สุขภาพดวงตาของลูกเป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเลย การตรวจตาพ่อแม่หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า ถ้าจะพาลูกตรวจตา หมอตาจะตรวจประเมินอะไรบ้าง และเราต้องเตรียมพร้อมอะไร และจักษุแพทย์เด็ก รักษาโรคไหนได้บ้าง วันนี้ theAsianparent จะพามาดู 10 หมอตาเด็ก พาลูกไปหาหมอตาที่ไหนดี จักษุแพทย์ตรวจอะไรบ้าง?
สิ่งที่หมอตาเด็กจะตรวจประเมิน มีอะไรบ้างมาดูกัน
- การมองเห็น พฤติกรรมการมองเห็น (visual behavior)
- หมอจะประเมินระดับการมองเห็น (visual acuity) ซึ่งมีเทคนิคในการประเมินได้หลายอย่างขึ้นกับ cognitive function และความร่วมมือในของลูก เพื่อจะช่วยประเมินภาวะสายตาขี้เกียจ (amblyopia or lazy eye)
- ประเมินการมองเห็นที่ใช้สองตาร่วมกัน (Binocularity) และการมองเห็นสามมิติ (Stereopsis)
- การมองเห็นสี (color vision) ที่สามารถตรวจความเสี่ยง เช่น มีโรคตาบอดสีในครอบครัว เฉพาะในกับเด็กผู้ชาย ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมของครอบครัวในการวางแผนการศึกษาต่อเนื่องของเด็ก
- มีการตรวจประเมินวิธีเคลื่อนไหวของลูกตา (extra ocular movement) และตรวจค้นหาภาวะตาเข ตาเหล่ในเด็ก (strabismus)
- จักษุแพทย์เด็กจะตรวจส่วนด้านหน้าของลูกตา ทั้งกระจกตา,ช่องด้านหน้าลูกตา,เลนส์ตา
- จักษุแพทย์จะตรวจประเมินค่าระดับสายตา (refractive status and accommodative status) และตรวจจอประสาทตา โดยซต้องมีการหยอดยาขยายม่านตา เพื่อประเมินที่ถูกต้องในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 10 หรือ 12 ปี (cycloplegic refraction)
- ตรวจวัดความดันลูกตา (intra ocular pressure) สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงในการเป็นต้อหิน โดยเฉพาะเด็กที่สายตาสั้นในวัยก่อนเข้าเรียน หรือเด็กที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคต้อหิน
- ตรวจประเมินลานสายตา (visual field) สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงเป็นต้อหิน
- ถ่ายภาพจอประสาทตา (retinal photograph)
ขั้นตอนการตรวจดวงตาสำหรับเด็ก
การตรวจตา รวมทั้งการขยายม่านตาโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที เพื่อยาขยายม่านตาจะทำงาน และจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 6 – 12 ชั่วโมง. โดยขึ้นอยู่กับยาที่ใช้ รวมถึงจะมีการวัดค่าสายตาเด็กด้วย
คุณพ่อ คุณแม่ต้องเตรียมความพร้อมให้เด็กยังไง?
สำหรับเด็กที่ต้องหยอดยาที่ตา แนะนำให้เตรียมแว่นกันแดด ร่ม หมวก โดยหากจะต้องใส่แว่นทางคุณหมอจะมีใบสั่งแว่นตาคุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปตัดที่ร้านได้
10 หมอตาเด็ก พาลูกไปหาหมอตาที่ไหนดี จักษุแพทย์ตรวจอะไรบ้าง?
1. แพทย์หญิงปานฉัตร ภัครัชพันธุ์
ประจำที่ : โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน
จักษุแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญในด้านโรคตาเด็ก โดยคุณหมอท่านนี้มีความใจดี มีความใจเย็นอ่านค่าสายตาเป๊ะ สามารถแนะนำ และวิธีการรักษาโรคสายตาในเด็กได้อย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อตาคุณหมอจะชำนาญมาก
2. นายแพทย์ วรากร เทียมทัด
ประจำที่ : โรงพยาบาลพญาไท 2
จักษุแพทย์เด็กที่มีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาเด็ก และพ่อแม่แบบจบลงด้วยความสุข (Happy Ending) โดยคุณหมอจะเฝ้าติดตามอาการของโรคที่เกิดขึ้นกับตาในเด็กอย่างแม่นยำ และรักษาอย่างชำนาญ เพื่อที่จะให้การรักษานั้นมีรอยยิ้มตลอดรวมถึงคุณหมอเข้าใจว่าเด็กอยากจะสื่อสารอะไรผ่านการร้องไห้ หรืออากัปกิริยาอื่น ๆ ที่เขาแสดงออกมา
3.นายแพทย์ ปกป้อง ปราณีประชาชน
ประจำที่ : โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
