พ่อแม่ที่ตีลูก ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าลูกมักจะ แสดงพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้ พ่อแม่รู้สึกไม่พอใจ หรือเป็นเพราะ เด็กทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พ่อแม่เลย อยากจะ เตือนว่าสิ่งที่ลูก ทำนั้นมันไม่ดีนะ จึงต้องต่อว่า และ ตีลูกบ้างในบางครั้ง แต่พ่อแม่ รู้ไหมว่าสิ่งที่ ทำนั้นถึงแม้จะทำให้ ลูกหยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้ แต่การทำบ่อย ๆ จะเกิดผลเสีย กับ ลูกมากกว่าเสียอีก เป็นเพราะ อะไรกันนั้น คุณหมอมีคำตอบ
พ่อแม่ที่ตีลูก ดุด่าลูก ใส่อารมณ์กับลูก ระวังลูกโตไปเป็นเด็กเสียคน ไร้วินัย
ทำไมถึงห้ามตีลูก ดุด่าลูก
คุณหมอจากเพจ Sigtyra Schroeter ได้แชร์ เรื่องเพื่อน ของคุณหมอเกี่ยวกับการ ลงโทษลูกไว้ได้ดีมากว่า การตี หรือ การลงโทษลูกโดย ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ดุด่า ถ้อยคำรุนแรง หรือ การลงโทษ ที่ทำให้เกิด การอับอาย ถือว่าเป็น เรื่องของ physical abuse (การทำร้ายร่างกายที่เห็นบาดแผลได้ชัดเจน) และ emotional abuse (การทำร้ายทางด้านจิตใจ และมักจะแสดงออกมาทางคำพูด) โดยเฉพาะ คุณครู ที่มีการลงโทษเด็กด้วยการ ตีเด็ก เพื่อน คุณหมอได้กล่าวว่า “ครูตีคือ ครูมักง่าย เพราะการตี มันง่าย หยุดพฤติกรรม ไม่พึงประสงค์ได้ทันที โดยที่ครู ไม่ต้องคิดห่าไร พอ ๆ กับที่เด็ก ไม่ได้พัฒนาห่าไรเลย”
สาเหตุที่ไม่ควรตีเด็ก ก็เพราะว่าเด็กมักจะเรียนรู้พฤติกรรมด้วยการเลียนแบบ จึงไม่แปลกถ้าเด็กจะตีพ่อแม่คืน หรือโตขึ้นไปก็จะซ้อมเมีย เห็นใครผิดก็รุมประชาทัณฑ์ทั้ง ๆ ที่ กม. ก็มีวิธีลงโทษ เพราะมันอยู่ใน unconscious ว่าใครทำผิด(ซึ่งบางครั้งก็แค่ผิดในสายตาตัวเอง) ทำร้ายร่างกายเขาได้ ไปทุบรถเขาได้นั่นเองดังที่เห็นกันในโซเชียลทุกวันนี้
คนไทยไม่เคยถูกฝึกการควบคุมตนเอง แต่ถูกควบคุมโดยคนอื่นจากการทำให้เจ็บปวดด้วยการตีหรือการดุด่า ซึ่งกระทบทั้งร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่เด็ก ทำให้การกระทำนั้นหยุดโดยอัตโนมัติไปเลย เมื่อไม่ถูกตีถูกด่าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่เคยฝึกการยับยั้งชั่งใจมาก่อน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยโตขึ้นมาถึงไร้ระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่ำ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เลี้ยงลูกยุคใหม่ ต้องไม่ตี วิจัยเผย ยิ่งตีลูกยิ่งทําให้ลูกคิดไม่เป็น ลูกเป็นซึมเศร้า
การฝึกให้ยับยั้งชั่งใจคือสิ่งที่ควรทำ
เมื่อเด็กทำผิด คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้เด็กยอมรับผลการกระทำของตัวเอง ไม่ใช่เอะอะก็ด่าไว้ก่อน เช่น เด็กไม่เรียน ด่า ตีแล้วลากให้มาสอบซ่อมจนผ่าน ทั้ง ๆ สิ่งที่ควร คือ พูดดี ๆ บอกว่าแม่รักลูกนะ ครูรักลูกนะ ไม่ว่าหนูจะเรียนรึเปล่า และปล่อยให้สอบตก ซ้ำชั้น ไม่เรียนให้ไปหางานทำ
แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำเวลาที่ลูกมีปัญหา เช่น เด็กมีเรื่องชกต่อยกันที่โรงเรียน ทางโรงเรียนก็เรียกผู้ปกครองไป พ่อแม่ก็เข้าไปคุณครูว่าขอให้ลูกเรียนให้จบหรือไม่ก็อย่าให้ย้ายโรงเรียนเลย หลังจากนั้นก็กลับมาด่าลูกต่อที่บ้าน ทั้ง ๆที่ควรทำคือ บอกว่าพ่อกับแม่รักลูก เคียงข้างลูกเสมอ อยากให้ช่วยอะไรบอกได้เลยนะ แต่เรื่องที่โรงเรียนต้องเป็นไปตามกฎของโรงเรียน จะถูกพักการเรียน กักบริเวณ ตัดคะแนนความประพฤติ จนหมดสิทธิ์สอบ ต้องไปทำความสะอาดส้วม หรืออะไรตามกติกาก็ทำไป ต้องโดนแบบนี้ซ้ำ ๆ มากกว่า
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ห้ามพ่อแม่ตีลูก ญี่ปุ่นเตรียมออกกฎ! หลังสถิติเด็กถูกทำร้ายพุ่งสูง พ่อแม่ไทยทำบ้างดีไหม?
