พ่อแม่ 10 แบบที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข คุณเป็นแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?

พ่อแม่ไม่ใช่เซฟโซน! ลูกไม่มีความสุข เพราะการเลี้ยงดูของพ่อแม่ 10 แบบที่พบบ่อย เช็กเลย! คุณเป็นแม่พ่อแม่แบบนี้หรือเปล่า?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การเป็นพ่อแม่นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย เป็นธรรมดาที่บางครั้งก็อาจมีวิธีการเลี้ยงดูที่ส่งผลต่อความสุขของลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ บทความนี้จะนำเสนอ 10 รูปแบบของพ่อแม่ที่พบบ่อย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของลูก พ่อแม่ที่ทำให้ ลูกไม่มีความสุข

สำรวจตัวเองด่วน! ลูกไม่มีความสุข เพราะพ่อแม่ 10 แบบนี้ ใช่คุณหรือเปล่า?

  1. พ่อแม่ที่ควบคุมหรือใช้อำนาจ

พ่อแม่แบบนี้ มักมีกฎระเบียบที่เข้มงวด คาดหวังให้ลูกเชื่อฟังโดยไม่ต้องตั้งคำถาม ตัดสินใจแทนลูกโดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นของลูก ลงโทษลูกอย่างรุนแรงเมื่อลูกทำผิด

ลักษณะของพ่อแม่ที่ควบคุมหรือใช้อำนาจกับลูก

  • ชอบสั่งการและกำหนดกฎเกณฑ์ มักมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดสำหรับลูกๆ และคาดหวังให้ลูกๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยไม่คำนึงถึงความคิดเห็นหรือความต้องการของลูก เช่น กำหนดเวลาเข้านอน การแต่งกาย กิจกรรมต่างๆ ของลูกอย่างเคร่งครัด
  • ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็นหรือความรู้สึกของลูกๆ ตัดสินใจแทนลูกโดยไม่ปรึกษา เช่น ห้ามลูกทำกิจกรรมบางอย่าง ออกไปกับเพื่อน ไปเที่ยว
  • ขาดความไว้วางใจ มักไม่ไว้ใจลูกๆ ติดตามตรวจสอบพฤติกรรมของลูกอย่างใกล้ชิด จำกัดอิสระของลูก เช่น ตรวจสอบโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ติดตามความเคลื่อนไหวของลูก
  • ใช้อารมณ์ เช่น การตะโกน ด่าทอ ข่มขู่ ลงโทษลูก เพื่อควบคุมพฤติกรรมของลูก
  • มักเปรียบเทียบ เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น ทำให้ลูกเกิดความรู้สึกด้อยค่า
  • คาดหวังสูง กดดันให้ลูกเรียนเก่ง กดดันให้ลูกประสบความสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบควบคุมจะรู้สึกขาดความมั่นใจ กลัวการแสดงออก มีปัญหาในการตัดสินใจ และมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อแม่

  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกอาจรู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม ลูกไม่มีความสุข กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ ลูกอาจมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีปัญหาทางพัฒนาการ ลูกอาจมีปัญหาการเรียนรู้ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา หรือทักษะทางสังคม
  • ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง ลูกอาจติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ รับฟังความคิดเห็น ความรู้สึกของลูก พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล
  • ตั้งกฎเกณฑ์ที่เหมาะสม กำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวัย และอธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • ให้ความไว้วางใจ ไว้ใจลูก ให้ลูกมีอิสระ รับผิดชอบต่อตัวเอง
  • ใช้วิธีการเชิงบวก กระตุ้น ชมเชย ให้รางวัล แทนการลงโทษ
  • เลี้ยงลูกด้วยความรัก แสดงความรัก ความอบอุ่น ให้ลูกรู้สึกปลอดภัย
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดู หรือจิตแพทย์ หากมีปัญหาในการเลี้ยงลูก

 

  1. พ่อแม่ที่ตามใจ

พ่อแม่ที่อนุญาตให้ลูกทำทุกอย่างที่ต้องการ ไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูก ไม่เคยตั้งกฎระเบียบหรือคาดหวังอะไรจากลูก ไม่เคยลงโทษลูกเมื่อลูกทำผิด

