ร้อยละ ไม่ใช่เรื่องที่เจอเพียงในบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นชุดตัวเลขที่เจอในชีวิตประจำวันแทบทุกวันอีกด้วย หากน้อง ๆ หนู ๆ วัยเรียนสามารถฝึกคิดจากสูตรคำนวณเปอร์เซ็นต์ในชีวิตประจำวันได้จนชิน จะส่งผลดีต่อการทำโจทย์เลขในชั้นเรียนอย่างแน่นอน
ร้อยละ คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง ?
อัตราร้อยละ หรือ เปอร์เซ็นต์ (percentage/percent) มีสัญลักษณ์แทนค่า คือ “%” จำนวนร้อยละ เป็นจำนวนที่แสดงค่าตัวเลขที่ถูกนำไปเทียบกับจำนวน 100 หรือมีส่วนเป็น 100 เสมอ เช่น 10 % หมายถึง 10 ส่วนของ 100 การคิดหาเปอร์เซ็นต์เป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมาก โดยเฉพาะการซื้อ – ขายสินค้าตามร้าน หรือห้างต่าง ๆ ที่มักจะแสดงการลดราคาเป็น % เสมอนอกจากจะเป็นการซื้อ – ขายสินค้าแล้ว การคิดเปอร์เซ็นต์ยังถูกนำมาใช้ในแง่ของเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เช่น การคิดหากำไร – ขาดทุน
รวมถึงการคำนวณค่าสถิติต่าง ๆ จากการเก็บข้อมูล หากมีจำนวนตัวเลขเต็มมากเกินไปจะทำให้อ่านได้ยาก หากแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์อาจทำให้มองออกได้ง่ายกว่า ตัวอย่างเช่น 100,000 คน ชอบกินไก่ 20,000 คน ชอบกินหมู 50,000 คน และชอบกินเนื้อวัว 30,000 คน อาจเข้าใจง่ายกว่าเมื่อบอกว่า จากคน 100,000 คน 20 % ชอบกินไก่ 50 % ชอบกินหมู และ 30 % ชอบกินเนื้อวัว เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทุกวันนี้ทำไมเด็ก ๆ ต้อง “ท่องสูตรคูณ” ในยุคที่มีเครื่องคิดเลขล้ำสมัย ?
การเขียนจำนวนร้อยละมีอยู่หลายแบบ
การเขียนจำนวนร้อยละในปัจจุบันนิยมใช้เครื่องหมาย % แต่ยังมีสัญลักษณ์อื่นอีก ที่ใช้ในทางคณิตศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่นหากจะเขียน 20 % ยังสามารถเขียนแบบอื่น เช่น
- 2 : 10 = 2 x 10 : 10 x 10 = 20 : 100 = 20 %
- 5 : 10 = 5 x 10 : 10 x 10 = 50 : 100 = 50 %
ซึ่งการแสดงเปอร์เซ็นต์นั้นจะเป็นอัตราส่วนเต็มเลข 100 เพื่อคำนวณได้ง่ายต่อความเข้าใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวเลขที่คำนวณจะมีค่าจริงเป็นจำนวนเต็มเลข 100 เท่านั้น ตัวเลขจริงที่หาคำตอบอาจเป็นเลขที่มากกว่า 100 เช่น เมื่อกล่าวถึง 50 % เราต้องดูจำนวนที่ตั้งต้นด้วยว่าเท่าไหร่ เช่น ถ้า 50 % ของ 100 จะเป็น 50 แต่ถ้าเป็น 50 % ของ 1,000 จะกลายเป็น 500 นั่นเอง
วิดีโอจาก : NockAcademy
3 สูตรคำนวณร้อยละที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
การคำนวณด้วยร้อยละในชีวิตประจำวันประกอบไปด้วยการหาส่วนลดทั้งเป็นเปอร์เซ็นต์ และเป็นบาท หากสามารถทำความเข้าใจ 3 สูตรนี้ได้ น้อง ๆ วัยเรียนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อหาคำตอบกับโจทย์คณิตศาสตร์ ภายในห้องเรียนได้เช่นกัน โดยเราจะมีตัวอย่าง และโจทย์ให้ลองฝึกทำสูตรละ 1 ข้อ พร้อมเฉลยด้านล่างบทความ
1.หาว่าสินค้าชิ้นนี้ลดตามป้ายบอกแล้วเหลือราคาเท่าไหร่ที่ต้องจ่าย
วิธีคิด : ราคาสินค้าเต็ม x 100 – จำนวนที่สินค้าลด / 100 = ราคาที่ต้องจ่ายจริง
ตัวอย่างเช่น
เสื้อขนแกะราคา 7,500 บาท ลดราคา 30 % ต้องจ่ายเท่าไหร่ ?
