ลาออกจากงานเลี้ยงลูกอยู่บ้านดีไหม ?
ลาออกจากงาน เลี้ยงลูกอยู่บ้าน เป็นเรื่องที่ทำให้คุณแม่หลายท่าน ต่างก็คิดกันอยู่เสมอ สำหรับคุณแม่มือใหม่ ต่างก็หวงวันเวลาที่จะใช้กับลูกน้อยเต็มที่ จนวันลาคลอดที่ได้มา 90 วัน ดูเหมือนจะไม่เพียงพอเอาซะเลย เมื่อใกล้ถึงกำหนดครบกลับไปทำงาน ใจก็อยากอยู่กับลูก หากคุณแม่ยังสับสนว่าจะ ลาออกจากงาน แล้วอยู่บ้านเลี้ยงลูก หรือ จะกลับไปทำงาน แล้วจำเป็นต้องฝากลูกไว้กับญาติผู้ใหญ่ ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะต้องให้ลูกเข้าเนอร์สเซอรี่ ตั้งแต่ยังเล็ก นี่คือ เหตุผล ที่อาจทำให้คุณแม่ ตัดสินใจมาเป็นแม่ฟลูไทม์กันง่ายขึ้น
ลาออกจากงานเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ดีอย่างไร ?
#มีเวลาดูลูกได้อย่างเต็มที่
หายห่วงเรื่องที่จะฝากใครช่วยเลี้ยงลูก หรือ ต้องพาไปเนอสเซอรี่ ในช่วงเวลาที่จะต้องกลับไปทำงาน ซึ่งการเป็นฟลูไทม์ จะทำให้คุณแม่มีโอกาสดี ๆ ที่ได้เห็นพัฒนาการของลูกน้อยทุกช่วงเวลา ตั้งแต่แรกเกิดจนค่อย ๆ เติบโตผ่านไปแต่ละเดือนอย่างสมวัยในทุก ๆ ก้าว เพราะวัยเด็กมีแค่ครั้งเดียว นี่แหละสิ่งดี ๆ สำหรับแม่ที่เลี้ยงลูกเองจะได้เห็น
#ค่าใช้จ่ายน้อย
การตัดสินใจเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน จะทำให้คุณแม่ ประหยัดเรื่องค่าเดินทาง ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ค่าเลี้ยงดู ในกรณีที่ต้องฝากลูกไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือ ต้องจ้างพี่เลี้ยง ค่าเสื้อผ้า และ เครื่องแต่งตัว ยิ่งคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็จะประหยัดค่านม ซึ่งก็ช่วยประหยัดรายจ่ายไปได้อีก
#สามีกลับมาตายรัง
เพราะการมีลูกน้อย คือโซ่ทองคล้องใจ ที่เป็นแรงดึงดูดให้คุณพ่อที่เลิกงานแล้ว ตรงกลับบ้านเพื่อมาหาลูก และ เพื่อมาช่วยคุณแม่เลี้ยงลูกที่ต้องเหนื่อยมาทั้งวัน เจ้าตัวน้อย จึงกลายมาเป็นส่วนที่เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัว
#ตัดความรู้สึกผิดที่ไม่มีเวลาให้ลูก
การออกไปทำงานนอกบ้าน อาจทำให้มีเวลาอยู่กับลูกน้อยลง หรือ บางทีกลับมาถึงบ้านลูกก็หลับไปแล้ว ไม่มีเวลาได้เล่น ได้พูดคุยกับเจ้าตัวน้อย ตื่นมาอีกที คุณพ่อคุณแม่ ก็ต้องรีบออกไปทำงาน ไหนจะต้อง ทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบ งานบ้าน งานดูแลสามีที่ต้องทำ ทำให้รู้ว่าเวิร์กกิ้งมัมนั้น ต้องสตรองแค่ไหน แต่เมื่อผันตัวเองมาเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ปัญหาความวุ่นวายทั้งหมดนี้ ก็จะไม่ทำให้คุณแม่ปวดหัวอีกต่อไป นอกจากเหนื่อยกับการเลี้ยงดูลูกเท่านั้นแหละ
ลาออกจากงาน เลี้ยงลูกอยู่บ้าน มีข้อเสียอย่างไร
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลาออกเพื่อเลี้ยงลูกอยู่บ้าน หรือ กลับไปทำงานต่อนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่าง การได้เลี้ยงลูกอยู่บ้านเองก็ดี หรือ ทำงานไปพร้อมเลี้ยงลูกไปด้วยก็ดี อาจจะมีข้อที่แตกต่างกัน แต่เชื่อว่าคุณแม่ทุกคนนั้น ก็จะมีวิธีเลี้ยงลูกในแบบฉบับของตัวเอง ที่สร้างให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดี มีพัฒนาการที่ดีได้อย่างสมบูรณ์ไม่ต่างกันนะคะ
ลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ กับ theAsianparent Thailand ตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก มาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ว่าลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2 มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และ ลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิง และ เด็กชาย รวมถึง เตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด
ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ เพราะ theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่ และ เด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่ และ เด็ก โภชนาการแม่ และ เด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และ จิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้ และ มีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มา : www.kapook.com
บทความใกล้เคียงที่น่าสนใจ :
คุณแม่ขอแชร์ อยู่บ้านเลี้ยงลูกควรทำอะไรดี ให้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ
อย่าอิจฉากันเลย 11 ข้อดีที่คนเป็นแม่ฟลูไทม์อยากให้รู้
5 สิ่งที่คุณพ่อควรทำ “พ่อที่ดี” คุณก็เป็นได้ไม่ยาก