ทั่วทุกพื้นที่ในจำนวน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร รวมถึงเมืองขนาดใหญ่ อย่าง เชียงใหม่ หรือ สมุทรปราการ ถูกจัดว่ามีค่ามลภาวะทางอากาศจาก ฝุ่น PM 2.5 สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่แล้วเกิดจากการเผาไหม้ของท่อไอเสียรถยนต์ ฝุ่นจากโครงการก่อสร้าง มลพิษจากการเผาขยะ หรือการเผาเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมโรงงาน เป็นต้น ด้วยขนาดของฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน นอกจากจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และสามารถสูดเอาฝุ่นเข้าไปยังระบบทางเดินหายใจและปอดได้โดยตรงแล้ว เจ้าฝุ่นไซส์จิ๋วพวกนี้ยังสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด และไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย
ภัยร้ายของฝุ่น PM 2.5 ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร
ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดเล็กนี้ เมื่อสูดเข้าไปในปริมาณมากต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะเกิดผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้โดยตรง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว และกลุ่มที่มีความอ่อนไหว เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ และผู้สูงอายุ ซึ่งภัยร้ายจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 มีผลกระทบต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
- ทางเดินหายใจและปอด การสูดหายใจเอาฝุ่นมลพิษขนาดเล็กเข้าไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดกำเริบ และอาจนำมาสู่ปัจจัยของการเกิดโรคมะเร็งปอดได้
- หัวใจ การสูดหายใจเอาฝุ่นละอองขนาดเล็กจำนวนมากเข้าไปอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการตกตะกอนภายในหลอดเลือด ส่งผลให้หัวใจวาย และหลอดเลือดสมองตีบ รวมทั้งยังมีผลโดยตรงต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ที่อาจร้ายแรงจนถึงขั้นหัวใจวายเฉียบพลัน
- สมอง เมื่อเกิดการสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดในสมอง รวมถึงหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัวและเกิดเส้นเลือดในสมองตีบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอัมพฤกษ์อัมพาต
นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และเด็ก ควรต้องระวังภัยร้ายที่มากับฝุ่น PM 2.5 เป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าคนปกติทั่วไป รวมถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ที่สูดหายใจเอาฝุ่นละอองเข้าไปเป็นจำนวนมาก จะส่งผลเสียโดยตรงต่อทารกในครรภ์ โดยมีการศึกษาค้นพบว่า มลพิษในอากาศจะส่งผลต่อการคลอดก่อนกำหนด เพิ่มความเสี่ยงของภาวะแท้ง และเพิ่มอัตราการตายของทารกในครรภ์ได้
ดังนั้น นอกจากการสวมหน้ากากอนามัยชนิดที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ภายนอกอาคารแล้ว การเลือกติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างดีเยี่ยม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะมอบอากาศบริสุทธิ์ให้สมาชิกในครอบครัวทุกคนสามารถสูดหายใจได้อย่างเต็มปอด และปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5
ขอแนะนำ Bwell เครื่องฟอกอากาศครบวงจร มอบอากาศบริสุทธิ์ให้ทุกคนในครอบครัว หมดกังวลจาก ฝุ่น PM 2.5
Bwell เครื่องฟอกอากาศแบบครบวงจรที่ถูกออกแบบโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการฟอกอากาศโดยเฉพาะ ด้วยการอ้างอิงเทคโนโลยีและมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เครื่องฟอกอากาศจาก Bwell มีความโดดเด่นในการฟอกอากาศที่ครบวงจรมากถึง 7 ขั้นตอน กรองฝุ่น ดูดกลิ่น ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อไวรัสได้สูงถึง 99% จึงไม่แปลกที่จะกลายเป็นเครื่องฟอกอากาศที่โรงพยาบาลและหน่วยงานชั้นนำเลือกใช้ และยังเป็นเครื่องฟอกอากาศที่แพทย์แนะนำอีกด้วย
เครื่องฟอกอากาศจาก Bwell พร้อมกำจัด ฝุ่น PM 2.5 ไวรัส RSV และ โควิด-19 อยู่หมัดถึง 3 ขั้นตอน
สิ่งที่น่ากลัวกับลูกน้อยไม่ได้มีแค่เพียงโควิด-19 หรือ PM2.5 แต่ยังมีเจ้าเชื้อ RSV ที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว อาการของโรคนั้นรุนแรงที่ติดต่อกันได้ผ่านทางอากาศและปัจจุบันยังไม่มียารักษา แต่สามารถป้องกันได้ด้วยเครื่องฟอกอากาศ Bwell ที่ไม่หยุดในการพัฒนาเพื่อส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดและอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับผู้ใช้งาน เพราะด้วยเทคโนโลยี Triple-Action Virus Killer สามารถกำจัดไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการทดสอบที่เชื่อถือได้ว่าปลอดภัยจริง ได้แก่
- Antibacteria/Virus Filter ผลการทดสอบจากสถาบัน MRIGlobal ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถกรองแบคทีเรียและเชื้อไวรัสโคโรนาได้สูงถึง 97%
