เผยผลสำรวจพฤติกรรมแม่ไทย ปี 2561
เผยผลสำรวจพฤติกรรมแม่ไทย จากงาน Digital Mums Survey 2018 ที่จัดทำโดย theAsianparent พบว่า แม่ไทยเป็นผู้ทรงอิทธิพลในการซื้อของเข้าบ้าน และมีพฤติกรรมช้อปออนไลน์สูง โดยใช้ smartphone เป็นเครื่องมือในการช้อปออนไลน์ทั้งทางเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และทางแอปพลิเคชั่น ทั้งยังมีรใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ LINE เป็นช่องทางสื่อสารยอดนิยม อีกด้วย
จากการสุ่มสำรวจคุณแม่กลุ่มตัวอย่าง จำนวนกว่า 1,000 คน โดยการทำแบบประเมินทางออนไลน์ ผลสำรวจออกมาน่าสนใจมาก โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
คุณแม่ส่วนใหญ่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ โดยใช้งานมากถึง 47% เพิ่มขึ้นมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน (20.75%) โดยเวลาส่วนใหญ่มมักใช้ไปกับการท่องโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ก มากที่สุด (77.10%) รองลงมาจะเป็นการเข้าไปหาข้อมูลตามเว็บไซต์เกี่ยวกับครอบครัว (parenting sites) (75.31%) ถัดมาคือ ซื้อของออนไลน์ (62.43%) เสิร์จหาข้อมูลทั่วไปทางอินเทอร์เน็ต (42.58%) เช็กอีเมล์ (37.57%) และเรื่องอื่นๆ (4.29%) ตามลำดับ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล จะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ (91.95%) และใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งระบบปฎิบัติการที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นแอนดรอยด์ (70.66%) ในขณะที่ ios (29.34%) แต่หากแยกโทรศัพท์ออกเป็นแบรนด์ต่างๆ พบว่า อันดับหนึ่งที่มีผู้ใช้มากที่สุด คือ iPhone (29.34%) ตามมาด้วย Samsung (26.30), Vivo (12.16%) และ Huawei (9.48%) ตามลำดับ
บทความที่คุณแม่มักเปิดอ่านบ่อยที่สุด คือ เรื่องพัฒนาการของเด็ก (75.85%) รองลงมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและโภชนาการ (62.43%) ถัดมาเป็นเรื่องของการศึกษา (43.11%) ตามลำดับ ในกรณีที่คุณแม่มีปัญหาหรือมีข้อสงสัย ส่วนใหญ่จะเข้าไปค้นหาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์/แอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับครอบครัว (76.03%) ค้นหาข้อมูลจากการเสิร์จ (68.69%) สอบถามคนสนิท (57.25%) ถามจากหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ (51.88%) และดูตามโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กและกลุ่มทางเฟซบุ๊ก (44.72%)
แอปพลิเคชั่นที่คุณแม่มักใช้ในการสื่อสารส่วนมากเป็น Line (89.45%) และ Facebook Messenger (89.27%) โดยที่แม่ส่วนใหญ่มักจะชอบเข้าไปมีปฎิสัมพันธ์กับคุณแม่ท่านอื่นๆ ผ่านกลุ่มของเฟซบุ๊กหรือชุมชนออนไลน์ต่างๆ เกือบตลอดทั้งวัน (30.05%) ทั้งยังมีบัญชีโซเชียล (Social Media accounts) ที่เป็น Facebook มากเป็นอันดับหนึ่ง (97.50%) รองลงมาเป็น Line (93.02%) ที่ต่างจากกันเพียงเล็กน้อย
การติดตามโซเชียลมีเดียของสินค้าและบริการแบรนด์ต่างๆ นั้น คุณแม่มักจะติดตามเพราะต้องการอัปเดตสินค้าล่าสุดหรือข้อเสนอใหม่ๆ เป็นอันดับแรก (77.10%) รองลงมา คือ ต้องการทราบถึงโปรโมชั่น และส่วนลดต่างๆ (74.42%) สำหรับประเภทของสินค้าหรือบริการที่คุณแม่ติดตามมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ สินค้าเด็ก (87.30%) สินค้าแฟชั่นและของออนไลน์ (57.96%) อาหาร (52.95%) สุขภาพ (41.68%) และการท่องเที่ยว (36.49%) ตามลำดับ
แม่ไทยส่วนใหญ่จะซื้อของอย่างน้อยเดือนละครั้ง คิดเป็น 91.05% แบ่งเป็น ซื้อประมาณ 2-3 ครั้งต่อเดือน (31.66%) ซื้อเดือนละครั้ง (30.05%) หลายครั้งต่อสัปดาห์ (15.21%) และทุกสัปดาห์ (14.13%) ตามลำดับ เหตุผลที่คุณแม่ชอบซื้อสินค้าออนไลน์เพราะว่าสะดวก (83.89%) ประหยัดเวลา ไม่ต้องออกจากบ้าน (83.10%) และยังได้ราคาที่ถูกกว่า โปรโมชั่นที่ดีกว่า (77.41%)
ประเภทสินค้าที่คุณแม่มักจะซื้อผ่านทางออนไลน์บ่อยๆ อันดับหนึ่ง คือ เสื้อผ้าเด็ก (74.26%) รองลงมาเป็น ของใช้เด็ก (69.55%) ถัดมาเป็นเสื้อผ้าสำหรับแม่เอง (45.38%) สำหรับช่องทางที่ใช้ซื้อของออนไลน์ อันดับหนึ่งคือ ทางเฟซบุ๊ก (75.44%) อันดับรองลงมา คือ Lazada (70.73%) ถัดมาเป็น Shopee (61.49%) และ Line (42.24%) ตามลำดับ
โดยที่ “คุณแม่” กว่า 98% มักจะเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อของเข้าบ้าน และคุณแม่มากถึง 58.86% มักจะเป็นคนตัดสินใจซื้อของเข้าบ้านทุกครั้ง ส่วนคุณแม่อีก 39.18% จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นบ้างในบางโอกาส
เผยผลสำรวจพฤติกรรมแม่ไทย
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
วิธีเลือกของเล่นให้ลูกแต่ละช่วงวัย ซื้อแบบไหนช่วยเสริมพัฒนาการลูกน้อยมากที่สุด
เพิ่มวันลาคลอด ลูกจ้างหญิงตั้งครรภ์ ลาก่อนคลอด-หลังคลอด ได้เพิ่มขึ้นกี่วัน เช็คเลย!
แม่จ๋ารู้มั้ย..อยู่ในท้องหนูรู้สึกอะไรบ้าง 5 เรื่องจริงที่น่าอัศจรรย์ของ ทารกในครรภ์
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!