การเป็นพ่อแม่นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย เป็นธรรมดาที่บางครั้งก็อาจมีวิธีการเลี้ยงดูที่ส่งผลต่อความสุขของลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ บทความนี้จะนำเสนอ 10 รูปแบบของพ่อแม่ที่พบบ่อย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของลูก พ่อแม่ที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข
สำรวจตัวเองด่วน! ลูกไม่มีความสุข เพราะพ่อแม่ 10 แบบนี้ ใช่คุณหรือเปล่า?
-
พ่อแม่ที่ควบคุมหรือใช้อำนาจ
พ่อแม่แบบนี้ มักมีกฎระเบียบที่เข้มงวด คาดหวังให้ลูกเชื่อฟังโดยไม่ต้องตั้งคำถาม ตัดสินใจแทนลูกโดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นของลูก ลงโทษลูกอย่างรุนแรงเมื่อลูกทำผิด
ลักษณะของพ่อแม่ที่ควบคุมหรือใช้อำนาจกับลูก
- ชอบสั่งการและกำหนดกฎเกณฑ์ มักมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดสำหรับลูกๆ และคาดหวังให้ลูกๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นหรือความต้องการของลูก เช่น กำหนดเวลาเข้านอน การแต่งกาย กิจกรรมต่างๆ ของลูกอย่างเคร่งครัด
- ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็นหรือความรู้สึกของลูกๆ ตัดสินใจแทนลูกโดยไม่ปรึกษา เช่น ห้ามลูกทำกิจกรรมบางอย่าง ออกไปกับเพื่อน ไปเที่ยว
- ขาดความไว้วางใจ มักไม่ไว้ใจลูกๆ ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด จำกัดอิสระของลูก เช่น ตรวจสอบโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ติดตามความเคลื่อนไหวของลูก
- ใช้อารมณ์ เช่น การตะโกน ด่าทอ ข่มขู่ ลงโทษลูก เพื่อควบคุมพฤติกรรมของลูก
- มักเปรียบเทียบ เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกด้อยค่า
- คาดหวังสูง กดดันให้ลูกเรียนเก่ง กดดันให้ลูกประสบความสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบควบคุมจะรู้สึกขาดความมั่นใจ กลัวการแสดงออก มีปัญหาในการตัดสินใจ และมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อแม่
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกอาจรู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม ลูกไม่มีความสุข กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ ลูกอาจมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีปัญหาทางพัฒนาการ ลูกอาจมีปัญหาการเรียนรู้ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา หรือทักษะทางสังคม
- ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง ลูกอาจติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ รับฟังความคิดเห็น ความรู้สึกของลูก พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล
- ตั้งกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม กำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวัย และอธิบายให้ลูกเข้าใจ
- ให้ความไว้วางใจ ไว้ใจลูก ให้ลูกมีอิสระ รับผิดชอบต่อตัวเอง
- ใช้วิธีการเชิงบวก กระตุ้น ชมเชย ให้รางวัล แทนการลงโทษ
- เลี้ยงลูกด้วยความรัก แสดงความรัก ความอบอุ่น ให้ลูกรู้สึกปลอดภัย
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดู หรือจิตแพทย์ หากมีปัญหาในการเลี้ยงลูก
-
พ่อแม่ที่ตามใจ
พ่อแม่ที่อนุญาตให้ลูกทำทุกอย่างที่ต้องการ ไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูก ไม่เคยตั้งกฎระเบียบหรือคาดหวังอะไรจากลูก ไม่เคยลงโทษลูกเมื่อลูกทำผิด
ลักษณะของพ่อแม่ที่ตามใจลูก
- ไม่ค่อยตั้งกฎเกณฑ์ มักไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับลูก ปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
- ไม่ค่อยลงโทษ แม้ว่าลูกจะทำผิด ไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูก ไม่ยอมให้ใครมาว่าลูก แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
- ตามใจลูก ซื้อของขวัญให้ลูกบ่อยๆ โดยไม่ต้องมีเหตุผล ให้เงินลูกเยอะๆ โดยไม่ต้องทำงานอะไร
- ปกป้องลูก ทำทุกอย่างแทนลูก เช่น แต่งตัว อาบน้ำ กินข้าว แก้ปัญหาให้ลูก โดยไม่สอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