ลักษณะของพ่อแม่ที่ตามใจลูก

  • ไม่ค่อยตั้งกฎเกณฑ์ มักไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับลูก ปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
  • ไม่ค่อยลงโทษ แม้ว่าลูกจะทำผิด ไม่เคยปฏิเสธคำขอของลูก ไม่ยอมให้ใครมาว่าลูก แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
  • ตามใจลูก ซื้อของขวัญให้ลูกบ่อยๆ โดยไม่ต้องมีเหตุผล ให้เงินลูกเยอะๆ โดยไม่ต้องทำงานอะไร
  • ปกป้องลูก ทำทุกอย่างแทนลูก เช่น แต่งตัว อาบน้ำ กินข้าว แก้ปัญหาให้ลูก โดยไม่สอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
  • ขาดความรับผิดชอบ ไม่ดูแลเอาใจใส่ลูก ปล่อยให้ลูกดูแลตัวเอง

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบตามใจจะขาดการควบคุมตนเอง ไร้ความรับผิดชอบ ไม่สามารถอดทนรอคอยอะไรได้ มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสังคม

  • ลูกเอาแต่ใจ ไม่รู้จักพอ ไม่เคารพผู้อื่น
  • ลูกไม่มีวินัย ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่
  • ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
  • ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับวัย และอธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • ลงโทษอย่างเหมาะสม เมื่อลูกทำผิด
  • สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบ ต่อหน้าที่ และสิ่งของของตัวเอง
  • ส่งเสริมให้ลูกมีความคิดเป็นของตัวเอง รู้จักตัดสินใจด้วยตัวเอง
  • ใช้เวลากับลูก ใช้เวลากับลูก พูดคุย เล่นกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

  1. พ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย

พ่อแม่แบบนี้มักไม่ค่อยใส่ใจลูก ไม่ค่อยใช้เวลากับลูก ไม่ค่อยมีการพูดคุยหรือเล่นกับลูก ไม่ค่อยรับรู้ถึงความต้องการของลูก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลักษณะของพ่อแม่ที่ปล่อยปละละเลย

  • ไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่ มักไม่สนใจว่าลูกทำอะไร อยู่ที่ไหน กับใคร มักทิ้งลูกไว้ตามลำพัง โดยไม่มีใครดูแล
  • ไม่ตอบสนองความต้องการของลูก ทั้งความต้องการทางร่างกาย และความต้องการทางจิตใจ เช่น ไม่ให้อาหารลูก ปล่อยให้ลูกหิว
  • ไม่ค่อยสอนลูก ไม่สอนให้ลูกเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ส่งลูกไปโรงเรียน ปล่อยให้ลูกไม่ได้เรียนหนังสือ
  • ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ไม่เล่นกับลูก ไม่พูดคุยกับลูก ไม่พาลูกไปพบแพทย์ เมื่อลูกป่วย
  • ไม่ค่อยควบคุมดูแล ปล่อยให้ลูกทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ เช่น ไม่ให้เสื้อผ้าลูกใส่ ปล่อยให้ลูกเปลือย หรือสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกเลี้ยงดูแบบปล่อยปละละเลย จะรู้สึกเหงา รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกไร้ค่า ลูกไม่มีความสุข และมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมเสี่ยง

  • ลูกขาดการพัฒนา ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคม
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกมีปัญหาทางกฎหมาย เช่น ถูกจับกุม หรือกระทำผิดกฎหมาย

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ให้ความรู้แก่พ่อแม่ เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูก ความสำคัญของการดูแลเอาใจใส่ลูก และผลกระทบของการปล่อยปละละเลย
  • ให้การสนับสนุนแก่ครอบครัว ที่ประสบปัญหาในการเลี้ยงดูลูก เช่น บริการเลี้ยงเด็ก เงินช่วยเหลือ หรือคำปรึกษา
  • ดำเนินการตามกฎหมาย ในกรณีที่พบว่ามีการปล่อยปละละเลยเด็ก จนส่งผลเสียต่อเด็ก

