หลาย ๆ คนอาจพบปัญหาเกี่ยวกับจุดซ่อนเร้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความอับชื้นและส่งผลไปยังทำให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่น รวมถึงอาการ ตกขาวมีกลิ่นทำไงดี ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องประสบปัญหา วันนี้ TheAsianparent Thailand ขอนำวิธีแก้ปัญหากลิ่นเหม็นจากตกขาว แก้ตกขาว มาแบ่งปันเหล่าคุณผู้หญิงกันค่ะ
ตกขาวคืออะไร ?
นพ.ธีรยุทธ เต็มธนะกิจไพศาล สูตินรีแพทย์ กล่าวถึง ตกขาว (Leukorrhea) หรือที่เรียกว่า “มุตกิด” หรือ “ระดูขาว” คือ สิ่งที่คัดหลั่งจากอวัยวะในอุ้งเชิงกรานไม่ว่าจะเป็นจากช่องคลอด ปากมดลูก หรือแม้กระทั่งตัวมดลูกเอง ตกขาวอาจเป็นอาการปกติหรืออาการผิดปกติก็ได้ ลักษณะของตกขาวปกติ คือ ตกขาวจะเปลี่ยนลักษณะตามรอบประจำเดือน โดยขึ้นอยู่กับปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตโรน (Progesterone) มีลักษณะใสไม่มีสีหรือเป็นสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น ปริมาณไม่มากและไม่มีอาการคัน ตกขาวปกติจะพบมากในช่วงกลางของรอบประจำเดือนหรือขณะตั้งครรภ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 25 หลังคลอดแล้ว ประจำเดือนยังไม่มา ผิดปกติหรือไม่ ?
อาการของตกขาว
อาการของตกขาวถือเป็นอาการธรรมชาติอย่างหนึ่งของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งไม่ใช่อาการของโรค สามารถแบ่งออกเป็นตกขาวปกติ และตกขาวผิดปกติโดยที่ตกขาวแบบปกติจะมีลักษณะเป็นเมือกขาวขุ่น คล้ายแป้งเปียก ไม่มีกลิ่นหรืออาจมีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย แต่จะไม่มีอาการแสบหรือคัน และมีปริมาณไม่มาก สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องพบแพทย์ ส่วนตกขาวผิดปกติเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อโรคต่าง ๆ การแพ้หรือการระคายเคืองจากสารเคมีทำให้มีสี มีกลิ่น แตกต่างไปจากตกขาวปกติ
หากคุณแม่ยังพบปัญหาเกี่ยวกับอาการตกขาวที่ผิดปกติอื่น ๆ สามารถเลือกอ่านบทความในหัวข้อนี้ได้ คลิก
วิธีรักษาอาการตกขาว ตกขาวมีกลิ่นทำไงดี
ตกขาวที่ติดเชื้อแต่ไม่มีอาการใด ๆ ไม่เจ็บ ไม่แสบ ไม่คัน ก็ไม่จำเป็นต้องรักษาเพราะไม่มีอันตรายใด ๆ แต่ถ้าเป็นตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อ แบ่งการรักษาออกเป็น 2 วิธี
- การรักษาในเรื่องทั่วไป ได้แก่ การเลือกสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อระวังไม่ให้เกิดความอับชื้น รวมทั้งหยุดรับประทานยาปฏิชีวนะหรือยาคุมกำเนิด ควรใช้รักษาตามอาการ เช่น ยาแก้คัน ยาแก้ปวด
- ใช้ยารักษาอาการติดเชื้อ แบ่งออกเป็น ผู้ติดเชื้อแบบธรรมดา หมายถึง ผู้ที่เพิ่งเป็นครั้งแรก หรือมีอาการไม่รุนแรงและใช้การรักษาในระยะสั้น ๆ โดยสามารถหาซื้อยาจากร้านขายยาทั่วไป เช่น ใช้ครีมรักษาเชื้อราชนิดทาหรือใส่ในช่องคลอด ใช้ยาเหน็บหรือกินยาระยะสั้น เช่น ฟลูโคนาโซล (Fluoonasole 150 มิลลิกรัม) ผู้ติดเชื้อแบบซับซ้อน หมายถึง ผู้ที่มีอาการรุนแรง และมักจะกลับมาเป็นอยู่บ่อย ๆ เช่นนี้ควรพบแพทย์เพื่อสั่งยารักษาเชื้อราซึ่งต้องกินนานกว่าปกติ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตกขาวปนเลือด ผิดปกติหรือไม่ สาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอ ?
