สัญญาณบ่งชี้ว่าคุณติดสมาร์ทโฟน แล้ว!!!

ใช้สมาร์ทโฟนทุกวัน เล่นเฟสบุ๊ค แชร์ภาพในอินสตาแกรม แชทไลน์ ดูยูทูป เช็คอีเมล และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มาเช็คกันซิว่าคุณมีสัญญาณว่าติดสมาร์ทโฟนหรือเปล่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สัญญาณบ่งชี้ว่าคุณหรือลูกคุณติดสมาร์ทโฟน

สัญญาณบ่งชี้ว่าคุณหรือลูกคุณติดสมาร์ทโฟน : สมาร์ทโฟน คือ อุปกรณ์เทคโนโลยีชิ้นเล็ก ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในปัจจุบันได้หมดภายในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป รวมถึงการมีแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคุณได้ จึงพูดได้ว่า สมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง ของชีวิตประจำวันไปแล้ว

 

ผลสำรวจโดย InsightExpress บริษัทผู้วิจัยตลาดในสหรัฐฯ ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากบริษัท Cisco เพื่อเก็บข้อมูลสำรวจผู้ใช้สมาร์ทโฟนวัยทำงาน หรืออายุ 18-30 ปี เผยว่าคนไทย สูงถึง 98 เปอร์เซ็นต์เช็คสมาร์ทโฟนก่อนลุกออกจากเตียง

 

สัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณเป็นคนติดสมาร์ทโฟน

  • รู้สึกกระวนกระวาย เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไปจากชีวิต ถ้าไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน หรือ การหาสมาร์ทโฟนในช่วงเวลาที่ต้องการใช้ไม่เจอ
  • กิจวัตรตอนเช้านอกจากจะอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันแล้ว คุณจะไม่พลาดที่จะส่ง หรือโพสต์ข้อความแบบเรียลไทม์
  • มีการใช้สมาร์ทโฟนในทุก ๆ ที่ แม้กระทั่งในสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด
  • มีการใช้แอพพลิเคชั่นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการ ในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • มีการใช้โปรแกรมแชทต่าง ๆ พูดคุยกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูงมากกว่าการโทรศัพท์คุยกัน
  • เริ่มใช้สมาร์ทโฟนซื้อของออนไลน์มากขึ้นกว่าการเดิน ไปห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของ

 

  • คุณเช็คมือถือในขณะขับรถ

การกระทำที่เสี่ยต่อชีวิตทั้งของคุณเองหรือของผู้อื่น ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณเป็นโรคติดโทรศัพท์มือถือขั้นรุนแรง เพราะนั่นจะทำให้คุณตัดสินใจอะไรได้ช้ากว่าตอนเมาแล้วขับซะอีกนะ แถมยังช้าเป็นสามเท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูในขณะขับรถ นี่เป็นการกระทำที่บ่งบอกว่าคุณกลัวจะส่งข้อความไม่ทันมากกว่าจะกลัวตาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • คุณรู้สึกหงุดหงิดมากถ้าใช้มือถือไม่ได้

สัญญาณที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งก็คือ คุณจะรู้สึกระทมทุกข์มากถ้าอยู่ห่างจากโทรศัพท์มือถือ และรู้สึกประสาทเสียเอามากๆ ถ้าไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งถ้ามีใครมาบอกให้คุณวางมือถือลงในระหว่างดินเนอร์ล่ะก็ คุณอาจมีอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมาเลยก็ได้

 

  • คุณออกจากบ้านไม่ได้ถ้าไม่มีมือถือ

การไม่มีสมาธิที่จะทำอะไรได้ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนอยู่ในมือนั้น คือสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังหมกหมุ่นอยู่กับอะไรแบบไร้สติ ซึ่งควรหาวิธีบำบัดโรคติดโทรศัพท์มือถือได้แล้ว เนื่องจากในโลกใบนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตั้งมากมาย ถ้าคุณไม่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • คุณประสาทกินเมื่อแบตฯ เหลือน้อย

ถ้าหัวใจของคุณเต้นตูมตามหรือมีเหงื่อออกที่มือ เวลาที่แบตมือถือกำลังจะหมดล่ะก็ ขอให้พึงสังวรณ์ไว้นะว่าคุณกำลังโดนโรคติดโทรศัพท์มือถือเล่นงานเข้าให้แล้วล่ะ เนื่องจากการวิตกกังวลว่าคุณจะไม่สารมารถติดต่อใครได้ ไม่สามารถเช็คอีเมล์ และไม่สามารถตรวจดูความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์นั้น คือตัวบ่งบอกที่ชัดเจนว่าคุณเป็นโรคติดโทรศัพท์มือถือ!

