6 Tips สอนสมองลูกให้เรียนดีและมีความสุข

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

6 Tip ดี ๆ สอนสมองลูกให้เรียนดีและมีความสุข จุดเริ่มต้นต้องดูแลเทคแคร์สมองของลูกก่อน เพราะสมองคือ ศูนย์บัญชาการการเรียนรู้จะเรียนดีได้ และเรียนอย่างมีความสุข ต้องสอนสมองไปพร้อมกัน

 

สอนสมองลูกให้เรียนดีและมีความสุข

ปัญหาเรื่องการเรียนของลูกนั้นหลัก ๆ คือ จะทำอย่างไรให้ลูกอยากเรียน และยิ่งไปกว่านั้น จะทำอย่างไรให้ลูกเรียนอย่างมีความสุข คงเป็นปัญหาที่น่าขบคิดไม่ใช่น้อยสำหรับคนเป็นพ่อแม่  ตามธรรมชาติแล้วสมองของเด็กๆ ทุกคนมักจะสนใจการเล่นมากกว่าการเรียนนี่นานั่นเป็นเพราะช่วงวัยของลูกต้องการเรียนรู้ จะให้มานั่งจับเจ่าเรียน เรียน และเรียนคงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรือชื่นชอบสำหรับลูกเท่าใดนัก แต่ก่อนจะทราบกันถึงวิธี สอนสมองลูกให้เรียนดีและมีความสุข สอนให้ลูกรักเรียน และสอนให้ลูกเรียนหนังสืออย่างมีความสุขนั้น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า ตัวการสำคัญที่ทำให้ลูกสนใจเรียนนั้น คือ สมองนั่นเอง 

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นคงเป็นคำถามที่พ่อแม่อยากรู้อย่างแน่นอน สิ่งแรกคือ ต้องเอาใจสมอง อย่าทำให้สมองเครียด เพราะเมื่อใดก็ตามที่สมอง “เครียด” กลไกของสมองจะหลั่งสารเคมีในสมอง ที่เรียกว่า โดปามีน สารเคมีในสมองตัวนี้เป็นตัวควบคุมการทำงานของสมองซีกซ้ายที่เกี่ยวกับภาษา ความคิดและความจำ ทำให้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว  จดจำได้นาน และสมองกระตือรือร้นในการเรียนรู้

เมื่อสารโดปามีนมีน้อย เท่ากับสมองซีกซ้ายที่ ทำหน้าที่ควบคุมการเรียนรู้ และการจดจำ ลดศักยภาพในการทำงานลงไปด้วย เมื่อสมองเครียด สมองไม่มีความสุข แน่นอนว่าจะสั่งการให้เจ้าของสมองพาลเกเรไม่อยากเรียนเพราะเรียนแล้วไม่มีความสุขนั่นเอง