- UVGI (Ultraviolet Germoicidal Irradiation) ผลการทดสอบจากสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้รังสีจากหลอด UV เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสโคโรนาในอากาศได้ถึง 99.9999%
- Titanium dioxide (TiO2) Coating เพิ่มประสิทธิภาพในการทำลายเชื้อไวรัสโคโรนา ด้วยระบบการทำงานร่วมกับรังสียูวีเพื่อให้เกิดปฏิกิริยา Photocatalytic Oxidation (PCO)
เครื่องฟอกอากาศ Bwell ใส่ใจในทุกการออกแบบ และเล็งเห็นถึงความแตกต่างด้านการใช้งานของผู้บริโภค จึงมีเครื่องฟอกอากาศให้เลือกหลากหลายรุ่น เพื่อตอบสนองการใช้งานได้ทั้งบุคคลทั่วไป หรือผู้ใช้งานที่ต้องการความอ่อนโยนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะทารก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้
ขอแนะนำเครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่นยอดนิยม 3 รุ่น ดังนี้
เครื่องฟอกอากาศ รุ่น CF-8000
สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Bwell รุ่น CF-8000 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานได้ทั้งในบ้าน คอนโดมิเนียม หรือแม้กระทั่งในรถยนต์ โดยมีความโดดเด่น คือ ขนาดที่กะทัดรัด และมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยระบบฟอกอากาศ 5 ขั้นตอน พร้อมแผ่นกรองอากาศสุดล้ำ HEPA ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็ก และแผ่น Prefilter ช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ พร้อมสายต่อ USB เพื่อต่อเข้ากับปลั๊กไฟบ้าน และแหล่งกำเนิดไฟบนรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย
เครื่องฟอกอากาศ รุ่น CF-8005
เครื่องฟอกอากาศ รุ่น CF-8005 เหมาะสำหรับใช้งานภายในห้องขนาด 10 – 20 ตารางเมตร ฟอกอากาศ 6 ขั้นตอน และออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการอากาศบริสุทธิ์อย่างแท้จริง เช่น ทารก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เพราะเป็นเครื่องฟอกอากาศที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อปอด มีแผ่นกรอง Activated Carbon Pre-filter สามารถดักจับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดใหญ่ แผ่นกรอง Antibacteria ดักจับแบคทีเรีย และแผ่นกรอง HEPA ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมทั้งมีระบบฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี Viirus Kill ก่อนที่จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมา
เครื่องฟอกอากาศ รุ่น CF-8428
ปิดท้ายด้วยเครื่องฟอกอากาศ รุ่น CF-8428 ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับห้องขนาด 20 – 40 ตารางเมตร มาพร้อมประสิทธิภาพการฟอกอากาศแบบ 7 ขั้นตอน สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น สารก่อภูมิแพ้ ขนสัตว์ และก๊าซพิษ สามารถฆ่าเชื้อไวรัสด้วยแสงยูวีก่อนที่จะทำการปล่อยอากาศที่บริสุทธิ์ออกไป และยังมี TiO2 ช่วยสลายเชื้อไวรัสอีกด้วย ซึ่งเป็นเครื่องฟอกอากาศยอดนิยมที่มีประสิทธิภาพ และความทันสมัยที่สามารถเชื่อมต่อ WIFI และสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน
และนี่คือหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในบ้านให้ปลอดภัยจากฝุ่นร้ายที่มาพร้อมอากาศหนาว ๆ การมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กในอากาศได้อย่างหมดจด และช่วยให้คลายกังวลจากไวรัสตัวร้ายที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ ให้ทุกคนสามารถพักผ่อนได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยจากภัยเงียบที่มองไม่เห็น
สำหรับแบรนด์ Bwell ได้ถือกำเนิดขึ้นจากการคิดค้นเครื่องฟอกอากาศที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อผู้ที่มีความอ่อนไหวโดยเฉพาะ เช่น ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ หรือเด็ก พร้อมฟอกอากาศได้อย่างครบวงจรทั้งกรองฝุ่น ดูดกลิ่น และฆ่าเชื้อไวรัส
เป็นเวลา 10 ปีแล้วที่แบรนด์ Bwell ได้พิสูจน์ตัวเองในการพัฒนาเครื่องฟอกอากาศเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ จนสามารถคว้ารางวัล Parents’ Choice Awards 2022 หมวด Air Purifier จากงานประกาศรางวัล TAP Awards 2022 มาครอบครองได้สำเร็จ ซึ่งเห็นได้ชัดแล้วว่า Bwell คือเครื่องฟอกอากาศที่มีนวัตกรรมอันทันสมัย และได้รับการไว้วางใจจากวงการแพทย์และผู้บริโภคยุคใหม่เลือกใช้มากที่สุด
สนใจผลิตภัณฑ์ของ Bwell สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือช้อปสินค้าออนไลน์ คลิกเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
กลับมาอีกครั้งอลังการกว่าเดิม กับ theAsianparent Awards 2022 งานประกาศรางวัล สุดยอดผลิตภัณฑ์ และบริการ สำหรับแม่และเด็ก ครั้งที่ 2 ประจำปี 2565
เผยโฉมสุดยอดแบรนด์สำหรับแม่และเด็ก และคุณแม่ Influencer ผู้ทรงอิทธิพลในสื่อโซเชียล ประจำปี 2565 ในเวทีประกาศรางวัล theAsianparent Awards 2022
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!