พรีไบโอติก แตกต่างจากโพรไบโอติกอย่างไร? มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

พรีไบโอติก ต่างจากโปรไบโอติก  อย่างไร  โปรไบโอติกและพรีไบโอติกเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างใหญ่ในด้านโภชนาการในปัจจุบัน แม้ว่าจะฟังดูคล้ายกัน แต่ทั้งสองก็มีบทบาทที่แตกต่างกันในด้านสุขภาพของคุณ โปรไบโอติกเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ และพรีไบโอติกเป็นอาหารของแบคทีเรียเหล่านี้ตามโครงงานอาหารเพื่อสุขภาพ  เราจะอธิบายสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ พรีไบโอติกต่างจากโปรไบโอติก อย่างไร

พรีไบโอติก คืออะไร

สำหรับใครที่กำลังหาคำตอบว่า พรีไบโอติก คืออะไร วันนี้เราได้มาตอบคำถามให้กับคุณแล้ว พรีไบโอติก (Prebiotic) คือเป็นจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่ไม่มีชีวิตที่สามารถพบได้ในหัวหอม กระเทียม อาร์ติโชก และพืชตระกูลถั่ว ทั้งนี้ พรีไบโอติกจะไม่สามารถย่อยสลายได้ที่ลำไส้เล็กและจะถูกลำเลียงต่อไปยังลำไส้ใหญ่ และจะถูกย่อยสลายโดยแบคทีเรียที่ชื่อว่าโพรไบโอติก ซึ่งการย่อยสลายในครั้งนี้จะส่งผลทำให้ เป็นการกระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของพรีไบโอติก มีอะไรบบ้าง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีข้อมูลถูกเปิดเผยว่า มีผู้ใหญ่เกือบ 4 ล้านคนใช้พรีไบโอติกและโพรไบโอติกเพื่อเป็นส่วนช่วยในเรื่องของสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยมากมายที่ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการทานพรีไบโอติกอย่างชัดเจน โดยพรีไบโอติกมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ดังต่อไปนี้

• ช่วยดูดซึมแคลเซียม
• ควบคุมระดับน้ำตาลในอาหารให้คงที่
• ช่วยืทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น ใช้เวลาในการย่อยอาหารน้อยลง และไม่ทำให้ท้องผูก
• ช่วยซ่อมแซมรักษาเซลล์ที่เสียหายในลำไส้ ทำให้ลำไส้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้บางวิจัยยังมีการบันทึกไว้เกี่ยวกับการนำพรีไบโอติกมาช่วยจัดการโรคเกี่ยวกับลำไส้ เช่น อาการลำไส้แปรปรวน และควบคุมโรคอ้วน รวมถึงการป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็งอีกด้วย

พรีไบโอติก ต่างจากโปรไบโอติก  คืออะไร?

ทั้งพรีไบโอติกและโปรไบโอติกมีความสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม โปรไบโอติกต่างจากพรีไบโอติก พวกเขามีบทบาทที่แตกต่างโปรไบโอติกเหล่านี้เป็นแบคทีเรียที่มีชีวิตที่พบในอาหารหรืออาหารเสริมบางชนิด พวกเขาสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายพรีไบโอติกสารเหล่านี้มาจากประเภทของคาร์โบไฮเดรต (ส่วนใหญ่เป็นไฟเบอร์) ที่มนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ตามโครงงานอาหารเพื่อสุขภาพ แบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในลำไส้ของคุณกินเส้นใยนี้ แบคทีเรียในลำไส้ซึ่งเรียกรวมกันว่าจุลินทรีย์ในลำไส้หรือจุลินทรีย์ในลำไส้ทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างในร่างกาย การรับประทานโพรไบโอติกและพรีไบโอติกในปริมาณที่สมดุลสามารถช่วยให้คุณมีสมดุลที่เหมาะสมของแบคทีเรียเหล่านี้เพื่อให้จุลินทรีย์ในลำไส้ของคุณแข็งแรง

ทำไมแบคทีเรียในลำไส้ถึงมีประโยชน์?

แบคทีเรียที่ดีในทางเดินอาหารช่วยปกป้องคุณจากแบคทีเรียและเชื้อราที่เป็นอันตราย แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จากการศึกษาในปี 2013 เกี่ยวกับแบคทีเรียในลำไส้ยืนยันว่าแบคทีเรียชนิดดีหลากหลายชนิดสามารถช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ปรับปรุงอาการของภาวะซึมเศร้า และช่วยจัดการกับโรคอ้วน รวมถึงประโยชน์อื่นๆ นอกจากนี้ แบคทีเรียในลำไส้บางชนิดยังสร้างวิตามินเคและกรดไขมันสายสั้น กรดไขมันสายสั้นเป็นแหล่งสารอาหารหลักของเซลล์ที่อยู่ในลำไส้ใหญ่ พวกมันส่งเสริมเกราะป้องกันลำไส้ที่แข็งแกร่งซึ่งช่วยป้องกันสารอันตราย ไวรัส และแบคทีเรีย ยังช่วยลดการอักเสบและอาจลดความเสี่ยงของมะเร็งได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : เพราะทุกช่วงเวลากับครอบครัวมีความหมาย ปกป้องคนที่คุณรัก ด้วย เทคนิคขจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย 99.9%

อาหารส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้อย่างไร?

