9 ครีมที่แม่ท้องห้ามใช้ เช็กก่อนซื้อ ชัวร์ก่อนใช้ การดูแลผิวในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ เพราะสารเคมีบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ ดังนั้นคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของสารที่อันตรายกับแม่ท้อง
ทำไมแม่ตั้งครรภ์ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้ครีม?
ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนอย่างมาก ทำให้ผิวหนังบอบบางและแพ้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้ ผิวหนังของแม่ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อสุขภาพของทั้งแม่และลูกน้อย
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระมัดระวังในการเลือกใช้ครีมมีดังนี้
- สารเคมีซึมผ่านผิวหนัง: สารเคมีบางชนิดในครีมบำรุงผิวสามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดและไปถึงลูกน้อยในครรภ์ได้
- ผลกระทบต่อพัฒนาการของทารก: สารเคมีบางชนิดอาจส่งผลต่อการพัฒนาอวัยวะต่างๆ ของทารกในครรภ์ หรืออาจทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ ได้
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการแพ้: ผิวหนังของแม่ตั้งครรภ์มีความไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย
ขอบคุณที่มา : care.co.th
และเมื่อได้ทราบดังนี้แล้ว เรามาเช็กกันว่าจะมีสารในครีมอะไรบ้าง ที่แม่ท้องต้องเลี่ยง
9 ครีมที่แม่ท้องห้ามใช้ เช็กก่อนซื้อ ชัวร์ก่อนใช้
1. วิตามินเอ (Retinoids)
วิตามินเอ (Retinoids) เป็นสารที่พบได้ในครีมบำรุงผิวหลายชนิด โดยเฉพาะครีมลดริ้วรอย หรือครีมรักษาสิว แม้ว่าวิตามินเอจะมีประโยชน์ในการบำรุงผิว แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอถือเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรใช้วิตามินเอ
- ส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์: วิตามินเอในปริมาณสูงอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอวัยวะสำคัญของทารกในครรภ์ เช่น หัวใจ สมอง และกระดูกสันหลัง อาจทำให้เกิดความผิดปกติแต่กำเนิดได้
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตร: การได้รับวิตามินเอในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตรได้
- ซึมผ่านผิวหนัง: วิตามินเอสามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย ทำให้สารนี้ไปถึงทารกในครรภ์ได้โดยตรง
2. ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone)
ไฮโดรควิโนน เป็นสารเคมีที่นิยมใช้ในการผลิตครีมบำรุงผิวเพื่อลดรอยดำ รอยแดง และฝ้า กระต่าง ๆ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนนถือเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ไฮโดรควิโนน
- ซึมผ่านผิวหนัง: ไฮโดรควิโนนสามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่าย ทำให้สารนี้ไปถึงทารกในครรภ์ได้โดยตรง
- ผลกระทบต่อพัฒนาการของทารก: ยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของไฮโดรควิโนนต่อทารกในครรภ์ในระยะยาว แต่การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารเคมีชนิดนี้อาจมีผลต่อการพัฒนาของทารกได้
- ความปลอดภัยยังไม่แน่ชัด: แม้ว่าไฮโดรควิโนนจะเป็นสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอที่จะยืนยันความปลอดภัยในการใช้กับหญิงตั้งครรภ์
3. น้ำหอม (Fragrance)
น้ำหอม ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลายคนชื่นชอบ แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว การใช้น้ำหอมอาจไม่ใช่ไอเดียที่ดีนัก นี่คือเหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงน้ำหอม:
- สารเคมีในน้ำหอม: น้ำหอมประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิดที่อาจระคายเคืองผิวหนังและทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ผิวหนังบอบบางและไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น
- ผลกระทบต่อทารกในครรภ์: แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าสารเคมีในน้ำหอมจะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์โดยตรง แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่ไม่จำเป็น
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการแพ้: คุณแม่ตั้งครรภ์มีโอกาสแพ้สารเคมีต่างๆ ได้ง่ายขึ้น การใช้น้ำหอมอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน ระคายเคืองผิวหนัง หรือหายใจลำบากได้
