4 เทคนิค แบ่งเวลาอ่านหนังสือ สำหรับวัยรุ่นวัยสอบ จำง่าย ถึงเวลาพิชิตคะแนน

4 เทคนิค แบ่งเวลาอ่านหนังสือ สำหรับวัยรุ่นวัยสอบ จำง่าย ถึงเวลาพิชิตคะแนน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แบ่งเวลาอ่านหนังสือ แบ่งแบบไหนดี ใกล้สอบแล้วต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่น ๆ วัยรุ่นบางคนอาจมีเวลาเตรียมตัวไม่มาก จะเป็นปัญหาแบบไหน เราก็มีเทคนิคการอ่านหนังสือก่อนสอบมาฝากกัน หากใครไม่รู้จะเริ่มแบบไหน การมีเทคนิคดี ๆ อาจดีกว่าการอ่านไปเรื่อย ๆ จะมีวิธีไหนบ้างมาดูกันเลย

 

เตรียมตัวก่อนลงมืออ่านหนังสือสอบ

ก่อนจะเริ่มลงมืออ่านหนังสือ อาจต้องใช้การปรับตัวก่อน เนื่องจากก่อนหน้านั้นช่วงวัยรุ่น อาจมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป และใช้เวลาไปกับการเรียนควบคู่กับการพักผ่อน พบปะกับเพื่อน แต่เมื่อถึงช่วงที่ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ เพื่อสร้างความได้เปรียบ และมีคะแนนสูงพอที่จะเข้ามหาวิทยาลัยที่คาดหวังไว้ได้ โดยช่วงแรกควรกำหนดวันที่จะเริ่มอ่านก่อน และต้องอ่านตามวันที่กำหนดจริง ๆ นอกจากนี้เพื่อการปรับตัวในช่วงแรก ควรใช้เทคนิคต่าง ๆ ร่วมกับวิชาที่ชอบก่อน เพื่อช่วยให้มีแรงจูงใจก่อนจะอ่านวิชาที่ตนไม่ชอบ

 

นอกจากนี้ยังควรเตรียมแบบฝึกหัดเก่า ๆ ไว้ก่อน เพื่อที่จะไม่ต้องใช้เวลาในการหาขณะอ่าน หรือช่วงใกล้สอบ เพราะในช่วงนั้นเวลาถือเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาก การทำแบบฝึกหัดอาจวางเป้าหมายไว้ให้ตนเองว่าถ้าได้คะแนนเท่าไหร่ถึงจะมีรางวัล เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำข้อสอบเก่า  หรือจะเป็นการตั้งรางวัลชีวิตหากทำคะแนนผลการสอบออกมาดี เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : เทคนิคไม่ลับท่องจำ “ตารางธาตุ” สำหรับเด็กมัธยมว้าวุ่นเคมี

 

วิดีโอจาก : Journal K

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

4 เทคนิคการแบ่งเวลาอ่านหนังสือ เพื่อคะแนนสอบที่ดียิ่งขึ้น

เทคนิคการอ่านหนังสือก่อนสอบ มีอยู่หลายเทคนิค โดยเราหยิบยกขึ้นมาทั้งหมด 4 เทคนิค คือ Pomodoro Technique การอ่านหนังสือเพื่อไม่ให้สมองทำงานหนัก, Japanese style เน้นวินัย และความเคร่งครัดแบบญี่ปุ่น, Student Rule การเตรียมตัวควบคู่กับการเรียน และ One Month Technique การอ่านหนังสือแบบเร่งรีบสำหรับคนเหลือเวลาน้อย

 

1.Pomodoro Technique

หรือที่หลายคนอาจรู้จักในชื่อ “เทคนิคมะเขือ” เป็นหลักการที่ให้ความสำคัญกับการอ่อนล้าของสมอง จากการทำงานหนัก เมื่อทำการอ่านหนังสือมากไปเป็นเวลานาน จะทำให้สมองเกิดอาการล้า และอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าได้ประโยชน์ เทคนิคนี้จึงแก้ปัญหาด้วยการแบ่งเวลาอ่านหนังสือ ควบคู่ไปกับเวลาพักผ่อนระยะสั้น ๆ เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย และเตรียมความพร้อมในการอ่านหนังสือในรอบถัดไป โดยจะแบ่งเวลาออกเป็น ดังนี้