 

  1. พ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น

พ่อแม่แบบนี้มักเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง เพื่อน หรือเด็กคนอื่นๆ มักชี้ให้เห็นจุดด้อยของลูกอยู่เสมอ ไม่เคยชมเชยหรือให้กำลังใจลูก คาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่น

ลักษณะของพ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น

  • มักพูดเปรียบเทียบลูกกับพี่น้อง เพื่อน หรือเด็กคนอื่นๆ เช่น พูดว่า “ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนพี่”
  • มักยกตัวอย่างเด็กเก่ง เด็กดี มาเปรียบเทียบกับลูก เช่น พูดว่า “เพื่อนหนูได้ที่หนึ่งแล้ว หนูได้แค่นี้เองเหรอ”
  • มักเน้นย้ำจุดด้อยของลูก เช่น พูดว่า “หนูดูสิ เด็กคนนั้นเขาตั้งใจเรียนแค่ไหน หนูไม่ตั้งใจเลย”
  • มักคาดหวังให้ลูกประสบความสำเร็จเหมือนผู้อื่น เช่น พูดว่า “ถ้าหนูเก่งเหมือนลูกเพื่อนแม่ แม่จะดีใจมาก”
  • มักไม่ชื่นชมความพยายามของลูก เช่น พูดว่า “หนูทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง”

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกพ่อแม่เปรียบเทียบมักรู้สึกด้อยค่า ขาดความมั่นใจ มีปัญหาในการยอมรับตัวเอง มีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับพ่อแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • เลิกเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น หันมาจดจ่อกับพัฒนาการของลูก ชื่นชมความพยายามของลูก
  • พูดคุยให้กำลังใจลูก บอกลูกว่ารักลูก ยอมรับในตัวลูก
  • เน้นย้ำจุดเด่นของลูก ชื่นชมความสามารถของลูก
  • ตั้งความคาดหวังที่เหมาะสม ไม่กดดันลูกมากเกินไป
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

 

  1. พ่อแม่ที่กดดันลูก

พ่อแม่แบบนี้มีคาดหวังจากลูกสูง มุ่งมั่นให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต กดดันให้ลูกเรียนเก่ง ทำกิจกรรมต่างๆ หรือประพฤติตัวดี ไม่พอใจเมื่อลูกไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

ลักษณะของพ่อแม่ที่กดดันลูก

  • คาดหวังสูง ต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จตามที่ตนเองต้องการ เช่น บังคับให้ลูกเรียนพิเศษ เรียนหนัก ติวเข้ม
  • ไม่พอใจกับผลงานของลูก มักตำหนิ ติเตียน หรือลงโทษลูก เช่น ตรวจสอบการบ้านของลูก ติเตียน แก้ไข งานของลูก
  • เน้นย้ำจุดด้อยของลูก ไม่ค่อยชื่นชมความพยายามของลูก เช่น เปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น พูดว่าทำไมไม่เก่งเหมือนคนอื่น
  • ควบคุมชีวิตลูก ตัดสินใจแทนลูก ไม่ให้ลูกมีอิสระ เช่น กำหนดเป้าหมายให้ลูก คาดหวังให้ลูกต้องได้คะแนนดี สอบเข้าโรงเรียนดัง
  • ใช้อารมณ์ ตะโกน ด่าทอ ข่มขู่ ลูก ไม่ให้ลูกเล่น บอกว่าเสียเวลา ต้องเรียนหนังสือ

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกพ่อแม่กดดันจะรู้สึกเครียด รู้สึกกดดัน ลูกไม่มีความสุข มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาในการตัดสินใจ

  • ลูกมีความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ
  • ลูกมีปัญหาทางสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ
  • ลูกมีปัญหาทางพฤติกรรม เช่น เกเร หนีเรียน ติดสารเสพติด
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกฆ่าตัวตาย ในกรณีร้ายแรง ลูกอาจฆ่าตัวตาย