- กลิ่นฉุนรบกวน: กลิ่นน้ำหอมที่แรงอาจทำให้คุณแม่รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ หรือปวดหัวได้ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่แล้ว
4. พาราเบน (Parabens)
พาราเบน เป็นสารกันเสียที่พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว แชมพู สบู่ และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนตัวอื่นๆ แม้ว่าพาราเบนจะช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้ แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงพาราเบน
- เลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจน: พาราเบนมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทำให้มีความกังวลว่าอาจส่งผลต่อระบบฮอร์โมนของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตั้งครรภ์ที่ฮอร์โมนมีความผันผวนอยู่แล้ว
- อาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารก: การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าพาราเบนอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ เช่น การเจริญเติบโตของอวัยวะเพศ และระบบสืบพันธุ์
- เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคบางชนิด: มีการศึกษาบางส่วนที่เชื่อมโยงการสัมผัสพาราเบนกับความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเต้านมและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน
- ผิวแพ้ง่าย: ในช่วงตั้งครรภ์ ผิวของคุณแม่มักจะบอบบางและแพ้ง่าย การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพาราเบนอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นคัน หรือระคายเคืองได้
5. ครีมทาฝ้าบางชนิด
ปัญหาฝ้า เป็นเรื่องที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนต้องเผชิญ เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง แต่การเลือกใช้ครีมทาฝ้าในช่วงนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษค่ะ เพราะครีมทาฝ้าหลายชนิดมีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงครีมทาฝ้าบางชนิด
- สารเคมีที่เป็นอันตราย: ครีมทาฝ้าหลายชนิดมีส่วนผสมของสารเคมี เช่น ไฮโดรควิโนน ปรอท และวิตามินเอ (เรตินอยด์) ซึ่งสารเหล่านี้สามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดและส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ เช่น ทำให้เกิดความผิดปกติทางร่างกาย หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
- ผิวแพ้ง่าย: ในช่วงตั้งครรภ์ ผิวของคุณแม่จะบอบบางและแพ้ง่ายกว่าปกติ การใช้ครีมทาฝ้าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผิวหนังระคายเคือง หรือแดงได้
- ผลลัพธ์ไม่แน่นอน: ผลลัพธ์ของการใช้ครีมทาฝ้าในช่วงตั้งครรภ์อาจไม่ชัดเจน เนื่องจากฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง มักจะจางลงเองหลังคลอด
6. Salicylic Acid (BHA)
Salicylic Acid หรือ BHA เป็นสารที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ครีมลอกสิว ครีมผลัดเซลล์ผิว เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA นั้น ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง BHA
- ซึมผ่านผิวหนัง: BHA สามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดได้ และอาจส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ แม้ว่ายังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจน แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจึงควรหลีกเลี่ยง
- ระคายเคืองผิว: ผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์จะบอบบางและไวต่อการระคายเคืองมากกว่าปกติ การใช้ BHA อาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง หรือเกิดอาการแพ้ได้
- ผลกระทบต่อการพัฒนาของทารก: การศึกษาในสัตว์บางชนิดพบว่า BHA อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของตัวอ่อนได้ แม้ว่ายังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนในคน แต่เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย ควรหลีกเลี่ยง
- ผลลัพธ์ไม่แน่นอน: ผลลัพธ์ของการใช้ BHA ในช่วงตั้งครรภ์อาจไม่แน่นอน เนื่องจากฝ้าที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง มักจะจางลงเองหลังคลอด
7. Benzoyl Peroxide
Benzoyl Peroxide หรือที่เรียกกันติดปากว่า BP เป็นสารที่นิยมใช้ในการรักษาสิว มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว และช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BP นั้น ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยง BP