- ขาดความรับผิดชอบ ไม่ดูแลเอาใจใส่ลูก ปล่อยให้ลูกดูแลตัวเอง
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบตามใจจะขาดการควบคุมตนเอง ไร้ความรับผิดชอบ ไม่สามารถอดทนรอคอยอะไรได้ มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสังคม
- ลูกเอาแต่ใจ ไม่รู้จักพอ ไม่เคารพผู้อื่น
- ลูกไม่มีวินัย ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่
- ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
- ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวัย และอธิบายให้ลูกเข้าใจ
- ลงโทษอย่างเหมาะสม เมื่อลูกทำผิด
- สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ และสิ่งของของตัวเอง
- ส่งเสริมให้ลูกมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้จักตัดสินใจด้วยตัวเอง
- ใช้เวลากับลูก ใช้เวลากับลูก พูดคุย เล่นกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
-
พ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย
พ่อแม่แบบนี้มักไม่ค่อยใส่ใจลูก ไม่ค่อยใช้เวลากับลูก ไม่ค่อยมีการพูดคุยหรือเล่นกับลูก ไม่ค่อยรับรู้ถึงความต้องการของลูก
ลักษณะของพ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย
- ไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ มักไม่สนใจว่าลูกทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร มักทิ้งลูกไว้ตามลำพัง โดยไม่มีใครดูแล
- ไม่ตอบสนองความต้องการของลูก ทั้งความต้องการทางร่างกาย และความต้องการทางจิตใจ เช่น ไม่ให้อาหารลูก ปล่อยให้ลูกหิว
- ไม่ค่อยสอนลูก ไม่สอนให้ลูกเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ส่งลูกไปโรงเรียน ปล่อยให้ลูกไม่ได้เรียนหนังสือ
- ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ไม่เล่นกับลูก ไม่พูดคุยกับลูก ไม่พาลูกไปพบแพทย์ เมื่อลูกป่วย
- ไม่ค่อยควบคุมดูแล ปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ เช่น ไม่ให้เสื้อผ้าลูกใส่ ปล่อยให้ลูกเปลือย หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย จะรู้สึกเหงา รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกไร้ค่า ลูกไม่มีความสุข และมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยง
- ลูกขาดการพัฒนา ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคม
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
- ลูกมีปัญหาทางกฎหมาย เช่น ถูกจับกุม หรือกระทำผิดกฎหมาย
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ให้ความรู้แก่พ่อแม่ เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ความสำคัญของการดูแลเอาใจใส่ลูก และผลกระทบของการปล่อยปละละเลย
- ให้การสนับสนุนแก่ครอบครัว ที่ประสบปัญหาในการเลี้ยงดูลูก เช่น บริการเลี้ยงเด็ก เงินช่วยเหลือ หรือคำปรึกษา
- ดำเนินการตามกฎหมาย ในกรณีที่พบว่ามีการปล่อยปละละเลยเด็ก จนส่งผลเสียต่อเด็ก
-
พ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น
พ่อแม่แบบนี้มักเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง เพื่อน หรือเด็กคนอื่นๆ มักชี้ให้เห็นจุดด้อยของลูกอยู่เสมอ ไม่เคยชมเชยหรือให้กำลังใจลูก คาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่น
ลักษณะของพ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น
- มักพูดเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง เพื่อน หรือเด็กคนอื่นๆ เช่น พูดว่า “ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนพี่”
- มักยกตัวอย่างเด็กเก่ง เด็กดี มาเปรียบเทียบกับลูก เช่น พูดว่า “เพื่อนหนูได้ที่หนึ่งแล้ว หนูได้แค่นี้เองเหรอ”
- มักเน้นย้ำจุดด้อยของลูก เช่น พูดว่า “หนูดูสิ เด็กคนนั้นเขาตั้งใจเรียนแค่ไหน หนูไม่ตั้งใจเลย”
- มักคาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนผู้อื่น เช่น พูดว่า “ถ้าหนูเก่งเหมือนลูกเพื่อนแม่ แม่จะดีใจมาก”
- มักไม่ชื่นชมความพยายามของลูก เช่น พูดว่า “หนูทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง”