พ่อแม่ยุคใหม่ต้องเลี้ยงลูกให้เก่งกว่าคนรุ่นเก่า
คนสมัยก่อนที่เลี้ยงลูกแบบด่าทอทุบตี จะเห็นว่า ปัจจุบันนี้ คนเหล่านั้นกลายเป็นคนที่ เละเทะ ฝ่าฝืนกฎ กันโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ไม่มีใครเห็น ก็แอบทำ ไม่มีตำรวจก็แอบทำ เพราะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เนื่องจากไม่เคยฝึก และเคยชินกับการถูกควบคุมจากภายนอกแต่เด็ก ยิ่งเด็กในยุคนี้มีสิ่งที่ล่อตาล่อใจก็มากขึ้น ดังนั้นเด็กรุ่นใหม่จะใช้ชีวิตยากขึ้น ทำให้เขาต้องเก่งกว่าคนรุ่นเก่า ๆ
พ่อแม่ที่ตีลูก
เก่งไม่ใช่ชีวิตไม่เคยด่างพร้อย แต่ด่างพร้อยแบบที่เรียนรู้แล้วว่าจะควบคุมตัวเองยังไงไม่ให้ด่างพร้อยซ้ำกับเรื่องเดิมได้ คือ การควบคุมตัวเองยังไงได้ โดยไม่ต้องให้ใครมา ควบคุมเป็นสิ่งสำคัญที่ พ่อแม่ควรเน้นสอนกับลูกให้มาก ๆ โดยพยายามให้ลูกทำตามกฎกติกาของสังคม ฝึกความรับผิดชอบในตัวเอง เช่น มีหน้าที่เรียน คือต้องไปเรียน จะได้มีความรู้ ได้มีงานทำ เลี้ยงตัวเอง ไม่ใช่ไปเรียนเพราะกลัวครูตี แม่ด่า พอไม่มีครูหรือแม่ก็ไม่ไปเพราะมันคุมตัวเองไม่ได้ ต้องรอให้คนอื่นคุม
การลงโทษแบบให้รับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำนี่แหละ มันยากสำหรับคนเป็นพ่อแม่ ใครจิตใจอ่อนแอไม่มั่นคงก็ทำใจไม่ได้ แต่พ่อแม่ก็ต้องทำ แรก ๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะเด็กยังไม่เคยได้เรียนรู้การจัดการการโกรธของตัวเอง เวลาที่ลูกสงบไม่ได้พ่อแม่ก็ไม่ควรโมโหใส่ลูก เอาลูกเข้ามากอดพูดกับลูกดี ๆ แล้วเด็กจะค่อย ๆ ซึมซับและค่อย ๆ เรียนรู้วิธีการจัดการอารมณ์ของตัวเองได้เอง
ผลเสียของการตีเด็ก
ในฐานะพ่อแม่คุณอาจรู้สึกว่าการตี หรือตีลูกของคุณจะขัดเกลาพฤติกรรมของเขา แต่เชื่อเราเถอะว่าการตีลูกจะไม่มีอะไรดี ด้านล่างนี้เป็นผลร้ายบางประการของการตีเด็ก – ถ้าคุณตีลูกเพื่อลงวินัยเขาก็ถึงเวลาหยุด!