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ปรับเปลี่ยนความคิด ลดความคาดหวัง มองลูกในแง่ดี ยอมรับในตัวลูก
  • พูดคุยกับลูก รับฟังความรู้สึก ความคิดเห็น ของลูก
  • สนับสนุนลูก ชื่นชมความพยายาม ให้กำลังใจ ลูก
  • ให้ลูกมีอิสระ ตัดสินใจด้วยตัวเอง เรียนรู้จากประสบการณ์
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. พ่อแม่ที่บ่นหรือตำหนิลูก

พ่อแม่แบบนี้มักบ่นหรือตำหนิลูกอยู่เสมอ มองเห็นแต่ข้อเสียของลูก ไม่เคยชมเชยหรือให้กำลังใจลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ

ลักษณะของพ่อแม่ที่บ่นหรือตำหนิลูก

  • มักพูดบ่น ตำหนิ ติเตียน ลูกอยู่เสมอ เช่น พูดว่า “ทำไมไม่ทำการบ้านให้เสร็จ”
  • มักมองข้ามจุดดีของลูก เน้นย้ำแต่จุดด้อย เช่น พูดว่า “ทำไมได้คะแนนแค่นี้”
  • มักเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น เช่น พูดว่า “ทำไมไม่เก่งเหมือนเพื่อน”
  • มักไม่ค่อยชื่นชมความพยายามของลูก เช่น พูดว่า “ไม่เคยทำอะไรให้ดีสักอย่าง”
  • มักใช้อารมณ์ ตะโกน ด่าทอ ลูก เช่น พูดว่า “ดูสิเพื่อนเขาทำได้ ทำไมหนูทำไม่ได้”

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกต่อแม่บ่นหรือตำหนิเป็นประจำ จะรู้สึกด้อยค่า ขาดความมั่นใจ มีปัญหาในการยอมรับตัวเอง มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร พูดคุยกับลูกด้วยความใจเย็น ใช้วาจาสุภาพ อธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • พูดเน้นจุดดีของลูก ชื่นชมความพยายาม ให้กำลังใจ ลูก
  • เลิกเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น ทุกคนมีความแตกต่างกัน
  • รับฟังความรู้สึกของลูก  เข้าใจปัญหาของลูก
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

  1. พ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก

พ่อแม่แบบนี้มักทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง ใช้คำพูดที่รุนแรงต่อกัน ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย

ลักษณะของพ่อแม่ที่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก

  • มักทะเลาะกันบ่อยครั้ง เสียงดัง เช่น ตะโกนใส่กัน
  • มักใช้คำพูดรุนแรง ด่าทอ หรือประชดประชันกัน เช่น ด่าทอด้วยคำหยาบคาย
  • มักทำร้ายร่างกายกัน ต่อหน้าลูก เช่น ทำร้ายร่างกายกัน ขว้างปาสิ่งของใส่กัน
  • มักไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร เช่น พูดจาดูถูก เหยียดหยามกัน และมักไม่เคยขอโทษลูก หลังจากทะเลาะกัน

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่พ่อแม่ชอบทะเลาะกันต่อหน้าลูกมักรู้สึกเครียด รู้สึกกังวล มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาพฤติกรรม

  • ลูกมีความเครียด วิตกกังวล หวาดกลัว นอนไม่หลับ กินไม่ได้
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น โกรธ เกลียด ชัง รู้สึกไม่ปลอดภัย
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกมีปัญหาการเรียน ตั้งใจเรียนไม่ดี ผลการเรียนตก
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้อื่น เก็บตัว ไม่ไว้ใจใคร

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • พยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก
  • พูดคุยกันอย่างใจเย็น หาทางออกร่วมกัน โดยไม่ต้องให้ลูกได้ยิน
  • อธิบายให้ลูกเข้าใจ ว่าพ่อแม่ไม่ได้ทะเลาะกันเพราะลูก และลูกไม่ใช่สาเหตุของปัญหา
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น
  • ขอโทษลูก บอกลูกว่ารักลูก และจะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกอีก

 

  1. พ่อแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก

พ่อแม่แบบนี้มักไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นของลูก ไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของลูก มักมองข้ามความต้องการของลูก ทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ 

