ทุกวันนี้หากจะพูดถึงโรคภัยไข้เจ็บ แต่ละโรคค่อนข้างเป็นอันตรายที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังเกิดจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ โรคเชื้อราที่ปอดทารก โรคนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนเป็นกังวลใจว่าเราควรรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไงดี หากเป็นแบบนั้นแล้วล่ะก็ เรามาทำความรู้จักกับ โรคเชื้อราที่ปอดทารก ไปพร้อมกันเลยดีกว่า
โรคเชื้อราในปอด คืออะไร?
เชื่อว่าใครหลายคนก็น่าจะคุ้นเคย หรือเคยได้ยินชื่อโรคนี้กันมาบ้างแล้ว ต้องบอกก่อนว่า “โรคเชื้อราในปอด” เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อย และเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน ซึ่งโรคนี้จะเกิดจากการที่เราสูดดมเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าไปผ่านระบบทางเดินหายใจไปยังปอด หากเมื่อไหร่ที่เริ่มมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเราไม่รีบทำการรักษา โรคนี้ก็อาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นแก่ชีวิตได้เหมือนกัน บอกเลยนะคะว่าไม่ควรนิ่งนอนใจมาก ๆ
รู้หรือไม่! โรคเชื้อราที่ปอดทารก เกิดขึ้นได้ยังไง?
คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำลังสงสัยอยู่แน่ ๆ ว่าทำไมลูกของเราถึงป่วยเป็นโรคนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ลูกของเราก็ค่อนข้างที่จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตามปกติ เอาเป็นว่าเรามาดูถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกของเราป่วยเป็นโรคนี้กันเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกป่วยกะทันหัน มีผื่น ตัวร้อนมาก เซื่องซึม ต้องทำอย่างไร
1. เกิดจากการสำลักน้ำลาย
สิ่งที่จะทำให้เด็ก ๆ กลายเป็นโรคเชื้อราที่ปอดได้นั้น อาจจะเกิดจากการที่ลูกของเราสำลักน้ำลาย หรือสารคัดหลั่งในระบบทางเดินอาหารได้ ซึ่งสิ่งนี้อาจจะทำให้เชื้อรา หรือเชื้อโรคที่สะสมอยู่ภายในระบบทางเดินทางหายใจบริเวณส่วนบนแพร่กระจายเข้าสู่ปอด จนทำให้ลูกของเราป่วยเป็นโรคนี้ได้
2. เกิดจากการรับละอองจากการไอ
หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สบาย หรือมีอาการไอ และจาม สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็ก ๆ เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคเชื้อราที่ปอดได้ เพราะในขณะที่เราไอหรือจามเชื้อโรคเหล่านี้ก็อาจจะแพร่กระจายมาพร้อมกับละอองได้เลย ดังนั้นควรต้องระวังเรื่องนี้กันด้วยนะคะ
3. เกิดจากการหายใจ
อย่างที่เรารู้กันดีค่ะว่า อากาศในทุกวันนี้ไม่ค่อยเป็นอากาศที่บริสุทธิ์สักเท่าไหร่ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่จะทำให้ลูกน้อยของเราป่วยเป็นโรคนี้ได้ เพราะเชื้อราหรือเชื้อโรคต่าง ๆ เหล่านั้นอาจจะปนเปื้อนมาพร้อมกับอากาศที่ลูกน้อยหายใจเข้าไปนั่นเองค่ะ
ลักษณะอาการโรคเชื้อราในปอดควรสังเกตยังไงดี?
หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังสังเกตอาการของลูกน้อยอยู่ว่า เราจะรู้ได้ยังไงว่าลูกของเรากำลังป่วยเป็นโรคเชื้อราในปอด บอกเลยนะคะว่า โรคนี้สังเกตได้ไม่ยากเลย เพราะฉะนั้นเรามาเช็กดูอาการที่เกิดขึ้นไปพร้อมกันเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีป้องกันโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่มากับฝน ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วย ต้องทำแบบนี้!