วิธีคิด : 7,500 x 100 – 30 / 100 จะได้ 7500 x 70 / 100 = 5,250
คำตอบ : เท่ากับว่าจะต้องจ่ายเงินค่าเสื้อขนแกะในราคา 5,250 บาท
ลองทำโจทย์ : โทรศัพท์ราคา 20,000 บาท ลดราคา 45 % จะต้องจ่ายราคาจริงเท่าไหร่ ?
2.การหาว่าสินค้าชิ้นนี้ลดไปกี่บาท จากที่ป้ายบอก
วิธีคิด : ราคาเต็ม x จำนวนที่ลด / 100 = ราคาที่ลด
ตัวอย่างเช่น
ป้ายลดราคาตุ๊กตาหมี 60 % จากราคาเต็ม 600 บาท ตุ๊กตาลดราคาไปเท่าไหร่ ?
วิธีคิด : 600 x 60 / 100 = 360
คำตอบ : เท่ากับว่าตุ๊กตาหมีลดราคาไป 360 บาท
ลองทำโจทย์ : ปากการุ่นพิเศษลดราคา 10 % จากราคา 200 บาท ปากการุ่นพิเศษลดราคาไปกี่บาท ?
3.การหาว่าสินค้าลดไปกี่เปอร์เซ็นต์ (กรณีสินค้าแจ้งลดราคาเป็นบาท)
วิธีคิด : ราคาที่ลดไป / ราคาเต็ม x 100 = จำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ลด
ตัวอย่างเช่น
ร้านลดราคารีโมททีวี 30 บาท จากราคา 150 บาท
วิธีคิด : 30 / 150 x 100 = 20
คำตอบ : ร้านลดราคารีโมททีวีไป 20 %
ลองทำโจทย์ : ร้านลดราคาเตียงนอน 1500 บาท จากราคา 9500 บาท ร้านลดราคาไปกี่เปอร์เซ็นต์ ?
เฉลยโจทย์
1.โทรศัพท์ราคา 20,000 บาท ลดราคา 45 % จะต้องจ่ายราคาจริงเท่าไหร่ ?
วิธีคิด : 20000 x 100 – 45 / 100 จะได้ 20000 x 55 / 100 = 11,000 บาท
คำตอบ : ต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ 11,000 บาท
2.ปากการุ่นพิเศษลดราคา 10 % จากราคา 200 บาท ปากการุ่นพิเศษลดราคาไปกี่บาท ?
วิธีคิด : 200 x 10 / 100 = 20
คำตอบ : เท่ากับว่าปากการุ่นพิเศษลดราคาไป 20 บาท
3.ร้านลดราคาเตียงนอน 1500 บาท จากราคา 9500 บาท ร้านลดราคาไปกี่เปอร์เซ็นต์ ?
วิธีคิด : 1500 / 9500 x 100 = 15.7 %
คำตอบ : เท่ากับว่าเตียงนอนลดราคาไป 15.7 %
การคิดร้อยละบ่อย ๆ จากการฝึกทำโจทย์ผ่านแบบฝึกหัดต่าง ๆ จะช่วยให้มีความคุ้นชินกับการคิดคำนวณมากขึ้น จนไม่จำเป็นต้องท่องจำสูตร รับรองว่าได้ประโยชน์แน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
4 เทคนิค แบ่งเวลาอ่านหนังสือ สำหรับวัยรุ่นวัยสอบ จำง่าย ถึงเวลาพิชิตคะแนน
เทคนิคการจำ “กริยา 3 ช่อง” พื้นฐานภาษาอังกฤษที่สำคัญสำหรับเด็กประถม
ห่วงโซ่อาหาร คืออะไร สำคัญกับระบบนิเวศแค่ไหน ความรู้เสริมสำหรับหนูน้อย
ที่มาข้อมูล : nockacademy , brandinside