SHA ส่อมแววว่าจะดีเยี่ยม มีนักท่องเที่ยว ให้ความเชื่อใจ มั่นใจ และยังบอกต่อ หลังจากเจ้าหน้าที่ ได้มีการสอบถามปากเปล่าส่า รู้จักได้อย่างไร และทำไมถึงเลือกที่จะเข้าพัก คำตอบที่ได้คือ “มีคนบอกว่าที่นี่ดี” นี่เป็นผลมาจาก การปรับตัวจากทุกภาคส่วนได้มี เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็เช่นเดียวกัน ททท. ได้ร่วมมือกับ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ, กระทรวงสาธารณสุข, หอการค้าไทย รวมไปถึงถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ขับเคลื่อนโครงการแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety & Health Administration หรือ SHA
Amazing Thailand Safety and Health Administration(SHA) เป็นโครงการความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยนำมาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขผนวกกับมาตรฐานการให้บริการที่มีคุณภาพของสถานประกอบการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย
โดยจะแบ่งประเภทสถานประกอบการออกเป็น 10 ประเภทคือ
- ภัตตาคาร / ร้านอาหาร
- โรงแรมและที่พัก สถานที่จัดการประชุม
- นันทนาการ / สถานที่ท่องเที่ยว
- ยานพาหนะ
- บริษัทนำเที่ยว
- สุขภาพ และความงาม
- ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า
- กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว
- การจัดกิจกรรม จัดประชุม โรงละคร / โรงมหรสพ
- ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่น ๆ
*ข้อมูล ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564
in1
ในส่วนของ กระบวนการทางด้านการประเมิน จะทำการตรวจตาม checklist พร้อมรับรองผล การปรับปรุงสถานประกอบการ ตามมาตรฐาน SHA โดย ททท.จะเป็นผู้ควบคุม ในการออกตราสัญลักษณ์ และจะระบุหมายเลขของตราสัญลักษณ์SHA ให้กับผู้ประกอบการ เพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูล รายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับตราสัญลักษณ์
ทางด้าน รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ให้ข้อมูลว่า ในปัจจุบัน SHA มีพันธมิตร เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก และมีสถานประกอบการที่ผ่านการตรวจสอบและได้รับตราสัญลักษณ์SHA ไปแล้วกว่า 8,000 แห่ง จากเป้าหมายที่วางไว้ที่ประมาณ 7,000 แห่ง ในปีแรกนี้
in2
ตราสัญลักษณ์มาตรฐาน SHAจึงกลายเป็นภาพใหญ่ ที่ผู้ใช้บริการที่ต้องการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ต่างมองหาในยุค new normal ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวไปแล้ว
ขณะที่ ททท. ก็เริ่มมีการ ประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ส่วนใหญ่ก็จะสอบถามถึงสถานประกอบการที่ได้รับรองมาตรฐานSHA เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม, ร้านอาหาร, แหล่งท่องเที่ยว หรือแม้แต่ รถนำเที่ยว ฯลฯ
และไม่เพียงเกณฑ์มาตรฐานที่ได้ดำเนินการไปแล้วเท่านั้น หลังจากที่ประเทศไทย ได้เผชิญกับการระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่นั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการตรวจประเมิน ไม่ว่าจะเป็นกรมอนามัย, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, กรมควบคุมโรค ฯลฯ ยังได้ร่วมมือกัน ออกมาตรการที่เข้มข้นขึ้นด้วย โดยจะให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าควรจะทำอะไร และเพิ่มในจุดไหนบ้าง
ตัวอย่างเช่น กลุ่มร้านอาหาร ที่ปัจจุบันมีการผ่อนคลายในการให้บริการมากขึ้น ทางกรมอนามัย ก็จะมีแนวทาง ในการการตรวจที่เข้มข้นขึ้น และจะร่วมมือ กับกองสุขาภิบาลอาหาร เพื่อช่วยตรวจในเชิงรุกด้วย ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บิการ ของผู้บริโภคอีกด้วย ว่าร้านอาหารที่เปิดให้บริการอยู่นั้นเขามีมาตรการดูแลอย่างดีขชน
in3
นอกจากนี้ ยังมีอีกโครงการ ซึ่งโครงการนี้ถูกเรียกกว่า “Thailand Traveller Voice : เที่ยวมั่นใจ บอกได้ทุกเรื่อง” โครงการนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวแจ้งข้อมูล ปัญหา ที่พบจากจุด/แหล่งบริการ
ท่องเที่ยวต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ อาทิ เรื่องมาตรฐานสุขอนามัยที่ได้รับจากผู้ให้บริการ, มาตรฐานความปลอดภัย, การให้บริการต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ เป็นต้น
อีกทั้ง ยังเป็นศูนย์กลางในการรับข้อมูลความคิดเห็น ปัญหาต่าง ๆ จากนักท่องเที่ยวและส่งต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริหารจัดการต่อไป รวมทั้งร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจการท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์ความต้องการ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น
นอกจากนี้ ทาง ททท.จะยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนSHA ต่อไป โดยตั้งเป้าให้มีผู้ประกอบการที่ผ่านการตรวจและได้รับตราสัญลักษณ์เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 15-20% ซึ่งก็สอดรับกับมุมของผู้ประกอบการเองที่ต้องรีบปรับตัวให้ก้าวสู่มาตรฐานของโลกยุคใหม่ ที่เรียกว่า hygiene tourism เช่นกัน
ยังไม่หมดแค่นั้นทาง ททท.ยังมีแผนต่อยอดโครงการ SHAภายใต้ชื่อSHA Next โดยโฟกัสลงลึกในแต่ละหมวดของสถานประกอบการมากยิ่งขึ้น เช่น ในหมวดภัตตาคาร ร้านอาหาร ก็จะเพิ่มกลุ่มของสตรีตฟู้ด หรือในหมวดแหล่งท่องเที่ยวก็มีแผนเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น
พร้อมทั้งมีโครงการ Best of SHA Award ประกาศรางวัลสุดยอดสถานประกอบการ SHAซึ่งในอนาคตอาจ co-branding กับมิชลิน เพื่อให้ร้านอาหารที่ได้รางวัลมิชลินและได้มาตรฐาน SHAซึ่งเป็นมาตรฐานด้านสาธารณสุขควบคู่ไปด้วย จากเดิมที่เน้นเรื่องความสะอาด อร่อย เป็นหลัก
โดยมีเป้าหมายทำให้ตราสัญลักษณ์SHA เป็นหนึ่งในเครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้บริโภคคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และทำให้ทั่วโลกเห็นว่าประเทศไทยจริงใจกับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด และป้องกันไม่ให้ “การท่องเที่ยว” กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแพร่เชื้อโควิด
ที่สำคัญเป็นการส่งสัญญาณด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยพร้อมเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุก ๆ กลุ่ม และทุก ๆ ประเภทจากทั่วโลกแล้ว…
ที่มา : thailandsha.tourismthailand.org
บทความอื่นไ ที่น่าสนใจ :
เงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยวใน การเดินทางเข้าไทยในช่วง COVID-19
แนวโน้มการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมนักท่องเที่ยว 9 สิ่ง หลังจากยุคโควิด-19 หมดลง
เงื่อนไขสำหรับนักท่องเที่ยวใน การเดินทางเข้าไทยในช่วง COVID-19
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!