1. มีไข้
อย่างแรกที่เราจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเลยคือ ลูกจะมีอาการป่วยเป็นไข้ หรือตัวร้อนขึ้นมา หากเมื่อไหร่ที่คุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกของเรากำลังมีลักษณะอาการเหล่านี้อยู่ เราควรที่จะต้องดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิดมากขึ้นด้วยนะคะ
2. หายใจลำบาก
หากเมื่อไหร่ที่เราพบว่าลูกน้อยมีอาการหายใจที่ผิดปกติ หรือเขามีการหายใจที่เร็ว หรือแรงมากขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบ่งบอกเราว่ามีอาการที่ผิดปกติกับลูกน้อยของเราได้ เพราะฉะนั้นเราควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดนะคะ ไม่อย่างนั้นอาการที่เป็นอยู่ในตอนนี้อาจจะรุนแรงมากขึ้นได้
3. เจ็บหน้าอก
อาการเจ็บบริเวณหน้าอกก็ถือเป็นหนึ่งในอาการของโรคเชื้อราในปอดได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหากลูกน้อยของเราร้องไห้อยู่บ่อย ๆ ไม่ยอมนอน หรือพูดง่าย ๆ ว่าลูกมีลักษณะที่ผิดปกติเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจจะกำลังบอกเราว่าลูกน้อยรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกนั่นเอง เพราะฉะนั้นเราต้องพยายามสังเกตอาการของลูกให้ดีนะคะ
4. น้ำหนักลด
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตลูกน้อยได้ต่อมาเลยคือ ลูกของเราจะมีน้ำหนักที่ลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งหากเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าตัวเล็กมีน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่เราก็ให้ลูกกินอะไรตามปกติ สิ่งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในอาการที่กำลังบอกเราว่าลูกน้อยน่าจะกำลังป่วยเป็นโรคเชื้อราในปอดได้เหมือนกัน
วิธีรับมือกับโรคเชื้อราในปอดทำยังไงดี?
เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกน้อยของเราเริ่มมีอาการปอดขึ้นมา สิ่งนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนค่อนข้างเป็นกังวลว่าเราควรทำยังไงให้ลูกน้อยของเราหายจากการป่วยเป็นโรคนี้ได้เร็วที่สุด เอาเป็นว่าใครที่กำลังมองหาวิธีการรับมือและป้องกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้แล้วล่ะก็ เรามาดูไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกเป็นหอบหืด สังเกตอย่างไร ลูกมีอาการหอบ จะรู้ได้ไงว่าลูกป่วย?
1. ทำความสะอาดอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญที่เราอาจจะต้องดูเป็นอันกับต้น ๆ เลยนั่นคือเรื่องความสะอาด ซึ่งคุณแม่อาจจะต้องพยายามดูแลรักษาความสะอาดภายในบ้านอยู่เสมอ รวมถึงการทำความสะอาดผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า และเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น เพื่อที่สิ่งเหล่านี้จะได้ไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรคนั่นเอง
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอยู่ในสถานที่แออัด สิ่งนี้ก็อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกของเราป่วยเป็นโรคเชื้อราในปอดได้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องจัดบ้านให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก บ้านมีความปลอดโปร่ง ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ เพื่อลูกของเราจะได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่เลยนะคะ
3. ไม่ควรให้ลูกอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย
สิ่งที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกของเราป่วยเป็นโรคเชื้อราในปอดได้ดีอีกอย่างเลยคือ เราควรที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกของเราใกล้ชิดกับผู้ป่วย อย่างที่รู้กันดีว่าด้วยความที่เขาเป็นเด็ก เขาก็จะมีภูมิต้านทานในร่างกายค่อนข้างต่ำ หากเมื่อไหร่ที่ลูกของเราอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยมาก ๆ สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ลูกของเราป่วยขึ้นมาได้ง่ายเลยทีเดียว
