ผู้เชี่ยวชาญแนะ! พ่อแม่ควรทำโทษลูก ด้วยการ ยึดมือถือ หรือไม่?

ผู้เชี่ยวชาญแนะการยึดมือถือลูก เป็นการลงโทษเด็กที่มีประสิทธิภาพหรือไม่?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การสร้างวินัยลูกในยุคดิจิทัลอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อพ่อแม่รู้สึกว่าลูกติดมือถือมากเกินไปแล้ว พ่อแม่ควรทำโทษลูกด้วยการ ยึดมือถือ หรือไม่?

 

หลายบ้านอาจกำลังเผชิญสถานการณ์ต่อไปนี้

คุณแม่ตะโกนเรียกลูกมากินข้าว แต่ไม่มีใครลงมาเลย คุณแม่เริ่มหงุดหงิดและตะโกนอีกครั้ง “ลงมาเดี๋ยวนี้” แต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับ คุณแม่จึงตรงไปที่ห้องของลูก และพบว่าลูกกำลังหมกมุ่นอยู่กับการเล่น Robox จนลืมเรื่องอาหารเย็นไปเลย

คุณแม่ตะโกนใส่ลูก ต่อว่าที่ลูกติดเกม จนละเลยการบ้าน นอนดึก และไม่ลงไปกินข้าว ด้วยความโมโห คุณแม่จึงยึดสมาร์ทโฟนของลูก แต่ลูกก็สู้กลับ ไม่ยอมที่จะเสียมือถือไป

คุณแม่มองว่าพฤติกรรมของลูกคล้ายกับพฤติกรรมของคนติดยา และต้องการความช่วยเหลือเพื่อที่จะเลิกยา การยึดมือถือลูกช่วยลูกเลิกติดมือถือได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

Jessie Liew ผู้ก่อตั้ง Digital Parenting Coaching และเป็นคุณแม่ลูก 4 อาชีพก่อนหน้านี้ของเธอ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ในบทความนี้ Jessie จะมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการเวลาหน้าจอของลูกอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

 

คุณเคย ทำโทษลูก ด้วยการ ยึดมือถือ หรือไม่?

 

ถ้าเคย ลูกคุณมีการตอบสนองอย่างไร? เด็กแต่ละคนอาจตอบสนองต่างกันไป ขึ้นอยู่บุคลิกภาพของเขา ลูกอาจจะตอบโต้ หรือยอมจำนนด้วยความโกรธ ขุ่นเคือง หรืออาจเพิกเฉยไม่แคร์คุณเลยเลยก็ได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยุคดิจิทัลในปัจจุบัน การแยกลูกหลานออกจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องท้าทาย เด็กใช้หน้าจอและอินเทอร์เน็ตในการทำกิจกรรมประจำวันต่างๆ ทั้งทำการบ้าน การเรียน การสื่อสารกับเพื่อนฝูง และความบันเทิง

จากการศึกษาของ Common Sense Media วัยรุ่น 72% รู้สึกว่า พวกเขาจำเป็นต้องตอบสนองต่อการแจ้งเตือนในมือถือทันที ในขณะที่ผู้ปกครอง 59% มองว่า เด็กวัยรุ่นติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตน

นี่คือความท้าทายที่พ่อแม่ต้องเผชิญในปัจจุบัน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยึดมือถือ ข้อผิดพลาดที่ผู้ปกครองมักทำเวลาอยู่หน้าจอของลูกหลาน

ข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งที่ผู้ปกครองมักทำในการจัดการกับการใช้หน้าจอของลูก คือ การยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยึดมือถือ หรือลดเวลาการใช้หน้าจอของลูกเพื่อเป็นการลงโทษ โดยที่เชื่อว่า ลูกหลานจะได้เรียนรู้จากการลงโทษนี้

เมื่อลูกติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ เป็นเรื่องปกติที่พ่อแม่ต้องการเอาอุปกรณ์เหล่านั้นออก เพื่อแก้ไขพฤติกรรมของลูก และสอนบทเรียนให้แก่พวกเขา

การลงโทษอาจได้ผลในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไป การลงโทษก็จะเริ่มไม่ได้ผล เมื่อลูกโตขึ้น เขาจะพัฒนาอัตลักษณ์และความคิดของตนเอง และเริ่มตอบโต้พ่อแม่

ลูกติดโทรศัพท์ทำอย่างไร? ลูกติดมือถือแก้ยังไง?

ผู้เชี่ยวชาญได้ช่วยเจนนี่ คุณแม่ของลูกชายวัยรุ่นอายุ 13 ปี ลดเวลาหน้าจอลูกชายจาก 8 ชั่วโมงต่อวัน เหลือ 3 ชั่วโมงต่อวัน ในเวลาเพียง 1 เดือน

ลูกชายของเจนนี่เคยสนุกกับการอ่านหนังสือ เล่มบอร์ดเกม เกมไขปริศนา และรถไฟของเล่น แต่เมื่อเขาได้รับ iPad และ Nintendo Switch ตอนอายุ 12 ปี เขาก็เริ่มติด และเริ่มใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันในการเล่นเกมและดู Youtube

คุณแม่พร่ำบ่นและขู่ว่าจะยึดอุปกรณ์ต่างๆ และลูกชายของเธอมักจะโต้กลับ ฉุนเฉียว และอารมณ์เสีย

 