ลักษณะของพ่อแม่ที่ไม่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก

  • มักละเลยความต้องการทางอารมณ์ของลูก ไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไร ไม่รับฟังเมื่อลูกต้องการพูดคุย เช่น พูดว่า “อย่าร้องไห้ เป็นเด็กผู้ชายต้องอดทน”
  • มักมองข้ามสัญญาณทางอารมณ์ของลูก มองข้ามความเศร้า ความโกรธ หรือความวิตกกังวลของลูก เช่น พูดว่า “เรื่องแค่นี้ทำไมต้องคิดมาก” พูดว่า “หนูคิดมากไปเอง”
  • มักไม่แสดงความรักความอบอุ่นต่อลูก ไม่กอด ไม่หอม ไม่บอกรัก ลูก
  • มักพูดจาทำร้ายจิตใจลูก พูดจาดูถูก ตำหนิ ติเตียน ลูก บ่อยครั้ง เช่น พูดว่า “หนูไม่ดีพอ”
  • มักไม่ค่อยมีเวลากับลูก ไม่เล่นกับลูก ไม่พาลูกไปเที่ยว เช่น พูดว่า “ไม่มีเวลาให้หนูหรอก”

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่พ่อแม่ไม่ให้ความสำคัญ จะรู้สึกเหงา สูญเสียความนับถือตนเอง เก็บกดความรู้สึก หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูก รับฟังเมื่อลูกต้องการพูดคุย แสดงความเห็นอกเห็นใจ
  • สังเกตสัญญาณทางอารมณ์ของลูก ว่าลูกกำลังรู้สึกอย่างไร
  • แสดงความรักความอบอุ่นต่อลูก กอด หอม บอกรัก ลูก
  • พูดคุยกับลูกด้วยความใจเย็น ใช้วาจาสุภาพ อธิบายให้ลูกเข้าใจ
  • ใช้เวลากับลูก เล่นกับลูก พาลูกไปเที่ยว

 

  1. พ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง

พ่อแม่แบบนี้มักพยายามให้ลูกมีงานอดิเรก ความสนใจ หรืออาชีพเหมือนตัวเอง ไม่สนับสนุนให้ลูกทำความฝันของตัวเอง กดดันให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้ลูกรู้สึกสูญเสียตัวตน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลักษณะของพ่อแม่ที่คาดหวังให้ลูกเป็นเหมือนตัวเอง

  • มักเปรียบเทียบลูกกับผู้อื่น โดยเฉพาะกับตัวเอง เช่น พูดว่า “ทำไมหนูไม่เก่งเหมือนพี่”
  • มักกำหนดเป้าหมายให้ลูก ตามที่ตนเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงความชอบ ความถนัด ของลูก เช่น พูดว่า “หนูต้องเรียนหมอ เหมือนพ่อ”
  • มักกดดันให้ลูกประสบความสำเร็จ ตามที่ตนเองคาดหวัง เช่น พูดว่า “หนูต้องได้คะแนนเต็ม เหมือนแม่”
  • มักไม่พอใจกับผลงานของลูก ติเตียน ตำหนิ ลูกอยู่เสมอ เช่น พูดว่า “ทำไมหนูทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง”
  • มักควบคุมชีวิตลูก ตัดสินใจแทนลูก ไม่ให้ลูกมีอิสระ เช่น พูดว่า “หนูต้องฟังพ่อ แม่ รู้ดีที่สุด”

ผลกระทบต่อลูก

รู้สึกสับสนในตัวเอง รู้สึกขาดอิสระ มีปัญหาในการตัดสินใจ มีปัญหาความสัมพันธ์กับพ่อแม่

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกสูญเสียตัวตน ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ต้องการอะไร

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ยอมรับในตัวลูก ว่าลูกเป็นคนที่มีความแตกต่าง มีจุดดี จุดด้อย
  • ให้ความสำคัญกับความต้องการของลูก สนับสนุนให้ลูกทำสิ่งที่ลูกชอบ
  • ปล่อยให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผ่านประสบการณ์ของตัวเอง
  • ชื่นชมความพยายามของลูก ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
  • ใช้เวลากับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