- ระคายเคืองผิว: ผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์จะบอบบางและไวต่อการระคายเคืองมากกว่าปกติ การใช้ BP อาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง หรือเกิดอาการแพ้ได้
- ผลกระทบต่อทารกในครรภ์: แม้ว่ายังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจนว่า BP จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์โดยตรง แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดจึงควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือดได้
- ผลลัพธ์ไม่แน่นอน: ผลลัพธ์ของการใช้ BP ในช่วงตั้งครรภ์อาจไม่แน่นอน เนื่องจากสิวที่เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง มักจะดีขึ้นเองหลังคลอด
8. Triclosan
ไตรโครซาน เป็นสารเคมีที่มักพบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สบู่เหลว สบู่ก้อน ยาสีฟัน และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายอื่นๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไตรโครซานนั้น ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
เหตุผลที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงไตรโครซาน:
- อาจส่งผลต่อฮอร์โมน: ไตรโครซานมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้มีความกังวลว่าอาจไปรบกวนระบบฮอร์โมนในร่างกายของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
- อาจส่งผลต่อการพัฒนาของทารก: การศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าไตรโครซานอาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ เช่น การเจริญเติบโตของอวัยวะเพศ และระบบสืบพันธุ์
- สะสมในร่างกาย: ไตรโครซานสามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้ และเมื่อสะสมในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยาปฏิชีวนะ: การใช้ไตรโครซานเป็นประจำอาจทำให้แบคทีเรียดื้อยาปฏิชีวนะได้ ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ
- ระคายเคืองผิว: ผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์จะบอบบางและไวต่อการระคายเคืองมากกว่าปกติ การใช้ไตรโครซานอาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง หรือเกิดอาการแพ้ได้
9. สารกันแดดบางชนิด
คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีบางชนิด เพราะอาจส่งผลกระทบต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครีมกันแดดประเภทเคมี (Chemical Sunscreen) ซึ่งมีส่วนผสมที่อาจซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายได้
ครีมกันแดดประเภทเคมีที่ควรหลีกเลี่ยง:
- Oxybenzone: มีการศึกษาบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าสารนี้ อาจส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน และระบบสืบพันธุ์ของทารกในครรภ์ได้
- Octinoxate: สารนี้มีความกังวลว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และอาจส่งผลกระทบต่อระบบต่อมไร้ท่อ
- Octyl methoxycinnamate: มีความกังวลว่าอาจก่อให้เกิดการแพ้ และระคายเคืองผิว
- Avobenzone: แม้ว่าจะได้รับการยอมรับว่าปลอดภัย แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ในบางคน
- Octisalate: มีความกังวลว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และอาจส่งผลกระทบต่อระบบประสาท
ครีมกันแดดที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเลือกใช้:
- ครีมกันแดดทางกายภาพ (Physical Sunscreen): เป็นครีมกันแดดที่ใช้สารสะท้อนแสง เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์ และซิงค์ออกไซด์ เพื่อป้องกันรังสี UV โดยไม่ดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง จึงปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- เลือกสูตร Non-nanoparticle: หมายถึงอนุภาคของสารกันแดดมีขนาดใหญ่ ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่างกายได้
- ค่า SPF 30 ขึ้นไป: เพื่อให้การป้องกันแสงแดดมีประสิทธิภาพ
- ปราศจากสารเคมี: เลือกสูตรที่ปราศจากพาราเบน น้ำหอม สีสังเคราะห์ และสารเคมีอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อย การหลีกเลี่ยงสารเคมีที่เป็นอันตรายจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 ครีมคนท้อง สกินแคร์ ห้ามพลาด ปี 2024 ครีมทาผิว ครีมทาหน้าดี ๆ ปัง ๆ !
ตั้งครรภ์ทาเล็บได้ไหม คุณแม่มือใหม่อยากสวย ต้องรู้
เครื่องสําอาง คุณแม่ตั้งครรภ์ แม่ท้องอยากสวย เครื่องสำอางแบบไหนที่ใช้ได้ !?!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!