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกพ่อแม่เปรียบเทียบมักรู้สึกด้อยค่า ขาดความมั่นใจ มีปัญหาในการยอมรับตัวเอง มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อแม่
- ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- เลิกเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น หันมาจดจ่อกับพัฒนาการของลูก ชื่นชมความพยายามของลูก
- พูดคุยให้กำลังใจลูก บอกลูกว่ารักลูก ยอมรับในตัวลูก
- เน้นย้ำจุดเด่นของลูก ชื่นชมความสามารถของลูก
- ตั้งความคาดหวังที่เหมาะสม ไม่กดดันลูกมากเกินไป
- ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
-
พ่อแม่ที่กดดันลูก
พ่อแม่แบบนี้มีคาดหวังจากลูกสูง มุ่งมั่นให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต กดดันให้ลูกเรียนเก่ง ทำกิจกรรมต่างๆ หรือประพฤติตัวดี ไม่พอใจเมื่อลูกไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ลักษณะของพ่อแม่ที่กดดันลูก
- คาดหวังสูง ต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ เช่น บังคับให้ลูกเรียนพิเศษ เรียนหนัก ติวเข้ม
- ไม่พอใจกับผลงานของลูก มักตำหนิ ติเตียน หรือลงโทษลูก เช่น ตรวจสอบการบ้านของลูก ติเตียน แก้ไข งานของลูก
- เน้นย้ำจุดด้อยของลูก ไม่ค่อยชื่นชมความพยายามของลูก เช่น เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น พูดว่าทำไมไม่เก่งเหมือนคนอื่น
- ควบคุมชีวิตลูก ตัดสินใจแทนลูก ไม่ให้ลูกมีอิสระ เช่น กำหนดเป้าหมายให้ลูก คาดหวังให้ลูกต้องได้คะแนนดี สอบเข้าโรงเรียนดัง
- ใช้อารมณ์ ตะโกน ด่าทอ ข่มขู่ ลูก ไม่ให้ลูกเล่น บอกว่าเสียเวลา ต้องเรียนหนังสือ
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกพ่อแม่กดดันจะรู้สึกเครียด รู้สึกกดดัน ลูกไม่มีความสุข มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาในการตัดสินใจ
- ลูกมีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ
- ลูกมีปัญหาทางสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ
- ลูกมีปัญหาทางพฤติกรรม เช่น เกเร หนีเรียน ติดสารเสพติด
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกฆ่าตัวตาย ในกรณีร้ายแรง ลูกอาจฆ่าตัวตาย
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ปรับเปลี่ยนความคิด ลดความคาดหวัง มองลูกในแง่ดี ยอมรับในตัวลูก
- พูดคุยกับลูก รับฟังความรู้สึก ความคิดเห็น ของลูก
- สนับสนุนลูก ชื่นชมความพยายาม ให้กำลังใจ ลูก
- ให้ลูกมีอิสระ ตัดสินใจด้วยตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์
- ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
-
พ่อแม่ที่บ่นหรือตำหนิลูก
พ่อแม่แบบนี้มักบ่นหรือตำหนิลูกอยู่เสมอ มองเห็นแต่ข้อเสียของลูก ไม่เคยชมเชยหรือให้กำลังใจลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ
ลักษณะของพ่อแม่ที่บ่นหรือตำหนิลูก
- มักพูดบ่น ตำหนิ ติเตียน ลูกอยู่เสมอ เช่น พูดว่า “ทำไมไม่ทำการบ้านให้เสร็จ”
- มักมองข้ามจุดดีของลูก เน้นย้ำแต่จุดด้อย เช่น พูดว่า “ทำไมได้คะแนนแค่นี้”
- มักเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น เช่น พูดว่า “ทำไมไม่เก่งเหมือนเพื่อน”
- มักไม่ค่อยชื่นชมความพยายามของลูก เช่น พูดว่า “ไม่เคยทำอะไรให้ดีสักอย่าง”
- มักใช้อารมณ์ ตะโกน ด่าทอ ลูก เช่น พูดว่า “ดูสิเพื่อนเขาทำได้ ทำไมหนูทำไม่ได้”
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกต่อแม่บ่นหรือตำหนิเป็นประจำ จะรู้สึกด้อยค่า ขาดความมั่นใจ มีปัญหาในการยอมรับตัวเอง มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น
- ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร พูดคุยกับลูกด้วยความใจเย็น ใช้วาจาสุภาพ อธิบายให้ลูกเข้าใจ
- พูดเน้นจุดดีของลูก ชื่นชมความพยายาม ให้กำลังใจ ลูก
- เลิกเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น ทุกคนมีความแตกต่างกัน
- รับฟังความรู้สึกของลูก เข้าใจปัญหาของลูก
- ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
-
พ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก
พ่อแม่แบบนี้มักทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ใช้คำพูดที่รุนแรงต่อกัน ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย
ลักษณะของพ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก
- มักทะเลาะกันบ่อยครั้ง เสียงดัง เช่น ตะโกนใส่กัน
- มักใช้คำพูดรุนแรง ด่าทอ หรือประชดประชันกัน เช่น ด่าทอด้วยคำหยาบคาย
- มักทำร้ายร่างกายกัน ต่อหน้าลูก เช่น ทำร้ายร่างกายกัน ขว้างปาสิ่งของใส่กัน
- มักไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร เช่น พูดจาดูถูก เหยียดหยามกัน และมักไม่เคยขอโทษลูก หลังจากทะเลาะกัน
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่พ่อแม่ชอบทะเลาะกันต่อหน้าลูกมักรู้สึกเครียด รู้สึกกังวล มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาพฤติกรรม
- ลูกมีความเครียด วิตกกังวล หวาดกลัว นอนไม่หลับ กินไม่ได้
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น โกรธ เกลียด ชัง รู้สึกไม่ปลอดภัย
- ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
- ลูกมีปัญหาการเรียน ตั้งใจเรียนไม่ดี ผลการเรียนตก
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้อื่น เก็บตัว ไม่ไว้ใจใคร
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- พยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก
- พูดคุยกันอย่างใจเย็น หาทางออกร่วมกัน โดยไม่ต้องให้ลูกได้ยิน
- อธิบายให้ลูกเข้าใจ ว่าพ่อแม่ไม่ได้ทะเลาะกันเพราะลูก และลูกไม่ใช่สาเหตุของปัญหา
- ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
- ขอโทษลูก บอกลูกว่ารักลูก และจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก
-
พ่อแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก
พ่อแม่แบบนี้มักไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของลูก ไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของลูก มักมองข้ามความต้องการของลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ
ลักษณะของพ่อแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก
- มักละเลยความต้องการทางอารมณ์ของลูก ไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร ไม่รับฟังเมื่อลูกต้องการพูดคุย เช่น พูดว่า “อย่าร้องไห้ เป็นเด็กผู้ชายต้องอดทน”
- มักมองข้ามสัญญาณทางอารมณ์ของลูก มองข้ามความเศร้า ความโกรธ หรือความวิตกกังวลของลูก เช่น พูดว่า “เรื่องแค่นี้ทำไมต้องคิดมาก” พูดว่า “หนูคิดมากไปเอง”
- มักไม่แสดงความรักความอบอุ่นต่อลูก ไม่กอด ไม่หอม ไม่บอกรัก ลูก
- มักพูดจาทำร้ายจิตใจลูก พูดจาดูถูก ตำหนิ ติเตียน ลูก บ่อยครั้ง เช่น พูดว่า “หนูไม่ดีพอ”
- มักไม่ค่อยมีเวลากับลูก ไม่เล่นกับลูก ไม่พาลูกไปเที่ยว เช่น พูดว่า “ไม่มีเวลาให้หนูหรอก”
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่พ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญ จะรู้สึกเหงา สูญเสียความนับถือตนเอง เก็บกดความรู้สึก หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า
- ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก รับฟังเมื่อลูกต้องการพูดคุย แสดงความเห็นอกเห็นใจ
- สังเกตสัญญาณทางอารมณ์ของลูก ว่าลูกกำลังรู้สึกอย่างไร
- แสดงความรักความอบอุ่นต่อลูก กอด หอม บอกรัก ลูก
- พูดคุยกับลูกด้วยความใจเย็น ใช้วาจาสุภาพ อธิบายให้ลูกเข้าใจ
- ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พาลูกไปเที่ยว
-
พ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง
พ่อแม่แบบนี้มักพยายามให้ลูกมีงานอดิเรก ความสนใจ หรืออาชีพเหมือนตัวเอง ไม่สนับสนุนให้ลูกทำความฝันของตัวเอง กดดันให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้ลูกรู้สึกสูญเสียตัวตน
ลักษณะของพ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง
- มักเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น โดยเฉพาะกับตัวเอง เช่น พูดว่า “ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนพี่”
- มักกำหนดเป้าหมายให้ลูก ตามที่ตนเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความชอบ ความถนัด ของลูก เช่น พูดว่า “หนูต้องเรียนหมอ เหมือนพ่อ”