การป้องกันตกขาว ตกขาวมีกลิ่นแก้ยังไง
- ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน ๆ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น
- ควรรับประทานอาหารที่สดใหม่ และมีคุณภาพ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอและต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
- ก่อนมีเพศสัมพันธ์ให้ล้างอวัยวะเพศก่อนทุกครั้ง
- ไม่ควรสวมใส่เสื้อผ้า กางเกงที่รัดแน่นจนเกินไป สวมใส่ชุดชั้นในที่ไม่รัดแน่นและระบายความชื้นได้ดี
- ดูแลไม่ให้อวัยวะเพศอับชื้น
- การใช้กระดาษเช็ดก้น ควรเช็ดจากด้านหน้ามาด้านหลังเพื่อความสะอาดและลดการติดเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ช่องคลอด
- ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด
- ใช้สบู่อ่อน ๆ และน้ำอุ่นทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นและไม่ควรถูแรง ๆ หรือฉีดล้างด้วยน้ำยา สเปรย์หรือสบู่ที่มีฟองมากเกินไป
- ใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- รับประทานโยเกิร์ต หรือยาคูลท์ ซึ่งมีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ จะช่วยรักษาสมดุลของจุดซ่อนเร้น
การรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตามควรหมั่นตรวจเช็กสุขภาพด้วยตนเองก่อน ตรวจดูตกขาวว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพื่อสุขภาพของตัวคุณเองนะคะ
การรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ แก้ตกขาว
เช่น หมั่นดูแล หลังทำความสะอาดควรซับให้แห้งอยู่เสมอ เพราะกางเกงใน หรือขนอวัยวะเพศ มีการหมักหมม คุณแม่ตั้งครรภ์อาจใส่แผ่นอนามัยในช่วงเป็นตกขาว และหมั่นเปลี่ยนแผ่นอนามัยอยู่เสมอ
1. ถ้ารับประทานอาหารบางประเภท
เช่น อาหารทะเลบางชนิด หัวหอม /ต้นหอม เครื่องเทศบางชนิด ที่ให้กลิ่นปนมาในปัสสาวะ และปัสสาวะติดกางเกงในมีกลิ่นรุนแรงจึงติดมาถึงบริเวณอวัยวะเพศ
2. ขี้ร้อน เหงื่อออกบ่อย
ยิ่งเหงื่อจากที่อับชื้นจากร่างกาย หรือออกบริเวณอวัยวะเพศก็ทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นได้เสมอ ควรสวมชุดที่เบาสบายระบายอากาศ และชุดชั้นในไม่รัดกุม เลือกที่ระบายอากาศดีที่สุดค่ะ
3. การสวนล้างช่องคลอด
การล้างช่องคลอด หรือการรักษาความสะอาดผิดวิธี เป็นการทำลายสมดุลของแบคทีเรียเจ้าถิ่นในช่องคลอด การล้างด้วยสบู่ที่รุนแรงก็ทำให้มีกลิ่นและตกขาวได้เช่นกันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ตกขาวปนเลือด ผิดปกติหรือไม่ สาเหตุเกิดจากอะไร เมื่อไหร่ต้องไปหาหมอ ?
ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อช่องคลอดมีกลิ่น
หากพบว่าช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น โดยเฉพาะเมื่อมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป และการปฏิบัติตัวที่เหมาะสมหากช่องคลอดมีกลิ่น มีดังนี้
- เมื่อไปพบคุณหมอแล้ว ให้ทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด
- ไม่สวนล้างช่องคลอด ยกเว้นเป็นคำแนะนำจากแพทย์
- รักษาความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำพออุ่น ร่วมกับสบู่ที่อ่อนโยน หรือผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด โดยใช้สบู่แต่ภายนอกเท่านั้น
- ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ควรซับบริเวณด้านนอกช่องคลอดให้แห้งสะอาดเสมอ วิธีนี้จะช่วยกำจัดกลิ่นฉุนของปัสสาวะ เหงื่อ และสิ่งที่ร่างกายขับออกมาตามธรรมชาติได้
- หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดและหน่อไม้ฝรั่ง เปลี่ยนไปทานผักผลไม้สด ดื่มน้ำ น้ำสับปะรด และน้ำแครนเบอร์รีมาก ๆ เพื่อให้บริเวณช่องคลอดให้ไม่มีกลิ่น หรือมีให้น้อยที่สุด
- ช่วงที่มีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
- ดูแลเรื่องความสะอาดของกางเกงชั้นใน สวมใส่กางเกงชั้นในที่ทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่รัดตึงมาก
- พบคุณหมอตามนัดเสมอ
เมื่อมีอาการตกขาว สาว ๆ อาจมีความกังวล และกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยระงับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ควรนิ่งเฉย ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ และคอยเฝ้าดูติดตามอาการว่าดีขึ้นหรือไม่ หลังจากได้รับคำแนะนำจากแพทย์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ตกขาว เชื้อราในช่องคลอด สีไหนอันตราย ลักษณะตกขาวแบบไหนที่ต้องไปหาหมอ
ตกขาวสีเขียว คืออะไร ? แล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ?
10 สัญญาณ ใกล้คลอด ที่เเม่ต้องเฝ้าระวัง
ที่มา : mahidol samitivejhospitals, pobpad sikarin