6 Tips สอนสมองลูกให้ลูกเรียนดี และเรียนอย่างมีความสุข

มาดูกันค่ะว่า  เทคนิคสอนสมองลูกให้เรียนดีและเรียนอย่างมีความสุขไปพร้อม ๆ กันนั้น ต้องสอนอย่างไร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ใช้วิธีกระตุ้นให้สนใจ อยากรู้ อยากเรียน อยากลองทำ ถือเป็นแรงจูงใจ เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้น่าค้นหา พาลูกออกไปทำสิ่งใหม่ ๆ ที่กระตุ้นการเรียนรู้  ซื้อหนังสือเล่มใหม่ ท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ ๆ หากิจกรรม เกม กีฬาใหม่ ๆ ให้ลูกได้เล่น  ได้เรียนรู้
  2. สร้างความประทับใจ ลูกจะรู้สึกประทับใจในสิ่งใดนั้น  ก่อนอื่นพ่อแม่ต้องมีโอกาสเรียนรู้ไปกับลูก ทำให้ลูกรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนั้นเขามีพ่อแม่อยู่เคียงข้าง เช่น พ่อจ๋าเล่นกับลูก แล้วลูกสนุกสนานเหลือเกิน แน่นอนว่าลูกต้องอยากเล่น และสิ่งนี้ได้สร้างความประทับใจให้ลูกเข้าแล้ว
  3. ให้ลูกได้มีโอกาสคิด  และลงมือทำด้วยตนเอง สมองที่ชอบเรียนรู้นั้น เกิดจากลูกได้ลงมือทำด้วยตนเอง  เพราะเท่ากับได้สอนสมองโดยตรง  การได้ลองผิด ลองถูก ได้ลองแก้ปัญหา ล้วนแล้วแต่สร้างความจำ ความรู้ ความเข้าใจให้กับลูกไปในตัว
  4. มีการเชื่อมโยงกับชีวิตจริง เช่น  วิชาคำนวณนำมาใช้กับการซื้อสินค้าจริงในชีวิตประจำวัน ไปจ่ายตลาด ไปซื้อของกับคุณพ่อคุณแม่ ให้ลูกได้มีส่วนร่วม  ช่วยจ่ายเงิน ช่วยรับเงินทอน ช่วยตรวจนับสินค้าที่ซื้อ เป็นต้น เท่ากับสอนสมองลูกให้เรียนดีด้านการคำนวณค่ะ สอนจากประสบการณ์จริง ช่วยให้สมองจดจำ เรียนรู้ และเข้าใจ
  5. ความรู้เรื่องสารเคมีในชีวิตประจำวัน  เรื่องเกี่ยวกับสารเคมีในชีวิตประจำวันเชื่อมโยงเข้ากับวิชาวิทยาศาสตร์  วิธีการง่าย ๆ ที่จะสอนสมองให้เรียนดีและ เรียนอย่างมีความสุขเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับสารเคมีนั้นทำได้ไม่ยาก  นำผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในบ้านสบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม นำมาเรียนรู้เรื่องสารเคมี โดยนำของจริงมาให้ลูกได้เรียนรู้จะได้เพิ่มความเข้าใจและสนุกไปกับการเรียนรู้ไปในตัว  กิจกรรมง่าย ๆ และสนุกสนานสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะลูกในวัยอนุบาลหรือเด็กเล็ก  คือ เล่นเป่าฟองสบู่ ในฟองสบู่มีสารลดแรงตึงผิว มีโมเลกุลเล็ก ๆ ยึดเกาะกันเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ เมื่อเกิดฟองจึงเกาะกันเป็นรูปทรง  เป็นต้น
  6. เล่นกีฬา เล่นดนตรี  ทำงานประดิษฐ์ วาดรูปศิลปะ หรือแม้แต่กิจกรรมที่ทำนั้น จะเป็นศิลปะเปรอะก็ตามทีสนุกได้ไม่มีจำกัด

บทความที่เกี่ยวข้อง : การบ้านเยอะ ทำไงดี? รวมเทคนิคขจัดปัญหา รับมืออย่างไรเมื่อการบ้านล้นมือ

 

หากพ่อแม่ลูกร่วมด้วยช่วยกัน สิ่งสำคัญ ในระหว่างที่ทำกิจกรรมร่วมกันนั้นหากลูกมีคำถาม  คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมตอบคำถามของลูกด้วยนะคะ เพราะการตอบคำถาม จะช่วยกระตุ้นให้ลูกอยากเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ  เกิดการเสาะแสวงหาความรู้ เป็นการปลูกฝังนิสัยรักการเรียนรู้ให้กับลูกไปในตัว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อลูกโตขึ้น นิสัยรักการเรียนรู้จะตาติดและเติบโตไปพร้อมกับลูก  ลูกจะเป็นเด็กที่กล้าคิด กล้าถาม ตรงกันข้ามหากพ่อแม่ไม่สนใจ ตอบคำถามของลูกบ่อย ๆเข้าลูกก็จะไม่กล้าถาม ไม่อยากเรียนรู้  หรือถามไปก็ไม่ได้คำตอบ และนิสัยไม่กล้าถาม ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงออกนี้ก็จะถูกฝังรากลึกในสมองและเติบโตไปพร้อมกับความไม่กล้านี้เช่นกัน ลูกจะกลายเป็นคนไม่กล้าคิด ไม่กล้าทำ ทำให้ขาดโอกาสในการเรียนรู้อีกมากมาย

ได้ 6 Tip สอนสมองลูกให้เรียนดีและเรียนอย่างมีความสุขกันไปแล้วนะคะ ไม่ยากเลยหากเราจะเริ่มปลูกฝังตั้งแต่ลูกยังอยู่ในวัยเด็ก ไม่ใช่เพื่อใครแต่เพื่อสร้างสมองและสร้างนิสัยและสร้างโอกาสที่ดีให้กับลูกของเรานั่นเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 

20 วิธีเสริมสร้างความสุข ทำอย่างไรให้ตัวเองมีความสุข

สอนไม่ทำ สั่งไม่จำ วิธีสอนลูกแบบใหม่ สอนลูกให้ยอมทำตาม แบบง่าย ๆ

วิธีสอนลูกให้ซัพพอร์ทคุณตอนท้อง สอนให้ลูกมีส่วนร่วมกับการตั้งครรภ์