  1. พ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก

พ่อแม่แบบนี้มักใช้คำพูดที่รุนแรง ทำร้ายร่างกายลูก ข่มขู่หรือคุกคามลูก ทำให้ลูกรู้สึกหวาดกลัว ทำให้ลูกรู้สึกไม่ปลอดภัย

ลักษณะของพ่อแม่ที่ใช้ความรุนแรงกับลูก

  • ใช้อารมณ์รุนแรง โมโหง่าย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ทำร้ายร่างกายลูก ตี ตบ เตะ ต่อย กักขัง จำกัดอิสระ ลูก
  • ไม่มีความอดทน รอคอย หรือใจเย็น กับลูก ทำร้ายจิตใจลูก ด่าทอ ตะโกน ข่มขู่ ดูถูก ล่วงละเมิด
  • มองโลกในแง่ร้าย คิดลบ มองลูกในแง่ร้าย ละเลย ไม่ใส่ใจ ไม่ดูแลลูก ทอดทิ้ง ไม่รับผิดชอบลูก
  • มีปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคติดสุรา
  • เคยถูกทำร้าย เคยถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรุนแรง จึงนำมาใช้กับลูก

ผลกระทบต่อลูก

เด็กที่ถูกพ่อแม่ใช้ความรุนแรง มีปัญหาสุขภาพจิต มีปัญหาพฤติกรรม มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น มีแนวโน้มที่จะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่น

  • ลูกมีความมั่นใจในตนเองต่ำ รู้สึกด้อยค่า คิดว่าตัวเองไม่ดีพอ
  • ลูกมีปัญหาทางอารมณ์ เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีพฤติกรรมต่อต้าน
  • ลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับพ่อแม่ รู้สึกห่างเหิน ไม่สนิทสนม กลัว หรือโกรธพ่อแม่
  • ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบน เช่น ติดสารเสพติด มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือทำร้ายตัวเอง
  • ลูกเรียนไม่ดี ขาดสมาธิ ตั้งใจเรียนไม่ดี
  • ลูกมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหัว ปวดท้อง โรคกระเพาะ

แนวทางสำหรับพ่อแม่

  • ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สายด่วน ศูนย์ช่วยเหลือเด็ก
  • เข้ารับการบำบัด แก้ไขปัญหาทางอารมณ์
  • เรียนรู้วิธีการเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้อง
  • เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เลิกใช้ความรุนแรงกับลูก
  • ใช้เวลากับลูก พูดคุยกับลูก แสดงความรัก ความอบอุ่น

อ่านแล้วคิดว่า คุณเป็นพ่อแม่แบบไหน หากคุณพ่อคุณแม่กังวลว่าวิธีการเลี้ยงดูของคุณ ส่งผลให้ ลูกไม่มีความสุข สามารถขอคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงดูเด็ก เพราะการเป็นพ่อแม่นั้นเป็นบทบาทที่สำคัญ เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็มีความสุขและคุ้มค่า พยายามเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ และความใส่ใจ เพื่อให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข ประสบความสำเร็จในชีวิต

ที่มา :

DWF. Channel

หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก

สารพันปัญหาการเลี้ยงลูก

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2730434

https://pantip.com/topic/38227153

https://pantip.com/topic/42336360

https://pantip.com/topic/39905254

https://www.starfishlabz.com/blog/149-พ่อแม่ทะเลาะกันส่งผลอย่างไรกับลูกบ้าง

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พ่อแม่ทะเลาะกัน ต่อหน้าลูก เป็นเรื่องใหญ่ เพราะอาจส่งผลร้ายต่อลูกไปทั้งชีวิต

แนะนำ 10 หมอจิตวิทยาเด็ก หมอจิตแพทย์เด็กที่ไหนดี รวมมาให้แล้ว

เลี้ยงลูกแบบไม่ดุ ได้ผลดีกว่า ทำไมการเลี้ยงลูกแบบเข้าใจถึงเป็นทางที่ดีกว่า