หลังจากเจนนี่ได้พบกับผู้เชี่ยวชาญ คุณแม่ได้เรียนรู้วิธีควบคุมเวลาการใช้หน้าจอของลูกชายให้ดีขึ้น และสื่อสารกับลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังช่วยคุณแม่จัดการกับตัวตนและความสัมพันธ์ภายในตัวเธอเอง รวมไปถึงกรอบความคิดเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกและวิธีสร้างความสัมพันธ์ที่แตกต่างกับลูกชายวัยรุ่นของเธออีกครั้ง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ผลก็คือ ลูกชายของเธอเริ่มแสดงความสนใจในงานอดิเรกเก่าๆ ของเขาอีกครั้ง เช่น อ่านหนังสือ เล่นบอร์ดเกม และรถไฟ รวมถึงผลการเรียนของเขาก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลูกชายของเธอเปิดใจมากขึ้น และเพียงสองเดือน เขาก็ชวนคุณแม่เล่นวิดีโอเกมกับเขาด้วย

การลงโทษกับผลที่ตามมา

พ่อแม่หลายคนสับสนระหว่างการลงโทษกับผลที่ตามมา การลงโทษมุ่งเป้าไปที่ความอับอาย ความรู้สึกผิด การใช้อำนาจในการควบคุมลูก มักสร้างความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจให้กับเด็ก

แทนที่จะลงโทษ ควรให้ลูกพิจารณาถึงผลที่ตามมาจากการกระทำของเขา และช่วยให้เขาเข้าใจถึงผลกระทบของพฤติกรรมเหล่านั้น

ลองถามตัวเองว่า คุณกำลังสอนอะไรบางอย่างกับลูกอยู่หรือเปล่า? เขาจะได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องนี้?

เมื่อคุณลงโทษลูกด้วยการยึดมือถือ ลูกไม่ได้เรียนรู้หรอกว่า เขาต้องเลิกติดจอ แต่ลูกเรียนรู้ที่จะปิดบังคุณต่างหาก

เด็กมีความเชื่อว่า ถ้าเขาถูกลงโทษ เขาควรพยายามปิดบัง และไม่ยอมให้แม่รู้!

ในขณะที่คุณแม่เชื่อว่า ถ้าคุณยึดสมาร์ทโฟนของลูก ลูกก็จะเลิกติดมือถือ ความเชื่อนี้ไม่จริงเสมอไป การยึดมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาลูกติดจอได้

การลงโทษจะทำให้ลูกถอยห่างจากคุณ และไม่ต้องการเล่าเรื่องราวใดๆ ในชีวิตของเขาให้คุณฟัง ซึ่งนี่อาจกลายเป็นอันตรายได้ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กเสมอไป

หากลูกของคุณประสบปัญหาต่างๆ เช่น การติดต่อกับคนแปลกหน้าทางออนไลน์ การล่อลวงทางออนไลน์ หรือการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต ลูกอาจไม่ต้องการบอกคุณ เนื่องจากกลัวว่ามือถือจะถูกยึดอีกครั้ง

 

เบื้องหลังการติดจอย่อมมีเหตุผลเสมอ 

หากลูกของคุณติดหน้าจอย่างหนัก อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่า ลูกกำลังมีความทุกข์ หรือความเครียด โดยที่เขาไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร หน้าจอจึงเป็นพื้นที่ในการปลดปล่อยความทุกช์ และรู้สึกถึงความสำเร็จ โดยเฉพาะในการเล่นเกม

การยึดสมาร์ทโฟนของลูก อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้น เนื่องจากลูกจะสูญเสียช่องทางในการผ่อนคลายความเจ็บปวด หรือตอบสนองความต้องการของตน

ลูกอาจหันไปพึ่งพาสารเสพติด หรืออาจมีปัญหาทางจิต เนื่องจากไม่สามารถรับมือกับความทุกข์ใจได้ ลูกอาจหันไปยืมโทรศัพท์ของเพื่อหรือสร้างบัญชีลับ ซึ่งนั่นไม่ให้ความคิดที่ดีเลย

ลูกอาจไม่เต็มใจที่จะเปิดให้คุณเข้าไปในโลกของเขา เพราะลูกไม่ไว้ใจหรือรู้สึกปลอดภัยที่จะทำเช่นนั้น

 

แทนที่จะ ยึดมือถือ คุณแม่ควรสงบสติอารมณ์ก่อน

เมื่อคุณสงบสติอารมณ์ได้แล้ว คุณสามารถเตือนลูก เกี่ยวกับมื้อเย็นได้สั้นๆ และบอกว่าคุณอยากคุยกับเขาระหว่างรับประทานอาหารเย็น แทนที่จะลงโทษลูก ให้คุยกับลูกก่อนเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ส่วนวิธีแก้ปัญหาระยะยาว คือ การแนะนำบุตรหลานให้ใช้แอปและเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างมีความรับผิดชอบและรู้เท่าทัน

 

ที่มา sg.theasianparent.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ลูกติดมือถือแก้ยังไง วิธีแก้ปัญหาลูกติดมือถือ ก่อนจะสายเกินไป

 เด็ก 1 ขวบเด็กเกินไปไหมที่จะเล่นไอแพด อายุเท่าไหร่ถึงจะเล่นได้ ?

แพทย์เตือน! พ่อแม่เลี้ยงลูกแบบตามใจเกินไป อาจเสี่ยงเป็นโรค ฮ่องเต้ซินโดรม ได้!