 

  • เริ่มจากเวลาในการอ่านหนังสือ 25 นาที
  • เวลาพักผ่อนย่อย 5 นาที
  • อ่านหนังสือ 25 นาที และพักย่อย 3 ครั้ง
  • จากนั้นอ่านหนังสือต่อ 25 นาที
  • สุดท้ายพักใหญ่ 15-20 นาที

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เพียงเท่านี้ก็ถือว่าครบ 1 เซตแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถท่องจำได้ว่า “อ่านหนังสือ 25 – พักย่อย 5 – อ่านหนังสือ 15 – พักย่อย 5 – อ่านหนังสือ 25 – พักย่อย 5 – อ่านหนังสือ 25 – พักใหญ่ 15-20” และด้วยจำนวนเวลาในการอ่านหนังสือต่อ 1 รอบอาจไม่ได้มากอะไร วิธีนี้เด็กวัยรุ่นเตรียมสอบจึงควรอ่านอย่างตั้งใจ ไม่เล่นโทรศัพท์นอกจากในเวลาพักเท่านั้น

 

2.Japanese style

ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่อง “ความตั้งใจ” ไม่ว่าจะทำจะทำอะไรก็ตาม แน่นอนว่าสิ่งนี้ยังส่งต่อมาถึงพฤติกรรมการอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมสอบของเด็กญี่ปุ่น ซึ่งมีหลายเทคนิคที่เราอาจนำเอามาปรับใช้ ในการอ่านหนังสือเพื่อนำไปใช้สอบแบบจริงจัง โดยมีเทคนิค ดังนี้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • มีสมาธิจดจ่อกับการอ่านหนังสือ ไม่เล่นระหว่างการอ่าน
  • ก่อนเริ่มอ่านให้ศึกษาหมวดหมู่จากสารบัญก่อน เพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับเนื้อหา
  • เริ่มจากการอ่าน 15 นาที และค่อย ๆ เพิ่มจำนวนเวลาขึ้นตามความต้องการ แต่ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง
  • อ่านหนังสือในบทเรียนทั้งก่อน – หลังเรียน เพื่อให้เกิดคำถาม และรองรับเนื้อหาได้ดีขึ้น
  • พยายามตั้งคำถามกับสิ่งเล็กน้อย เพื่อให้เกิดการหาคำตอบจะช่วยให้เพิ่มความเข้าใจได้
  • หากต้องท่องจำ ให้หากระดาษมาปิดเนื้อหาบางส่วนไว้ขณะท่อง เพื่อให้เกิดการจดจำที่แม่นยำมากขึ้น
  • หาเทคนิคอื่น ๆ มาช่วยเสริมในเรื่องการอ่านหนังสือก่อนสอบ หรือใช้ Application ช่วย

 

เทคนิคการอ่านหนังสือเตรียมสอบแบบเด็กญี่ปุ่นนั้น นอกจากจะเน้นในเรื่องระเบียบวินัย และการฝึกฝนแล้ว ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคนิคให้ดียิ่งขึ้น หรือการนำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มาช่วยให้การจดจำมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในยุคดิจิทัลแบบนี้

 

 

3.Student Rule

หากวัยรุ่นคนไหนกำลังเตรียมตัวล่วงหน้าในช่วงเปิดเทอม สำหรับการอ่านหนังสือเพื่อนำไปสอบตามหลักสูตรต่าง ๆ สามารถยึดหลักการแบ่งเวลาควบคู่กับการเรียน ในช่วงปิดเทอม เพื่อให้มีประสิทธิภาพทั้งการเตรียมตัวสอบ และผลการเรียนที่ดียิ่งขึ้น โดยให้แบ่งเวลาในแต่ละวัน ดังนี้

 

