9 นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก สร้างการเรียนรู้เปี่ยมจินตนาการให้ลูกน้อย

เพราะจินตนาการของลูกสำคัญต่อการเรียนรู้ การเลือกหนังสือนิทานเพื่อสร้างจินตนาการให้กับลูกน้อยจึงมีความสำคัญ ลองเริ่มจาก 9 นิทานเสริมพัฒนาการเด็กที่เรานำมาฝาก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นิทานสำหรับเด็ก คือตัวช่วยชั้นดีในการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการทางสติปัญญา การฟัง การพูด ทักษะทางภาษา อารมณ์ จิตใจ และสังคม ทั้งยังช่วยให้ลูกน้อยมีจินตนาการ มีส่วนในการขัดเกลาจิตใจ เสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมในหัวใจดวงน้อยได้ด้วย ซึ่งบทความนี้เรานำ 9 นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก เครื่องมือที่จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ สร้างการเรียนรู้เปี่ยมจินตนาการให้ลูกน้อย มาฝากค่ะ

เริ่มอ่าน นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก ให้ลูกฟังตอนไหนดี

สำหรับการอ่านนิทานเสริมพัฒนาการเด็กให้ลูกน้อยฟังนั้น คุณพ่อคุณแม่อ่านและเล่านิทานให้ลูกฟังได้ตั้งแต่เขาอยู่ในครรภ์เลยนะคะ เพราะการพูดคุยกับทารกในครรภ์มีส่วนช่วยทำให้สมองและระบบประสาทที่ทำหน้าที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ลูกน้อยจะสามารถสัมผัสได้ถึงน้ำเสียง อารมณ์ ความรู้สึกที่คุณพ่อคุณแม่ถ่ายทอดออกมาจากนิทาน และอาจตอบสนองเรื่องเล่านั้น ๆ  ด้วย การดิ้น และเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดีค่ะ

 

เลือก นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก อย่างไร ให้เหมาะกับลูกน้อยแต่ละช่วงวัย

เนื่องจากเด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน ความต้องการเสริมในแต่ละทักษะตามช่วงวัยก็ต่างกันไปด้วย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือก นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก ให้เหมาะสมกับวัยของลูกน้อย โดยอาจใช้แนวทางดังต่อไปนี้

  • นิทานเสริมพัฒนาการเด็กแรกเกิด ควรเป็นหนังสือขนาดใหญ่ที่มีรูปภาพและสีสันสดใส เพื่อดึงดูดและเสริมพัฒนาการการมองเห็นได้เป็นอย่างดี และอาจเลือกหนังสือนิทานที่มีลักษณะรูปร่าง และพื้นผิวแตกต่างกัน มีเสียงประกอบ เพื่อฝึกทักษะการสัมผัส การได้ยิน และการมองเห็น
  • นิทานเสริมพัฒนาการเด็กทารกและเด็กเล็ก (วัย 12-18 เดือน) ควรเป็นหนังสือที่มีเนื้อเรื่องเป็นคำง่าย ๆ มีจังหวะคำคล้องจอง หรือมีเสียงดนตรีประกอบ อาจเป็นหนังสือนิทานเกี่ยวกับสัตว์ รถ อาหาร คน หรืออาจเลือกหนังสือที่มีลูกเล่นเพิ่มขึ้น อย่างหนังสือ POP-UP มีพื้นผิวแตกต่างกัน และมีความแข็งแรง ก็จะช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ ภาษา การมองเห็นและการฟังได้
  • นิทานเสริมพัฒนาการเด็กวัยหัดเดิน (วัย 18 เดือน – 3 ปี) หนังสือนิทานสำหรับลูกน้อยวัยเตาะแตะ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกที่มีเนื้อเรื่องยาวมากขึ้น อาจเป็นหนังสือให้ความรู้ หนังสือเกี่ยวกับการผจญภัย ที่มีคำศัพท์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น อาจมีภาพประกอบ ภาพ POP-UP มีเสียง มีความแตกต่างของพื้นผิว ก็จะช่วยสร้างจินตนาการและทักษะทางภาษาให้แก่ลูกได้ค่ะ
  • นิทานเสริมพัฒนาการเด็กก่อนวัยเรียน เข้าสู่ช่วงวัยที่ต้องเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนค่ะ หนังสือนิทานที่มีตัวหนังสือมากขึ้น เรื่องยาวขึ้น ซับซ้อนมากขึ้นก็ต้องมาอยู่ในลิสต์ค่ะ เพราะจะช่วยเพิ่มการเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะการคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหา ขณะที่ยังคงเสริมสร้างทักษะทางภาษาและการสื่อสารได้อย่างดี โดยคุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตและเลือกหนังสือนิทานจากความชอบและความสนใจของลูก หนังสือที่เกี่ยวกับการเข้าโรงเรียน การมีเพื่อน เพื่อเตรียมความพร้อมเรียนรู้ทักษาการเข้าสังคมค่ะ

