทำโทษลูกยิ่งดื้อ!?!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!