วันเรียนจันทร์ – ศุกร์

  • 06:00 – 08:00 เตรียมตัวไปโรงเรียนตามปกติ
  • 08:00 – 16:00 ตั้งใจเรียนหนังสือ / ทำกิจกรรมของโรงเรียน
  • 16:00 – 18:00 กลับบ้าน / พักผ่อน / ทานข้าวเย็น
  • 18:00 – 20:00 ทำการบ้าน / ทำแบบฝึกหัดที่ได้รับมา
  • 20:00 – 21:00 พักผ่อนตามความต้องการ
  • 21:00 – 22:30 อ่านหนังสือสอบ / ทำแบบฝึกหัด

 

วันเสาร์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ช่วงเช้า : ทำการบ้าน / ทำรายงานให้เสร็จ
  • ช่วงบ่าย : เรียนพิเศษ / ทบทวนจากที่เรียน
  • ช่วงเย็น : พักผ่อนตามความต้องการ
  • ช่วงค่ำ :  อ่านหนังสือสอบ / ทำแบบฝึกหัด

 

วันอาทิตย์

  • ช่วงเช้า : ทบทวนบทเรียนที่ผ่านมา
  • ช่วงบ่าย : อ่านหนังสือสอบ / ฝึกทำข้อสอบเก่า
  • ช่วงเย็น : พักผ่อนตามความต้องการ
  • ช่วงค่ำ : อ่านหนังสือสอบ / ทำแบบฝึกหัด

 

สำหรับเด็กคนไหนที่ยังไม่ชินกับตารางเวลาชีวิตใหม่ อาจค่อย ๆ ปรับตัว เช่น ทำแค่จันทร์ / พุธ / ศุกร์ แล้วค่อยเพิ่มวันเข้าไป จนเกิดความชิน วิธีนี้ต้องพึ่งความมีวินัย และต้องท่องไว้ว่าเราทำเพื่ออนาคตของเราเอง

 

4.One Month Technique

ในช่วงเดือนสุดท้ายของการเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ หรือใครที่มีเวลาจำกัดสามารถอ่านได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะยังมีเทคนิคที่ช่วยให้สามารถเตรียมความพร้อมในเวลา 1 เดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องอาศัยความมุ่งมั่นพยายาม ไม่เล่น มีความตั้งใจจริง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในเวลาที่จำกัดนี้ โดยให้ยึดหลักเหล่านี้

 

  • อ่านทุกวันอย่างสม่ำเสมอแบ่งเวลาอ่านให้ได้วันละ 3-4 ชั่วโมง
  • แบ่งวัน หรือเวลาใน 1 วันเพื่อทำข้อสอบ / แบบฝึกหัดด้วย
  • พยายามหาคนช่วยติวให้กรณีเร่งด่วน หรือมีข้อสงสัย
  • ช่วงอาทิตย์แรกให้หาเครื่องมือช่วยในการจำเพิ่มเติม
  • ช่วงก่อนสอบจริงให้ทบทวนทุกอย่างอีกครั้ง
  • ถึงเวลาพักผ่อน ให้พักอย่างเต็มที่ และคอยให้กำลังใจตนเอง

 

ไม่ว่าจะเป็นการสอบอะไรสำหรับเด็ก ม.ปลาย การได้ แบ่งเวลาอ่านหนังสือ ให้มีประสิทธิภาพตามเทคนิคต่าง ๆ สามารถช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพอใจมากยิ่งขึ้น และเมื่อไหร่ที่กำลังท้อให้พักผ่อน และเฝ้าบอกตนเองว่าเราลำบากในตอนนี้ เพื่ออนาคตของตัวเราเอง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

50 คำศัพท์ภาษาไทย ที่คนไทยมักเขียนผิด และลูกควรเรียนรู้ไว้ก่อน

ฟรี ! คำศัพท์ผลไม้ 3 ภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เพื่อการเรียนรู้ที่รวดเร็วของลูกน้อย

ฟรี ! คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ป.1 เอาไว้ให้ลูกตัวน้อยท่องจำได้ทุกเวลา

 

ที่มาข้อมูล : edugentutor sanook tcaster admissionpremium

บทความโดย

Sutthilak Keawon