 

ประโยชน์ของนิทานเสริมพัฒนาการเด็ก

การเล่านิทานนั้นเป็นกิจกรรมที่ทำได้ง่ายและสามารถทำได้ทุกวันนะคะ ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการอ่านให้ฟัง หรือชวนกันอ่านนิทาน มีประโยชน์ที่ช่วยฝึกสมาธิให้แก่ลูกน้อย และทำให้ลูกมีพัฒนาการสมบูรณ์รอบด้าน ทั้งความฉลาดทั้งทางสติปัญญา (IQ) และ ความฉลาดทางด้านอารมณ์ (EQ) ดังนี้

  • เรื่องราวในนิทานเด็กเปรียบเสมือนสถานการณ์สมมติ จึงเป็นสิ่งที่เสริมสร้างจินตนาการลูกน้อย ช่วยฝึกทักษะการสังเกต สร้างเด็กช่างคิด ช่างถาม เสมือนแบบฝึกหัดที่สนุกและเข้าใจง่าย
  • เด็กที่ฟังนิทานเป็นประจำจะมีทักษะการเรียนรู้ทางภาษาที่ดีค่ะ เนื่องจากเป็นการฝึกจับประเด็น อีกทั้งหากมีการเล่าซ้ำจะทำให้ลูกจำเรื่องราวและมองภาพรวมเข้าใจได้ มีทักษะการฟัง ฝึกจับประเด็น และสรุปความ เสริมความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในการเรียน และยังปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เขาได้ด้วย
  • วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งของนิทานเด็ก คือ เป็นการอบรมด้วยบรรยากาศที่มีความสุขและสนุกสนาน ให้ลูกได้รับการปลูกฝังคุณธรรมผ่านเรื่องเล่าและเนื้อหาในนิทานตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาไม่รู้สึกว่ากำลังถูกสอน
  • การชวนอ่านไปพร้อมกันทั้งครอบครัว จะช่วยสร้างความสุขและคลายความกังวลให้ลูกได้ เขาจะสัมผัสได้ว่าตัวเองเป็นที่รักของคุณพ่อคุณแม่ เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวจากการใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน ที่สำคัญคือสามารถสร้างความทรงจำที่ดี ความทรงจำแห่งความสุขให้เกิดขึ้นกับลูกน้อยนั่นเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เล่า-อ่าน อย่างไร ให้ลูกสนุกไปกับ นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก

จุดที่คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจเกี่ยวกับการเล่าหรืออ่านนิทานให้ลูกฟัง อยู่ที่ ลูกน้อยควรมีความรู้สึกสนุกและมีความสุขไปกับกิจกรรมเล่านิทาน หรืออ่านนิทานนั้น ๆ ค่ะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจเพิ่มเทคนิคการเล่าเพื่อช่วยเร้าและดึงดูความสนใจลูก อาทิ

  • ใช้น้ำเสียงและอารมณ์ให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง เพื่อดึงดูดให้เด็กสนใจในนิทานมากขึ้น
  • คุณพ่อคุณแม่อาจอุ้มลูกไว้บนตัก หรือจุดที่เขาสามารถมองเห็นหนังสือนิทานได้อย่างชัดเจน และควรอยู่ในท่าทางที่สบาย ๆ ไม่เกร็ง หรืออึดอัด
  • สร้างการมีส่วนร่วมในนิทานกับลูกน้อย โดยการตั้งคำถามระหว่างเล่า เน้นคำที่ต้องการให้จดจำ หรือกระตุ้นให้ลูกชี้ภาพตาม เพื่อเพิ่มจิตนาการ สมาธิ การคิดวิเคราะห์ และความสนุก
  • กรณีที่ลูกโตขึ้น ลองให้เขาได้เลือกหนังสือที่ตัวเองชอบด้วยตัวเอง แล้วเล่าเรื่อง หรือชวนกันอ่านเรื่องนั้น ๆ ให้ลูกฟัง จะช่วยฝึกให้ลูกกล้าตัดสินใจและสามารถเพิ่มความสนใจในนิทานแก่ลูกได้ด้วย
  • ควรมีสถานที่และบรรยากาศประจำในการอ่านหนังสือ เช่น ระเบียงบ้าน ที่อากาศดี เงียบสงบ ปราศจากเสียงทีวี เกม โทรศัพท์มือถือ หรือสิ่งเร้าอื่น ๆ เพื่อให้ลูกน้อยมีสมาธิจดจ่ออยู่กับนิทาน รวมถึงมีการกำหนดช่วงเวลาในการอ่านนิทานอย่างน้อย 1 เล่ม ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อทำให้ลูกเคยชินและกระตือรือร้นกับกิจกรรมสำคัญนี้ของตัวเองและครอบครัว