อาหารที่คุณกินมีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ที่ดีและไม่ดี ตัวอย่างเช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันสูงส่งผลเสียต่อแบคทีเรียในลำไส้ และอาจส่งผลต่อการดื้อต่ออินซูลินและสภาวะอื่นๆ  เมื่อคุณให้อาหารแบคทีเรียที่ไม่ถูกต้องเป็นประจำ พวกมันจะสามารถเติบโตเร็วขึ้นและตั้งรกรากได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์มากมายที่จะป้องกันไม่ให้พวกมันทำเช่นนั้น  แบคทีเรียที่เป็นอันตรายและจุลินทรีย์ในลำไส้ที่มีสุขภาพไม่ดียังสัมพันธ์กับดัชนีมวลกาย (BMI) ที่สูงขึ้นตามข้อมูลโครงงานอาหารเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ อาหารที่ได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าแมลงอาจส่งผลเสียต่อแบคทีเรียในลำไส้ แม้ว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสิ่งนี้

การศึกษาโครงงานอาหารเพื่อสุขภาพ ยังแสดงให้เห็นว่ายาปฏิชีวนะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรในแบคทีเรียบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น เนื่องจากการใช้ยาปฏิชีวนะแพร่หลายมาก นักวิจัยจึงกำลังศึกษาว่าสิ่งนี้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในคนต่อไปในชีวิตได้อย่างไร

พรีไบโอติก สามารถพบในอาหารใดบ้าง

หลายคนอยากทราบว่าพรีไบโอติกนั้นสามารถหาได้จากไหนบ้าง หรือว่าจะต้องทานอาหารเสริมเพียงอย่างเดียว แต่ในความจริงแล้วพรีไบโอติกอยู่ในอาหารที่เราสามารถหาทานได้ตามท้องตลาด และใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด โดยมีดังต่อไปนี้

• แอปเปิ้ล
• อาร์ติโชก
• หน่อไม้ฝรั่ง
• กล้วย
• ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
• บาร์เล่ย์
• โกโก้
• เมล็ดแฟลกซ์
• กระเทียม
• ผักสีเขียว
• รากบุก
• ต้นหมอ
• พืชตระกูลถั่ว
• ข้าวโอ๊ต
• หัวหอม
• มะเขือเทศ
• ข้าวสาลี
• โยเกิร์ต

สิ่งหนึ่งที่แบคทีเรียในลำไส้ที่ดีของคุณทำกับเส้นใยพรีไบโอติกคือเปลี่ยนมันเป็นกรดไขมันสายสั้นที่เรียกว่าบิวทีเรต การศึกษาชี้ให้เห็นว่าการผลิตบิวทิเรตในลำไส้ใหญ่ไม่สามารถรักษาได้หากไม่ได้รับเส้นใยพรีไบโอติกอย่างเพียงพอ

