ไขข้อข้องใจ คุณแม่ตั้งครรภ์กินกุ้งสด ได้ไหม คุณแม่สายอาหารทะเลทั้งหลายควรรู้

คุณแม่ตั้งครรภ์กินกุ้งสด ช่วงเวลาตั้งครรภ์ ได้หรือไม่? แน่นอนว่าความรู้สึกของคุณแม่คือ เมื่อมีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคนในท้อง อาหารการกินจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะไม่ใช่การกินที่แค่เรากินเพียงคนเดียว แต่ไม่ว่าเราจะทานอะไร ลูกน้อยก็จะได้ทานสิ่งนั้นไปด้วยพร้อม ๆ กับเราแล้วจะทานอย่างไรให้ได้สารอาหารครบถ้วน ครบ5หมู่ และมีประโยชน์ต่อเด็กในครรภ์ ที่สำคัญที่คุณแม่ต้องคำนึงถึง จำพวกอาหารต้องห้ามอีกหลาย และในบางกรณี อย่างที่เป็นความเชื่อสมัยโบราณ บอกต่อ ๆ กันมา เช่นอาหารทะเลคนตั้งครรภ์ไม่สามารถทานได้ และใครที่ชอบกินอาหารทะเลดิบ ซาซิมิ คุณแม่ตั้งครรภ์กินกุ้งสด หรือเมนูเปรี้ยวปากอย่างกุ้งแช่น้ำปลา คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถกินได้หรือไม่  เป็นเพราะอะไร ทำไมคนตั้งครรภ์ถึงไม่สามารถทานอาหารทะเลได้ มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

เรามาดูประโยชน์สารอาหารที่ได้รับเมื่อรับประทาน อาหารทะเล

ต้องบอกได้เลยว่า ประโยชน์เน้น ๆ แหล่งรวบรวมโปรตีน เกลือแร่ และกรดไขมันที่จำเป็นอีกทั้งยังมีกลุ่มไขมันชนิดไม่อิ่มตัว เป็นกลุ่มไขมันดีที่ร่างกายต้องการ กลุ่มไขมันไม่อิ่มตัว ที่ร่างกายต้องการนั้น มีประโยชน์อย่างไร ต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์  คือ เป็นกรดไขมันที่ช่วยในด้านพัฒนาการด้านระบบประสาท และสายตาได้ดีเยี่ยม คุณแม่ตั้งครรภ์กินกุ้งสด สำคัญที่ยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ดี และเสริมให้ภูมิคุ้มกัน ทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย คือ กรดไขมันDHA หรือรู้จักกันดีในนามว่าโอเมก้า 3 หรือเรียกว่า โอเมก้า 6 โดย กรดไขมันชนิดนี้พบมากในอาหารทะเล โดยเฉพาะ ปลาเเซลมอน ปลาทู จึงเหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก แต่ก็ควรกินแบบปรุงสุก มากกว่าแบบดิบนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : มะยงชิดผลไม้สุดฮิต ช่วงหน้าร้อน คุณแม่ท้องกินมะยงชิดได้ไหม? 

วิดีโอจาก : แม่ แอนด์ ลูก สตอรี่

ขณะตั้งครรภ์ สามารถทานอาหารทะเล ทานกุ้งสดได้หรือไม่

ต้องบอกก่อนว่า อาหารทะเลมีสารอาหารจำพวกโปรตีน เกลือแร่ และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายอยู่เยอะ ขณะตั้งครรภ์คุณแม่สามารถทานอาหารทะเลได้ปกติค่ะ  แต่ต้องระวังและเลือกทานอาหารทะเลที่มีประโยชน์และได้สารอาหารที่ครบถ้วนจริง ๆ ต้องศึกษาข้อมูลก่อน เพราะอาหารทะเลบางชนิดมีผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้ค่ะ

อาหารทะเลที่ “ควรหลีกเลี่ยง”  มีอะไรบ้าง

• อาหารทะเลจำพวกหอย เพราะ หอยเป็นอาหารทะเลชนิดหนึ่ง ทำความสะอาดยาก  อาจปนเปื้อนสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าอาหารทะเลชนิดอื่นหากทำความสะอาดไม่ดีพอแล้วคุณแม่ทานเข้าไป ท้องเสีย  ได้รับเชื้อที่ส่งผลต่อลูกในท้อง เสี่ยงมาก ๆ ที่จะเกิดอันตรายต่อเด็กในครรภ์และรวมถึงตัวคุณแม่เองอีกทั้งยัง มีปริมาณไขมันสูง  หากคุณแม่ทานหอยในปริมาณมาก ๆ ส่งผลให้คุณแม่เป็นโรคอ้วน ซึ่งเป็นโรคที่ไม่เป็นผลดีต่อเด็กในครรภ์ เพราะอาจมีโรคแทรกซ้อนโรคอื่น ๆ ตามมาได้ ข้อแนะนำในการทานหอย สำหรับมื้ออาหารที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าหอยที่รับประทานนั้นปรุงสุกแล้ว สำหรับคุณแม่ที่อยากทานหอย ควรนำหอยมาทำความสะอาด ปรุงให้สุก ทำอาหารเอง เพราะ เป็นวิธีเดียวที่คุณแม่มั่นใจได้ว่าได้ทานหอยอย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อลูกน้อยค่ะ