 

แนะนำ 9 นิทานเสริมพัฒนาการเด็ก เสริมสร้างการเรียนรู้เปี่ยมจินตนาการให้ลูกน้อย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาพ: NANMEEBOOKS

1 ตะล็อกก๊อกแก๊ก (สำนักพิมพ์ Nanmeebooks)

เป็นหนังสือที่คุณแม่สามารถอ่านให้ลูกฟังได้ตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะเสียงขึ้น ๆ ลง ๆ ของคำว่า “ตะล็อกก๊อกแก๊ก” ที่ออกจากปากคุณแม่ จะช่วยเสริมพัฒนาการของเด็กด้านการฟังให้ลูกน้อย นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นให้ลูกวัย 12-18 เดือน หัดพูดได้เร็วขึ้นด้วย ทั้งยังเป็นการลูกน้อยไปเรียนรู้เรื่องกระดูก อวัยวะสำคัญของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด ผ่านรูปภาพสีสันสวยงาม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภาพ: Youtube Channel Book World Publishing

2 เป็ดกิ๊บกั๊บ นับ 123 (สำนักพิมพ์ โลกหนังสือ)

เป็นหนังสือนิทานภาพสามมิติ POP-UP เรื่องราวของเป็ดน้อย กิ๊บกั๊บ ที่จะชวนเด็ก ๆ ไปพบกับเพื่อนสัตว์น่ารัก สอนให้รู้จักตัวเลข และจำนวน 1-10 ผ่านคำคล้องจอง ฝึกเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวเลขกับจำนวนภาพ ลูกน้อยจะได้สนุกและตื่นตาตื่นใจกับภาพ POP-UP สามมิติที่มีสีสันสดใส กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้อย่างเพลิดเพลิน

 

3 มาต่อบล็อกไม้กันเถอะ (สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก)

เป็นหนังสือนิทานที่เวลาอ่านจะได้ยินเสียงก๊อกแก๊ก ๆ ทุกหน้า เหมือนกับการเล่นต่อบล็อกไม้ของเด็ก โดยเนื้อหาในเล่มมีการขยายบล็อกให้ใหญ่กว่าตัวลูกน้อยหลายเท่า ช่วยเสริมจินตนาการให้ลูกได้คิดตามว่า บล็อกไม้ทำอะไรได้บ้าง เป็นนิทานที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือกัน ช่วยส่งเสริม EF ด้านการวางแผนแล้วลงมือทำ สร้างทักษะการใส่ใจจดจ่อ มุ่งเป้าหมาย ยืดหยุ่นทางความคิด มีภาพสวยงาม ให้ความรู้สึกลูกได้เข้าไปช่วยต่อบล็อกไม้ด้วย

 

 

ภาพ: Kinokuniya Thailand

4 หมุน หมุน…ทายซินี่คืออะไร (สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หนังสือที่คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกมองได้หลายทิศทาง ชวนกันหมุน หมุน เห็นเป็นตัวอะไรนะ ซึ่งมีคำตอบได้หลายอย่างในหน้าเดียว คำตอบมีได้มากกว่าหนึ่ง จินตนาการเป็นอะไรก็ตอบตามนั้น ไม่มีถูกผิด เพียงแค่หมุนภาพ แล้วลองคิด เป็นหนังสือที่จะฝึกให้ลูกน้อยมีจินตนาการ รู้จักสังเกต และทดสอบการประมวลผลของสมองจากประสบการณ์ของลูก แล้วสามารถตอบคำถามจากภาพที่เปลี่ยนมุมมองได้

 

ภาพ : HAPPY MOM.LIFE

5 Buzzing Through (สำนักพิมพ์ The Manhattan Toy Company)

หนังสือนิทานที่เป็น “หนังสือผ้า” สีสันสดใส บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าสัตว์ป่าที่ท่องเที่ยวไปเจอเพื่อน ๆ มากมาย ตัวหนังสือมีลูกเล่นกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยให้ได้หยิบ จับ ขยำ และคว้า พร้อม ๆ กับเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษไปด้วย