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลองมาดูวิธีการใช้สมาร์ทโฟนแบบนี้กันดูไหม

  1. เวลาอยู่ในที่สาธารณะ เช่น อยู่ในร้านอาหารหรือบนรถไฟฟ้า ควรใช้สมาร์ทโฟนเท่าที่จำเป็นและหันไปมองคนรอบข้างบ้าง เก็บบางเรื่องเอามามาพูดคุยกับครอบครัวบนโต๊ะอาหาร หรือเวลาพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็น “สังคมก้มหน้า” กันดีกว่า
  2. วางสมาร์ทโฟนเอาไว้บนโต๊ะ แล้วชวนครอบครัวพูดคุยเรื่องสรรพเพเหระบนโต๊ะอาหาร เช่น ถามถึงเรื่องสนุก ๆ ในโรงเรียนของลูก หรือพูดถึงเรื่องผมทรงใหม่กับน้องสาว เป็นต้น
  3. ลองเปิดเสียงเบา ๆ ขณะฟังเพลงจากสมาร์ทโฟนบนรถประจำทางหรือในรถไฟใต้ดิน คุณอาจจะได้ยินเรื่องสนุก ๆ ที่คนอื่นคุยกันก็ได้นะ
  4. จัดตารางการใช้โทรศัพท์มือถือ เช่น จัดตารางการใช้โทรศัพท์ในช่วงเวลาที่แน่นอนในแต่ละวัน โดยอาจให้รางวัลตนเองที่จะมีเวลาใช้โทรศัพท์ได้มากขึ้น ถ้าสามารถทำงานบ้านหรืองานอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว
  5. ปิดโทรศัพท์มือถือ ในช่วงเวลาที่แน่นอนในแต่ละวัน อย่างเช่น เวลาที่คุณขับรถ เข้าประชุม ออกกำลังกาย ทานดินเนอร์ หรือเล่นกับลูกน้อย และไม่ควรนำมือถือเข้าไปใช้ในห้องน้ำด้วย
  6. อย่าใช้มือถือหรือแท็บเล็ตบนเตียงนอน แสงที่ฟ้าที่ออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์นั้นอาจรบกวนการนอนหลับของคุณได้ ถ้าคุณใช้มือถือในช่วงก่อนเข้านอนสองชั่วโมง ฉะนั้นก็ปิดมือถือแล้วเสียบสายชาร์ทในอีกห้องหนึ่ง แล้วหยิบหนังสือที่เป็นหนังสือจริงๆ ขึ้นมาอ่านในช่วงก่อนนอนแทน
  7. หากิจกรรมอย่างอื่นทำ ถ้าคุณรู้สึกเบื่อหรือเหงา การข่มความรู้สึกไม่ให้ใช้สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นเรื่องยากลำบากได้ ฉะนั้น ก็วางแผนการฆ่าเวลาของคุณเอาไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิ การอ่านหนังสือ หรือการพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ
  8. จำกัดการตรวจเช็คมือถือ ถ้าคุณตรวจเช็คอะไรในมือถือทุกๆ สองนาทีอยู่ล่ะก็ เลื่อนเวลาออกไปให้นานขึ้นซะ โดยจำกัดเวลาตัวเองให้ตรวจเช็คได้ทุกๆ 15 นาที จากนั้น ก็เพิ่มเป็นทุกๆ 30 นาที และทุกๆ หนึ่งชั่วโมงในที่สุด
  9. ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดอะไร คุณต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่า คุณไม่มีทางที่จะติดตามข่าวเด็ดหรือเรื่องชวนเม้าท์มอยได้ทุกเรื่องหรอกนะ ซึ่งถ้าคุณทำใจยอมรับได้ คุณก็จะเป็นอิสระจากเครื่องมืออิเลคโทรนิคทุกชนิด

 

 

ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าสมาร์ทโฟนคือเทคโนโลยีทีดีและเข้าถึงได้เร็วที่สุด เรียกได้ว่ากลายเป็นเลขาส่วนตัวของเราไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนจะทำได้หลายอย่างแต่ก็ไม่สามารมาดูแลสุขภาพของเราและทำให้คนรอบข้างของเรามีความสุขได้ดีเท่ากับการแสดงความรู้สึกจากเราจริง ๆ นะคะ

 

โปรโมชั่นที่พักโรงแรมที่ The Asianparent Thailand รวมรวมมาไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ ครบครันในที่เดียว ดีลเด็ด ดีลปัง ส่วนลดพิเศษที่ช่วยให้คุณและครอบครัว เดินทางท่องเที่ยวได้ตามใจฝัน ในจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมสุดหรู โรงแรมสำหรับครอบครัว ส่วนลดที่พักวันหยุด ส่วนลดที่พักวันธรรมดา และส่วนลดจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือในโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ก็สามารถเข้ามาหาข้อมูลส่วนลด เพื่อจัดแพลนเที่ยววันหยุดสุดหรรษาได้ที่นี่ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านเด็ด จานเด็ดคนดัง ร้านอร่อย กทม ร้านอร่อยทั่วประเทศให้คุณไปเช็คอิน และกินอาหารในบรรยากาศสุดหรู หรือ วิวหลักล้านอีกมากมาย 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ลูกอายุเท่าไหร่ให้เล่นมือถือ-แท็บเล็ตได้ ทำอย่างไรไม่ให้ลูกติดจอ

วิธีแก้ปัญหาลูกติดมือถือ พ่อขอแชร์ประสบการณ์ ที่เคยใช้กับลูกได้ผลมาแล้ว!!

ที่มา: 1, 2, 3

บทความโดย

Napatsakorn .R