• ควรระวังในการทานเนื้อปลาดิบ เนื้อปลาเป็นอาหารที่มีประโยชน์เป็นซูเปอร์ฟู้ดที่แคลอรีต่ำสำหรับคุณแม่ที่รักษาหุ่นแล้ว ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงผิวพรรณ ส่งผลดีต่อตัวคุณแม่และเด็กมากมาย แต่หากทานเนื้อปลาดิบ ๆ อย่างเช่น ซูชิ สเต็กที่ไม่สุก เนื้อปลาดิบเหล่านี้สามารถกลับมาทำร้ายคุณแม่และเด็กในครรภ์ได้โดยตรงเลยค่ะ และเสี่ยงต่อพยาธิ อันตรายมาก ๆ เสี่ยงต่อสารปนเปื้อนที่เป็นเชื้อก่อโรคต่าง ๆ มากมายที่ได้รับผ่านตัวปลาที่ปนเปื้อน หากคุณแม่ได้รับสารปนเปื้อนเหล่านั้นจะส่งผลให้มีอาการถ่ายเป็นน้ำ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน สร้างความลำบากไม่ใช่น้อย  คุณแม่ทั้งหลายจึงควรปรุงอาหารประเภทปลาให้สุกก่อนรับประทาน นะคะ

ข้อแนะนำในการเลือกทานอาหารทะเล

รับประทานในปริมาณจำนวน ที่พอดี อาหารทะเลมีประโยชน์ต่อคนท้องก็จริง แต่คุณแม่ต้องทานในปริมาณที่เพียงพอและพอดีไม่มากเกินไป ในหนึ่งวันควรทานอาหารทะเลหนึ่งมื้อ และในหนึ่งสัปดาห์ควรทานอย่างน้อยจำนวน สัปดาห์ละ 2 ครั้งพอประมาณ โดยอาหารทะเลที่ต้องจำกัดปริมาณมากที่สุดคือ ปลาหมึก กุ้ง หอย ปู เพราะเป็นอาหารทะเลที่มีคอเลสเตอรอลสูงมากค่ะและการปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เป็นการระมัดระวังผลกระทบที่ตามมาและเป็นการฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับอาหารทะเล

สำหรับเมนูกุ้งแช่น้ำปลาที่แสนน่าทาน

 เป็นอีกหนึ่งเมนูสุดแซ่บที่ถูกใจใครคุณแม่หลาย ๆ คน นึกถึงน้ำยำที่แสนจะเผ็ดเปรี้ยวอมหวานนำมาราดบนตัวกุ้งสด แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมหั่นบาง ๆ ตามด้วยใบสะระแหน่ แม้ว่ารสชาติจะอร่อยแค่ไหน ขอให้คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามใจไว้ค่ะ รับประทานได้แค่จำนวนน้อยเท่านั้นนะคะ  เพราะถ้ากินแบบนี้จนเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่จะส่งผลเสียอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ

กุ้งแช่น้ำปลามาพร้อมกับอันตรายที่คุณแม่ควรรู้

ขึ้นชื่อว่าอาหารดิบย่อม มีความสุ่มเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งเมนูนี้นอกจากจะเสี่ยงท้องเสียจากการปรุงที่ไม่สะอาดแล้ว ในกุ้งสดนั้นยังก่อโรคอย่างเชื้อพาราฮิโมไลติคัส (Vibrio parahaemolyticus) วิบริโอ ซึ่งเป็นเชื้อที่พบบนสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ชายฝั่งทะเล ในน้ำทะเล และตามตะกอนโคลนตมในทะเล อันตรายของเชื้อนี้ทำให้เกิดทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงได้ค่ะ  ในบางรายอาจเกิดอาการตะคริวในช่องท้อง ปวดบิด ปวดหัว อาเจียนหรือมีไข้ หรือถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้เลยค่ะ บอกเลยว่า ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงกินอย่างแน่นอน