4. ฉีดวัคซีนป้องกัน
เมื่อลูกของเราเริ่มโตขึ้นสักนิด หรือสามารถฉีดวัคซีนได้แล้ว เราก็อาจจะพาลูกน้อยของเราไปฉีดวัคซีนป้องกันนี้ไปด้วย เพราะการที่เราฉีดวัคซีนป้องกันไว้ก่อน สิ่งนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างส่งผลดีต่อลูกน้อยมาก ๆ พูดเลยว่าเป็นหนึ่งวิธีการป้องกันที่ดีมาก ๆ เลย
เคล็ดลับ! ทำยังไงให้ปอดแข็งแรง
หลังจากที่ลูกของเราป่วยเป็นโรคนี้แล้ว แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ก็คงไม่อยากให้ลูกของเราป่วยเป็นโรคอะไรอีกแน่นอน ซึ่งหากใครที่คิดแบบนี้แล้วล่ะก็ เรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะว่า เราควรมีวิธีการฝึกลูกยังไง เพื่อที่เขาจะได้เติบโตมาเป็นเด็กที่มีปอดแข็งแรง ซึ่งเคล็ดลับเหล่าที่เราได้นำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ในวันนี้ เราก็อาจจะต้องพยายามฝึกให้เหมาะสมกับวัยของลูกน้อยตามไปด้วย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยนะคะ
1. พาลูกออกกำลังกาย
หากเมื่อไหร่ที่ลูกของเราเริ่มโตขึ้น หรือสามารถวิ่งเล่นได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะลองพาลูกออกมาวิ่งเล่น หรือออกกำลังกายรอบ ๆ บ้านได้ เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ส่วนต่าง ๆ ในร่างกายแข็งแรงมากขึ้นแล้วนั้น ส่งนี้ก็ยังช่วยส่งเสริมทำให้ปอดของเราแข็งแรงขึ้นตามไปด้วยนะคะ
2. รักษาอย่างต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าลูกของเราจะหายจากการเป็นโรคนี้แล้ว แต่ในขณะเดียวกันคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะต้องพาเด็ก ๆ มาตรวจเช็กสุขภาพในเรื่องต่าง ๆ ตามไปด้วย ที่สำคัญควรพาลูกมารักษากับคุณหมอให้ต่อเนื่องมากที่สุด เพื่อที่ลูกน้อยจะได้มีสุขภาพปอดที่แข็งแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย
3. หลีกเลี่ยงมลพิษนอกบ้าน
แน่นอนว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างปฏิเสธได้ยาก เพราะฉะนั้นหากใครที่มีความจำเป็นที่ต้องออกนอกบ้านและมีความจำเป็นที่ต้องพาลูกไปด้วย เราก็อาจจะต้องให้ลูกน้อยสวมใส่แมสเพื่อเป็นการป้องกันมลพิษทางอากาศตามไปด้วย หรือสำหรับบางคนก็อาจจะเลือกพาลูกไปเที่ยวในสถานที่ที่อากาศปลอดโปร่ง และเต็มไปด้วยความร่มรื่นจะดีกว่าค่ะ
4. กินผักและผลไม้อยู่เสมอ
เชื่อหรือไม่คะว่าการที่เราให้ลูกน้อยกินผักและผลไม้อยู่เป็นประจำนั้น สิ่งนี้ก็จะเข้ามาช่วยลดอาการอักเสบในร่างกายได้ดีมาก ๆ เลย ซึ่งผลไม้ที่เราจะให้ลูกกินนั้น เราก็อาจจะเลือกเป็นกล้วย หรือมะเขือเทศได้เลยนะคะ บอกเลยว่าลูกของเราจะได้คุณค่าทางสารอาหารไปเต็ม ๆ เลยล่ะค่ะ
โรคเชื้อราในปอด หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นโรคทั่วไปที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราอาจจะต้องคอยดูแลใส่ใจสุขภาพลูกน้อยไม่ให้ปอดเป็นโรคนี้จะดีกว่า เพื่อที่เขาจะได้มีสุขภาพปอดที่แข็งแรง และไม่ได้มีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาด้วย เพราะฉะนั้นหากใครที่อยากให้ลูกของเราเติบโตเป็นเด็กที่แข็งแรง โดยที่ไม่ได้มีโรคภัยไข้เจ็บอะไรเลย สามารถเข้ามาอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับโรคนี้ เพื่อที่เราจะได้รู้จักวิธีการป้องกันก่อนที่ลูกจะป่วยเป็นโรคเชื้อราในปอดกันนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ปอดอักเสบในเด็ก อาการป่วยอันตราย สังเกตอย่างไรได้บ้าง ?
ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และโควิดในเด็ก ที่พ่อแม่ควรแยกให้ออก
ที่มา : Bangpakok3, Sikarin, Thonburi2hospita