- มักกดดันให้ลูกประสบความสำเร็จ ตามที่ตนเองคาดหวัง เช่น พูดว่า “หนูต้องได้คะแนนเต็ม เหมือนแม่”
- มักไม่พอใจกับผลงานของลูก ติเตียน ตำหนิ ลูกอยู่เสมอ เช่น พูดว่า “ทำไมหนูทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง”
- มักควบคุมชีวิตลูก ตัดสินใจแทนลูก ไม่ให้ลูกมีอิสระ เช่น พูดว่า “หนูต้องฟังพ่อ แม่ รู้ดีที่สุด”
ผลกระทบต่อลูก
รู้สึกสับสนในตัวเอง รู้สึกขาดอิสระ มีปัญหาในการตัดสินใจ มีปัญหาความสัมพันธ์กับพ่อแม่
- ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
- ลูกสูญเสียตัวตน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ยอมรับในตัวลูก ว่าลูกเป็นคนที่มีความแตกต่าง มีจุดดี จุดด้อย
- ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูก สนับสนุนให้ลูกทำสิ่งที่ลูกชอบ
- ปล่อยให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผ่านประสบการณ์ของตัวเอง
- ชื่นชมความพยายามของลูก ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
- ใช้เวลากับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
-
พ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก
พ่อแม่แบบนี้มักใช้คำพูดที่รุนแรง ทำร้ายร่างกายลูก ข่มขู่หรือคุกคามลูก ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย
ลักษณะของพ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก
- ใช้อารมณ์รุนแรง โมโหง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำร้ายร่างกายลูก ตี ตบ เตะ ต่อย กักขัง จำกัดอิสระ ลูก
- ไม่มีความอดทน รอคอย หรือใจเย็น กับลูก ทำร้ายจิตใจลูก ด่าทอ ตะโกน ข่มขู่ ดูถูก ล่วงละเมิด
- มองโลกในแง่ร้าย คิดลบ มองลูกในแง่ร้าย ละเลย ไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลลูก ทอดทิ้ง ไม่รับผิดชอบลูก
- มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคติดสุรา
- เคยถูกทำร้าย เคยถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรุนแรง จึงนำมาใช้กับลูก
ผลกระทบต่อลูก
เด็กที่ถูกพ่อแม่ใช้ความรุนแรง มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาพฤติกรรม มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น มีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่น
- ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
- ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
- ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
- ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
- ลูกเรียนไม่ดี ขาดสมาธิ ตั้งใจเรียนไม่ดี
- ลูกมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ
แนวทางสำหรับพ่อแม่
- ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สายด่วน ศูนย์ช่วยเหลือเด็ก
- เข้ารับการบำบัด แก้ไขปัญหาทางอารมณ์
- เรียนรู้วิธีการเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้อง
- เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เลิกใช้ความรุนแรงกับลูก
- ใช้เวลากับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
อ่านแล้วคิดว่า คุณเป็นพ่อแม่แบบไหน หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าวิธีการเลี้ยงดูของคุณ ส่งผลให้ ลูกไม่มีความสุข สามารถขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูเด็ก เพราะการเป็นพ่อแม่นั้นเป็นบทบาทที่สำคัญ เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็มีความสุขและคุ้มค่า พยายามเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ และความใส่ใจ เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิต
ที่มา :
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2730434
https://pantip.com/topic/38227153
https://pantip.com/topic/42336360
https://pantip.com/topic/39905254
https://www.starfishlabz.com/blog/149-พ่อแม่ทะเลาะกันส่งผลอย่างไรกับลูกบ้าง
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต
แนะนำ 10 หมอจิตวิทยาเด็ก หมอจิตแพทย์เด็กที่ไหนดี รวมมาให้แล้ว
เลี้ยงลูกแบบไม่ดุ ได้ผลดีกว่า ทำไมการเลี้ยงลูกแบบเข้าใจถึงเป็นทางที่ดีกว่า