5 ความเสี่ยงจากการกินกุ้งแช่น้ำปลากัน

1.โรคอาหารเป็นพิษ มีไข้ อาเจียน

โรคอาหารเป็นพิษ ส่วนมากมักเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วในช่วง ระยะเวลาอันสั้นภายหลังจากรับประทานอาหารเข้าไป อาการของโรคอาจจะเกิดขึ้น ภายใน 1 ชั่วโมง จนถึง  8 วัน หลังการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป สังเกตอาการเบื้องต้น จะรู้สึกพะอืดพะอมทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ รู้สึกเบื่ออาหาร อุจจาระร่วง หรือหนักมากคือท้องร่วงอย่างรุนแรงค่ะ

2.โรคติดเชื้อทางเดินอาหารหรือระบบลำไส้

อาการติดเชื้อโรคในทางเดินอาหาร ทำให้ท้องเสียหนัก ปวดท้องรุนแรง และถ้าเป็นในอาการที่เยอะ ทำให้บางคนถึงกับไอเป็นเลือดได้เลย หรือว่าเสียชีวิตก็ได้เช่นกัน ถ้าเชื้อเหล่านั้นมันเข้าสู่กระแสเลือดของเรานะคะ ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ๆ ลองนึกว่าในขณะที่ไม่ตั้งครรภ์การติดเชื้อทางเดินอาหารยังเป็นโรคที่เสี่ยงและอันตรายมาก แล้วถ้าเกิดกับคนตั้งครรภ์แล้วนั้น ย่อมสร้างความลำบากมากขึ้นหลายเท่า

3.โรคแอนแทรกซ์

เชื้อนี้จะแฝงอยู่ในเนื้อดิบ หากกินเนื้อที่มีเชื้อนี้เข้าไป  จะเกิดการติดแอนแทรกซ์ในทางเดินอาหาร ร่างกายจะมีปฎิกิริยาเร็วมาก เพราะได้เชื้อที่เป็นพิษ เกิดอาการอ้วกเป็นเลือด ถ่ายท้องรุนแรง ในรายที่เป็นมากก็ติดเชื้อในกระแสเลือดถึงแก่ความตายได้

4.พยาธิใบไม้ในปอด

กุ้งดิบมักมีพยาธิใบไม้ และเมื่อลุกลามเข้าปอดยิ่งเป็นอันตรายมาก การกินกุ้งดิบ ทำให้เกิดโรคพยาธิใบไม้ในปอด หากไม่รักษาอาจ ทำให้พยาธิขึ้นสมอง มีอาการชัก สายตาผิดปรกติ มีอาการบวมเหมือนคนเป็นโรคพยาธิตัวจี๊ด อย่างไรก็ตามเลี่ยงได้เป็นทางที่ดีที่สุดค่ะ

5.โรคอุจจาระร่วง

อาจเสี่ยงเป็น โรคอุจจาระร่วง โดยจะมีอาการ แรกเริ่มคือ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวบ่อยครั้ง อาจมีไข้สูงร่วมด้วย ส่วนการดูแลเบื้องต้น ระวังอาการขาดน้ำ ให้ดื่มน้ำละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ เพื่อป้องกันการขาดน้ำหากอาการไม่ดีขึ้น

ดังนั้นอ่านมาถึงตรงนี้คุณแม่หลายท่านคงพับเมนูนี้ทิ้งลงถังขยะแล้วใช่ไหมคะ แต่อย่าเพิ่งค่ะ เพราะจริงเราสามารถกินกุ้งดิบ หรือยังกินเมนูกุ้งแช่น้ำปลาได้ แล้วต้องกินกุ้งแช่น้ำปลาอย่างไร ให้ห่างไกลโรค วิธีเลือกกุ้งนะคะ เลือกซื้อกุ้งที่สดจริง ๆ ตัวไม่นิ่ม ไม่เละ ล้างทำความสะอาดดี ๆ ผ่าหลังดึงเส้นดำออกให้เรียบร้อย  ล้างอีกครั้งด้วยน้ำโซดาแช่เย็นกลิ่น ย้ำว่าน้ำโซดาแช่เย็นนะคะ ดับคาวกุ้ง คาวคงหายไปบ้าง ถ้ายังมีกลิ่นหลงเหลือรสชาติของน้ำจิ้มจะเป็นตัวช่วยได้ แต่แตะน้ำจิ้มเบา ๆ แต่น้อยนะคะ เนื่องจากมีส่วนผสมในน้ำจิ้มที่สามารถลดกลิ่นคาวได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

วัคซีนไวรัสตับอักเสบบีหญิงตั้งครรภ์ ฉีดก่อนลูกน้อยในครรภ์ติดเชื้อ

แชร์สูตรฟรี !! ไข่พะโล้ ฉบับโบราณ หอมตั้งแต่ยังไม่ทาน เหมาะกับเด็กทุกวัย

ปิกนิกในสวน ที่ไหนดีให้มีประโยชน์ และการเตรียมตัวที่ทุกคนต้องรู้

ที่มาข้อมูล : Sanook