 

 

6 โคลงเคลงค้างคาวน้อย (สำนักพิมพ์ มูลนิธิเด็ก)

เป็น 1 ใน 500 เล่ม หนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งเนื้อหาในนิทานเป็นเรื่องราวของ “โคลงเคลง” เจ้าค้างคาวน้อยที่อยากกินกล้วยกวนในตอนค่ำ การใช้ภาษาที่เป็นบทกลอนทำให้เด็กเล็กสามารถฟังได้อย่างเพลิดเพลิน แถมเจ้าสัตว์ลักษณะแปลกตายังช่วยส่งเสริมจินตนาการ และกระตุ้นพัฒนาการของลูกในการคิดหาวิธีช่วยเจ้าค้างคาวตัวน้อยแก้ปัญหาไปพร้อมกัน

 

7 หมีน้อยกินเองเก่งจัง (สำนักพิมพ์ Happy Parenting)

เป็นหนังสือนิทานที่จะช่วยปลูกฝังให้ลูกน้อยหัดกินอาหารด้วยตัวเอง โดยเล่าผ่านลูกหมีที่กินข้าวด้วยตัวเองได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมไล่เลี่ยกับเด็กวัย 2 ขวบที่อันไหนตักได้ก็ตัก อันไหนหยิบได้ก็หยิบ ซึ่งเมื่อหมีน้อยลงมือกินเองเขาจึงเพลิดเพลินกับการแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยสังเกตว่าแม้ช้อนจะใช้ตักข้าวโพดขึ้นมาได้แต่ก็หล่นก่อนเข้าปาก เมื่อลองเปลี่ยนมาใช้ส้อมก็สามารถยึดข้าวโพดได้ ไม่ร่วง เกิดเป็นความภาคภูมิใจในตนเองที่แก้ปัญหาได้ และมีความสุขกับการกิน

 

8 หนูอยากเป็นหมอฟัน (สำนักพิมพ์แปลนฟอร์คิดส์)

นิทานดี ๆ จากประเทศเบลเยียม ที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่มีมุมแหลมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อมือลูกน้อย เนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวของอาชีพหมอฟัน เริ่มจากอุปกรณ์ในห้องหมอฟัน การแต่งกายของหมอฟัน และวิธีไปหาหมอฟัน เป็นหนังสือที่ช่วยเตรียมตัวลูกให้พร้อมไปเจอหมอฟันครั้งแรกอย่างมั่นใจ ไร้ความกังวล

 

 

ภาพ: SandClock Books

9 ห้องน้ำกลางดึก (สำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก)

หนังสือนิทานที่จะช่วยพัฒนาความสามารด้านจินตนาการ หลักเหตุผล อุปมาอุปไมย หรือการสร้างโลกในจินตนาการของเด็กขึ้นมา เป็นเรื่องราวของเด็กที่ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนด้วยตัวเอง ภาพและเนื้อหาจะทำให้ลูกน้อยคิดตามไปว่าในห้องน้ำกลางคืนมีอะไร รู้จักกับความมืด ความเงียบวังเวง สอนให้ลูกรู้ว่าการเข้าห้องน้ำกลางคืนไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และกล้าทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง

 

หนังสือทั้ง 9 ที่แนะนำนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ หนังสือนิทานเสริมพัฒนาการเด็ก อีกหลายร้อยหลายพันเล่มที่น่าสนใจนะคะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกหนังสือนิทานที่เหมาะสำหรับส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยตามช่วงวัยได้ตามความเหมาะสม และความชอบของลูกเลยค่ะ ขอให้มีช่วงเวลาคุณภาพของครอบครัวที่สามารถสร้างนักอ่านตัวน้อยได้อย่างมีความสุขนะคะ

 

ที่มา : www.childrenhospital.go.th , hellokhunmor.com , happymom.in.th , www.se-ed.com

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่ “นิทาน” ตัวช่วยมหัศจรรย์ที่ช่วยสร้างนิสัยที่ดีให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก

ลูกพูดช้าสุดกี่ปี วิธีง่ายๆ กระตุ้นให้ลูกพูด ทำยังไงให้ลูกพูดเร็ว

ลูกสมาธิสั้น แก้ไขอย่างไร ไม่ให้กระทบพัฒนาการและการเรียนรู้  

บทความโดย

จันทนา ชัยมี