บทความที่เกี่ยวข้อง : สูตรทำกิมจิหมักแสนง่าย อร่อยเหมือนออมม่าเกาหลีทำให้ทานเอง

ประโยชน์พรีไบโอติก มีอะไรบ้าง

• การอักเสบ : โปรไบโอติกช่วยลดการอักเสบของระบบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ
• อาการซึมเศร้าและความวิตกกังวล : สายพันธุ์โปรไบโอติก Lactobacillus helveticus และ Bifidobacterium longum ได้รับการแสดงเพื่อลดอาการวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าในผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าทางคลินิก
• คอเลสเตอรอลในเลือด : มีการแสดงโปรไบโอติกหลายชนิดเพื่อลดระดับคอเลสเตอรอลรวม แม้ว่าการวิจัยยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
• ความดันโลหิต : โปรไบโอติกอาจทำให้ความดันโลหิตลดลงเล็กน้อย
• การทำงานของภูมิคุ้มกัน : โปรไบโอติกหลายสายพันธุ์อาจช่วยเสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ซึ่งรวมถึงเชื้อที่ทำให้เกิดโรคไข้หวัด
• สุขภาพผิว : มีหลักฐานว่าโปรไบโอติกมีประโยชน์สำหรับสิว โรซาเซีย และกลาก รวมถึงโรคผิวหนังอื่นๆ
• ต่อต้านริ้วรอย : แม้ว่าการวิจัยจะมีข้อ จำกัด อย่างมาก แต่ก็มีหลักฐานว่าโปรไบโอติกมีศักยภาพในการยืดอายุขัยโดยการเพิ่มความสามารถของเซลล์ในการทำซ้ำตัวเอง
• ดูดซึมแร่ธาตุ แคลเซียม และแมกนีเซียม : จุลินทรีย์ในลำไส้จะผลิตกรดไขมัน ที่ช่วยดูซึมแร่ธาตุแคลเซียมและแมกนีเซียม
• ป้องกันการติดเชื้อทางเดินอาหาร : ป้องกันอาการท้องเสีย เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยยับยั้งจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค ลดโอกาสการติดเชื้อในลำไส้
• ดูดซับสารพิษในร่างกาย : ช่วยให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายง่าย ประบสมดุลระบบทางเดินอาหาร ป้ิงกันการเกิดมะเร็งลำไส้
• ควบคุมน้ำหนัก : ใยอาหารพรีไบโอติกจะถูกหมักด้วยจุลินทรย์ในลำไส้ เกิดเป็นกรดไขมัน ทำให้สมองรับรู้ว่าอิ่มและสบายท้อง

นี่เป็นเพียงผลประโยชน์ส่วนน้อยของโปรไบโอติก เนื่องจากการศึกษาโครงงานอาหารเพื่อสุขภาพต่อเนื่องบ่งชี้ถึงผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในวงกว้าง

ควรทานอาหารเสริมโปรไบโอติกหรือไม่?

อาหารเสริมโปรไบโอติกคือยาเม็ด ผง หรือของเหลวที่มีแบคทีเรียหรือยีสต์ที่มีประโยชน์อยู่ พวกเขาเป็นที่นิยมและหาง่าย แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะคุ้มค่าเงินของคุณ พวกมันไม่มีแบคทีเรียชนิดเดียวกันหรือมีความเข้มข้นเท่ากัน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์มากมายในตลาดที่อ้างสิทธิ์โดยไม่มีหลักฐานแสดงประสิทธิภาพ

มักจะไม่ได้มาพร้อมกับแหล่งอาหารที่มีเส้นใยสำหรับแบคทีเรียที่จะกินซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อประสิทธิภาพของพวกเขาหากมีคนไม่กินอาหารเหล่านั้นด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรไบโอติกบางชนิดออกแบบมาเพื่อขนส่งแบคทีเรียไปจนถึงลำไส้ใหญ่เพื่อให้เกิดผลดีขึ้น ในขณะที่อาหารเสริมอื่นๆ อาจไม่ผ่านกรดในกระเพาะของคุณ มีบางคนที่ไม่ควรใช้โปรไบโอติก หรืออาจพบอาการแย่ลงหากพวกเขาทำ เช่น คนที่มีแบคทีเรียในลำไส้เล็กเจริญเกิน (SIBO) หรือผู้ที่ไวต่อส่วนผสมในอาหารเสริม

อย่างไรก็ตาม โครงงานอาหารเพื่อสุขภาพให้ข้อมูลว่าสายพันธุ์โปรไบโอติกที่ถูกต้องอาจมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับบางคน ขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์ สูตรผลิตภัณฑ์ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการเก็บรักษา เช่นเดียวกับอาหารเสริมทั้งหมด คุณอาจต้องการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีความรู้เกี่ยวกับโปรไบโอติก การรักษาแบคทีเรียในลำไส้ให้สมดุลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพหลายๆ ด้าน ในการทำเช่นนี้ ให้กินทั้งอาหารพรีไบโอติกและโปรไบโอติก เพราะจะช่วยส่งเสริมความสมดุลที่เหมาะสมที่สุดระหว่างแบคทีเรียในลำไส้ที่ดีและไม่ดี พูดคุยกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เป็นไปได้ที่จะลงน้ำหรือมีผลข้างเคียง

เพื่อดูว่าคุณสามารถได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมหรือไม่ ให้ดูรายการแนวทางสากลขององค์กรทางเดินอาหารโลกของเงื่อนไขตามหลักฐานที่โปรไบโอติกอาจช่วยได้ รวมถึงคำแนะนำ อย่าลืมอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างละเอียดและหารือเกี่ยวกับคำถามและคำแนะนำกับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

การเดินทางไม่สะดุดเพราะมี “โปรไบโอติก ยีสต์” ตัวช่วยเรื่องท้องเสีย

โปรไบโอติก คืออะไร คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นอย่างง่ายในการทานโปรไบโอติก 

สุขภาพของลูกน้อย ดีได้ด้วยลำไส้ที่แข็งแรง พรีไบโอติกช่วยได้

ที่มา : 1