1. เป็นการลดคุณค่าเด็ก
การตีเด็กไม่เพียงแค่ทำร้ายร่างกายเขาเท่านั้น แต่ยังส่งผลทางอารมณ์ด้วย เป็นการต่อยทางอารมณ์ของมันที่ก่อให้เกิดผลกระทบที่เลวร้ายที่สุด หากคุณตีลูกตลอดเวลาและบอกเขาบ่อย ๆ ว่าเขาผิด หรือไม่ดีเขาจะคิดว่าเขาไม่ใช่คนดี เขาอาจคิดว่าตัวเองเป็นเด็กไม่ดี และเมื่อโตขึ้นเขาจะไม่มีความเคารพในตัวเองเลย เขาจะถือว่าเขาเป็นเด็ก ‘ไม่ดี’ และภาพลักษณ์นั้นจะอยู่ กับเขาเป็นแผลเป็นทางอารมณ์ ไปอีกนาน
2. ลดคุณค่าของผู้ปกครอง
หลังจากตี หรือตบลูกคุณอาจรู้สึกว่ามันได้ผล และรู้สึกพอใจกับตัวเองสักครู่ แต่คุณอาจรู้สึกแย่ และรู้สึกผิดหลังจากตีลูกของคุณ ถ้าคุณตีลูกเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาจะกลัวคุณ นอกจากนี้เขายังจะกลัวที่จะมาหาคุณ และบอกคุณว่าเขาทำอะไรผิด และคุณ และลูกของคุณอาจพลัดพรากจากกัน
3. มันอาจกลายเป็นนิสัย
การตบอาจเริ่มจากการตบเบา ๆ แต่ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาไปสู่สิ่งที่แย่กว่านั้นมาก หากหลังจากตีลูกของคุณคุณสังเกตเห็นว่าลูกของคุณมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ทุกครั้งที่เขาทำอะไรผิดคุณอาจใช้วิธีตบตี เพื่อให้เขาประพฤติตัวถูกต้อง หากลูกของคุณไม่ฟังคุณ และทำผิด ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า คุณอาจเอาชนะเขาหนักขึ้นจนกว่าเขาจะ ‘เรียนรู้’
4. ทำให้เด็กสูญเสียความมั่นใจในตนเอง
ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมการตี ไม่ได้ช่วยปรับปรุงพฤติกรรมของเด็ก หากคุณตีลูกความเจ็บปวด ทางร่างกายจะหาย แต่ความเจ็บปวดทางอารมณ์ จะอยู่กับเขาตลอดไป เขาอาจจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยว กับตัวเอง และมันอาจส่งผลกระทบต่อเขาภาคภูมิใจในตนเอง และความเชื่อมั่น ยิ่งคุณตีเขามากเท่าไหร่เขาก็จะทำผิดมากขึ้นเท่านั้นซึ่งจะทำให้เขารู้สึกแย่กับตัวเอง
5. อาจทำให้เด็กดื้อรั้น
พ่อแม่ที่ตีลูกมักไม่รู้ตัวว่าการตีลูกนั้นเป็นการขับไล่เด็กให้ห่างจากตัวเอง หากคุณตีลูกบ่อยๆเขาจะกลัวสักครั้งหรือสองครั้ง แต่เมื่อผ่านไปสักพักเขาอาจกลายเป็นกบฏ เขาจะรู้ว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่คุณจะทำคือการตีเขาดังนั้นเขาอาจจะฝ่าฝืนคำสั่งของคุณและทำตามที่เขาชอบ
6. ส่งผลให้เกิดปัญหาความโกรธ
เด็กที่ถูกพ่อแม่ทุบตีบ่อย ๆ ครั้งก็มีอาการโกรธเช่นกัน ในฐานะพ่อแม่คุณจะรู้สึกโกรธ ถ้าลูกของคุณทำอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณชนะเขาสำหรับสิ่งเล็ก ๆ น้อยคุณจะหว่านเมล็ดพันธุ์ของความโกรธในเด็กของคุณมากเกินไป ลูกของคุณอาจมีปัญหาทางอารมณ์ในขณะที่โตขึ้น
ที่มา: Sigtyra Schroeter , parenting
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
วิธีเลี้ยง ลูกแบบสวีเดน เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ฉลาดแบบไม่ต้อง ยัดเยียด
ลูกโดนมดกัด ยุงกัด ผึ้งต่อย เป็นตุ่ม บวมแดง พ่อแม่ควรใช้ อะไรทาให้ ลูกดี?
ลูกเป็น ภูมิแพ้ แพ้อากาศบ่อย ๆ พ่อแม่ช่วยลูก ได้ด้วยวิธีเหล่านี้
เลี้ยงลูกเอง หรือ ฝากเลี้ยง : 100 เรื่องพ่อแม่ ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