เตรียมลูกรักมุ่งสู่ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิต กันเถอะ!
เมื่อลูกน้อยได้เติมโตพร้อมที่จะออกไปเผชิญหน้าโลกภายนอกกันแล้ว ก็ต้องมีการ เตรียมลูกรักให้พร้อม เพื่อเพิ่มทักษะความรู้ คุณพ่อ คุณแม่มาเตรียมลูกรักมุ่งสู่ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
เพราะฉะนั้น คุณพ่อ คุณแม่มา เตรียมลูกรักมุ่งสู่ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิต กันเถอะ!
มารู้จักโรงเรียนสาธิต
เมื่อถึงเวลาที่ลูกรักต้องหาโรงเรียนในระดับประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตเป็นโรงเรียนอันดับต้น ๆ โรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านปรารถนาที่อยากจะให้บุตรหลานของตนได้เข้าไปเรียนเพราะเป็นที่ยอมรับกันในสังคมถึงมาตรฐานทางด้านวิชาการ
โรงเรียนสาธิต คือ โรงเรียนที่เป็นตัวอย่างหรือเป็นแปลงทดลอง สำหรับนิสิต-นักศึกษา ที่เรียนวิชาชีพครู โดยที่มีคณะครุศาสตร์หรือคณะศึกษาศาสตร์เป็นผู้ดูแลด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ปกครองให้ความเชื่อถือและยอมรับ ซึ่งในแต่ละปีโรงเรียนในเครือสาธิตจึงมียอดผู้เข้าสอบนับพันคน แม้ว่าโรงเรียนจะสามารถรองรับเด็กได้เพียงหลักร้อยเท่านั้น คุณพ่อ คุณแม่ มาเตรียมลูกรักมุ่งสู่ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิต กันเถอะ !
เตรียมความพร้อมลูกรักเข้า.1 โรงเรียนสาธิต
การเตรียมตัวลูกน้อยลงสู่สนามสอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเด็กก็คือเด็กอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้เสมอ เดี๋ยวหัวเราะหากพอใจ เดี๋ยวร้องไห้หากเกิดอารมณ์ไม่สู้ดี ด้วยเหตุนี้เราจะเตรียมตัวลูกและรับมือกับการเตรียมตัวลงสู่สนามสอบอย่างไร มีวิธีดี ๆ มาแนะนำค่ะ เมื่อลูกน้อยได้เติมโตพร้อมที่จะออกไปเผชิญหน้าโลกภายนอกกันแล้ว คุณพ่อ คุณแม่มาเตรียมลูกรักมุ่งสู่ประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิต กันเถอะ!
1.รู้จักสนามสอบ
หากมีโอกาสคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปเที่ยวชมโรงเรียนที่จะไปสอบสัก 1 ครั้ง หากเป็นวันที่มีการเรียนการสอนจะยิ่งดีมาก โดยขออนุญาตคุณครูพาลูกเดินชมโรงเรียนและอธิบายเป็นเหตุการณ์จำลองเกี่ยวกับวันสอบ คือ ลูกจะต้องมาเข้าแถวกับเพื่อนใหม่หลายคน คุณครูจะพาลูกและเพื่อนๆเดินขึ้นไปบนตึกเพื่อไปสอบ แล้วพ่อกับแม่จะนั่งรอลูกอยู่ตรงนี้ พอลูกสอบเสร็จคุณครูจะพาลูกมาส่งให้กับคุณพ่อคุณแม่ซึ่งจะนั่งรอลูกอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน จะทำให้ลูกของคุณทราบถึงเหตุการณ์คร่าวๆว่าจะมีลักษณะเช่นไร ทำให้ลูกคลายกังวลไปได้บ้าง การได้เดินชมโรงเรียนและบอกกับลูกว่าที่นี่ก็เป็นโรงเรียนของลูกอีกแห่งหนึ่งเช่นกันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีเพราะเด็กจะไม่รู้สึกกังวลหรือตื่นเต้นเพราะคิดว่าที่นี่ก็เป็นโรงเรียนของเขาอีกแห่งเหมือนกัน
2.ก่อนสอบ 1 สัปดาห์
ช่วงระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนสอบคุณพ่อคุณแม่ควรทบทวนทักษะเชาวน์ปัญญาต่าง ๆ ให้กับลูก สิ่งสำคัญคือ การทบทวนนั้นมิใช่การยัดเยียด แม้ว่าลูกอาจจะทำผิดไปบ้างก็ไม่ควรจะดุว่า แต่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงสาเหตุที่ลูกทำผิดเพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ลูก คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจว่า การสอบนั้นมิใช่ทักษะทั้งหมดที่เรียนมา ก่อนสอบ 1-2 วัน ควรให้ลูกได้พักหรือได้เล่นตามสบาย จะได้ไม่รู้สึกกังวลจนเกินไป และไม่ทำให้รู้สึกล้าเกินไปด้วย
3.ดูแลสุขภาพ
ในช่วงเวลาใกล้สอบเช่นนี้ ควรดูแลสุขภาพให้ดีและที่สำคัญไม่ควรพาลูกไปเที่ยวหรือเดินทางไกลๆเพราะหากเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาจะหายไม่ทันวันสอบ หากลูกอยากไปเที่ยวอาจเป็นการพูดในลักษณะจูงใจว่า เมื่อสอบเสร็จแล้วค่อยพาไปดีกว่า จะได้เป็นการพักผ่อนกันทั้งครอบครัวด้วย เพราะต้องตรากตรำกับการสอบกันมาเป็นเวลานาน
4.เทคนิคสำคัญ
คุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยกับลูกถึงบรรยากาศในห้องสอบว่า ให้ตั้งใจฟังคำสั่งของคุณครู ฟังคุณครูอ่านโจทย์ให้จบก่อนแล้วจึงกาคำตอบลงในกระดาษคำตอบที่ได้รับ ถ้าไม่ได้ยินโจทย์หรือได้ยินไม่ชัดเจนให้ ยกมือขึ้นถามคุณครูอีกครั้ง ถ้าเกิดดินสอหักหรือเกิดปัญหาใด ๆ ก็ตาม เช่น ปวดท้องหรือต้องการเข้าห้องน้ำก็ให้ยกมือบอกคุณครูทันที อย่ารอจนสอบเสร็จ ถ้าลูกเลือกคำตอบที่ดีที่สุดแล้วให้กาลงในกระดาษคำตอบ แต่ถ้าเลือกไม่ได้จริงๆว่าควรตอบเป็นข้อไหนก็ให้หลับตาจิ้มเลยลูก อย่าเว้นช่องว่างไว้เด็ดขาด ถึงอย่างไรก็ตามลูกทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นนะไม่ต้องกังวล เพราะลูกทำดีที่สุดแล้วและคุณพ่อกับคุณแม่ก็รักลูกเสมอ การพูดให้ลูกเห็นบรรยากาศหรือพูดให้ลูกรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทำให้ลูกเกิดความมั่นใจมากขึ้นและคลายความกังวลไปได้ โดยเฉพาะการให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกอยากได้ยินจากคุณมากที่สุด
5.วันสอบ
คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้รับประทานอาหารเช้าอย่างน้อย 30 นาทีก่อนสอบ ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม นม หรือขนมปัง เป็นต้นและพาเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนรายงานตัวเข้าสอบ คุณพ่อคุณแม่ควรพูดให้กำลังใจลูกว่า พ่อและแม่นั้นภูมิใจในตัวลูกและรักลูกมากพร้อมทั้งกอดให้กำลังใจ ขอให้ลูกทำให้ดีที่สุด ลูกทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นไม่ต้องกังวลหรือเครียดใดๆทั้งสิ้นเพราะลูกทำดีที่สุดแล้ว พ่อกับแม่จะคอยไปกำลังใจให้ลูก
6.อารมณ์แปรปรวน
ในวันสอบเด็กอาจมีความกังวล อารมณ์จะแปรปรวนได้ง่าย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรใจเย็น ค่อยๆพูดกับลูก ให้กำลังใจ กอดลูก ทำให้ลูกอารมณ์ดี คลายความกังวลและรู้สึกสบายใจเมื่อมาสอบ การให้กำลังใจเด็กในวันสอบเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรให้อย่างพอดีไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ที่สำคัญควรพาลูกมาตั้งแต่เนิ่นๆและเพื่อไม่ให้เร่งรีบจนเกินไปควรมาถึงก่อนอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพราะในวันนั้นจะมีคนจำนวนมากทั้งเด็กและผู้ปกครองและที่สำคัญจอดรถหายากมาก วันสอบคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกมา สอบเอง ส่วนญาติไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย หรือพี่ ป้า น้า อา ควรให้กำลังใจและส่งที่บ้านก็เพียงพอแล้ว เพราะหากมาส่งกันมาก ๆ เด็กอาจรู้สึกกดดันเพราะคิดว่าตนเองกำลังถูกคาดหวังมากเกินไป เพราะการมาให้กำลังใจมากเด็กอาจเกิดความกดดัน ความกังวล และเครียดได้
ข้อคิดสะกิดใจ
การสอบเข้าโรงเรียนสาธิตนับว่าเป็นสนามสอบที่ใหญ่มากสำหรับเด็กในระดับอนุบาล การสอบได้หรือไม่ได้นั้นไม่ใช่เครื่องชี้วัดว่าลูกของคุณเก่งหรือไม่เก่ง เพราะการสอบเป็นเพียงด่านแรกของลูกที่จะก้าวสู่โลกภายนอกและเป็นประสบการณ์หนึ่งของลูกเท่านั้น แม้ว่าลูกของคุณจะพลาดโอกาสสอบไม่ได้ก็ตาม ลูกของคุณก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน อย่าลืมว่าโรงเรียนสาธิตเป็นเพียงหนึ่งทางเลือกเท่านั้นสำหรับลูกของคุณ ยังมีโรงเรียนที่ดีและเหมาะสมกับลูกของคุณอีกมาก
อ้างอิงข้อมูลจาก
หนังสือเตรียมสอบเข้า ป.1 โรงเรียนสาธิต ผู้แต่ง มิ่งขวัญ ลิรุจประภากร
หนังสือเข้าป.1 เลือกโรงเรียน เลือกอนาคตของลูก อภิญญา พันธ์สุวรรณ
https://www.tataya.com/ab006.php
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แม่ออมแชร์ วิธีการเลือกโรงเรียนให้ลูก ต้องเลือกจากอะไรบ้าง? (School Hit)
จูงลูกวัย 3 ขวบเข้าอนุบาล เตรียมอย่างไรให้พร้อม
แชร์ประสบการณ์ ติวลูกเข้าสาธิตเอง จากแม่ฝน โรงเรียนสาธิตเกษตร (School Hit)
https://www.tataya.com/ab006.php
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แม่ออมแชร์ วิธีการเลือกโรงเรียนให้ลูก ต้องเลือกจากอะไรบ้าง? (School Hit)
จูงลูกวัย 3 ขวบเข้าอนุบาล เตรียมอย่างไรให้พร้อม
แชร์ประสบการณ์ ติวลูกเข้าสาธิตเอง จากแม่ฝน โรงเรียนสาธิตเกษตร (School Hit)