จักษุแพทย์ที่มีความชำนาญในการแก้ไขตาเหล่ในเด็ก และผู้ใหญ่ โดยคุณหมอปกป้องสามารถรักษาโรคที่เกิดขึ้นกับตาลูกเราได้อย่างถูกต้อง และมีจิตวิทยาในการพูดคุยกับเด็ก โดยในโลกออนไลน์ต่างพูดเป็นเสียงกันว่าถ้าการปัญหาอะไรกับตา คุณหมอท่านนี้สามารถรักษาได้อย่างตรงอาการมาก ๆ
4.รศ.นพ.ธรรมนูญ สุรชาติกำธรกุล
ประจำที่ : โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
จักษุแพทย์ที่มีความชำนาญในโรคตาเข ตาเหล่ของเด็กโดยเฉพาะ โดยคุณหมอท่านนี้สามารถรักษาอย่างชำนาญมีจิตวิทยา และวิธีพูดกับเด็กได้อย่างดี ทำให้เด็กไม่งอแงเวลาตรวจ ถ้าบ้านไหนกำลังมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับตาสามารถปรึกษาคุณหมอได้เลย
5.นพ. จรินทร์ ศักดิ์ธนะเศรษฐ
ประจำที่ : โรงพยาบาลสมิติเวช
คุณหมอที่เห็นความสำคัญของดวงตา และเชื่อว่าดวงตาคือหน้าต่างของทุกสิ่ง คุณหมอมีความชำนาญในการตรวจตาเด็กแบบละเอียด เพราะอยากแก้ไขความผิดปกติของสายตาตั้งแต่เด็ก เพราะเชื่อว่าสายตาจะส่งผลต่อไปอีกทั้งชีวิต โดยคุณหมอจะมีการรักษาแบบละเอียด และเฉพาะเพราะการวัดสายตาและตรวจตาเด็กจะใช้วิธีการที่แตกต่างจากผู้ใหญ่พอสมควร เช่น อาจจะมีการหยอดยาขยายม่านตา ตรวจการเคลื่อนไหวของตา การมองเห็นสี การมองภาพสามมิติ จึงต้องรักษาแบบชำนาญ
6.พญ. จิภาดา พฤกษาชลวิทย์
ประจำที่ : โรงพยาบาลเมดพาร์ค
จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาเด็ก และกล้ามเนื้อตา โดยคุณหมอนั้นให้ความสำคัญกับการสื่อสารของเด็ก คุณหมอเข้าใจวิธีการสื่อสารว่าเด็กต้องการจะสื่ออะไรผ่านการร้องไห้ และกิริยาต่าง ๆ ของเด็ก โดยคุณหมอแนะนำว่าควรจะพาลูกมาตรวจสุขภาพตาเถอะถึงจะยังไม่มีปัญหาก็ควร
7.ผศ.นพ.พรพัฒนะ วิจิตรเวชไพศาล
ประจำที่ : โรงพยาบาลศุภมิตร, โรงพยาบาลนนทเวช
คุณหมอพรพัฒนะ จักษุแพทย์เด็กที่ชำนาญด้านตาเข ตาเหล่ มะเร็งตาในเด็ก คุณหมอจะช่วยรักษาโรคตาในเด็กได้อย่างตรงจุด สามารถพูดคุยกับเด็กได้อย่างสนิทสนม เข้าใจว่าเด็กต้องการอะไร และทำให้การรักษามันจบสวยที่สุด (Happy Ending) ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกบ้านต้องการ
8.นายแพทย์ วิทวัส ทรัพย์ธนากร
ประจำที่ : โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาลสินแพทย์
คุณหมอวิทวัสให้ความสำคัญกับโรคตาขี้เกียจ หรือ Lazy Eye ที่จะพบบ่อยในช่วงเด็กอายุ 7 ปีมากโดยอาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งข้างเดียว หรือสองข้างซึ่งจะทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด โดยคุณหมอจะให้การศึกษาที่ชำนาญ และมีจิตวิทยาในการพูดคุยกับเด็กในการรักษาจบได้อย่างดีที่สุด
9.นายแพทย์ ปัญชรัช ปรีชาหาญ
ประจำที่ : โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลเอกชัย
จักษุแพทย์เด็กที่มีความชำนาญในด้านโรคตาเข และตาเหล่ โดยคุณหมอมีวิธีกรักษาตามอาการ และมีความใจดีกับเด็กสามารถบอกสิ่งที่เด็กต้องการได้จากการร้องไห้ และกิริยาบางอย่าง ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ผ่านปัญหาเรื่องตาของลูกได้หลายบ้านมาแล้ว
10.นพ.ยุทธพงษ์ อิ่มสุวรรณ
ประจำที่ : โรงพยาบาลวิชัยยุทธ, โรงพยาบาลสินแพทย์
คุณหมอตาเด็กที่มีความชำนาญด้านกล้ามเนื้อตา ที่จะช่วยดูแลเรื่องตาขี้เกียจ (Lazy Eye) โรคต้อต่าง ๆ สายตาสั้น สายตายาวก็รักษาได้หมด และยังมีความใจเย็น มีจิตวิทยาพูดกับเด็กเรียกได้ว่าถ้ามหาาคุณหมอเด็กจะไม่กลัวการมาหาหมออีกต่อไป
และนี้เป็นรายชื่อหมอตาเด็ก จักษุแพทย์เด็ก ที่เราคัดมาให้ทุกคนนะคะ อยากให้เพื่อน ๆ เลือกหมอตาเด็กที่เดินทางสะดวก ใกล้บ้าน หรืออ่านแล้วตรงใจ การตรวจสภาพตาของลูกไม่จำเป็นต้องรอให้เค้าสายตาสั้น หรือมีปัญหาก่อนแต่สามารถเช็คได้ตลอดเพื่อชีวิตที่ดีของลูกนะคะ
Source : โรงพยาบาลพญาไท
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เช็กด่วน! ตำรวจเตือน “เครื่องสำอางปลอม” ระบาดหนักในช่องทางออนไลน์
เตือนภัย! เด็กกินน้ำผึ้ง มือเท้าม่วงเฉียดตาย แพทย์เผยสาเหตุ
เตือนภัยพ่อแม่! ทารก 4 เดือน แพ้สมุนไพร แผลเหวอะ!