ยาคุมฉุกเฉิน หรือที่รู้จักในชื่อทางการว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) เป็นอีกหนึ่งวิธีการคุมกำเนิดที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากวิธีการใช้ที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพราะไม่ต้องตั้งเวลาให้กินเป็นประจำทุกวัน แต่ยังคงมีวิธีการกินที่หลายคนต้องทำความเข้าใจ เพราะมีทั้งยาแบบสองเม็ดและ ยาคุมฉุกเฉินเม็ดเดียว เพื่อรับรู้ว่าต้องกินด้วยวิธีไหน ถึงจะปลอดภัยกับตนเองมากที่สุด
ยาคุมฉุกเฉินควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น กรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น หรือความผิดพลาดจากการคุมกำเนิด รวมไปถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้รับความยินยอม เป็นต้น
ทางการแพทย์เน้นย้ำเรื่องการใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นประจำ โดยได้ให้เหตุผลว่าถึงแม้จะเป็นการคุมกำเนิดที่ช่วยในการควบคุมการตั้งครรภ์ แต่ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะปลอดภัย 100% นอกจากนี้ยังไม่รองรับโรคติดต่อที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย
อ่านบทความน่าสนใจ : ยาคุม28เม็ด ข้อควรรู้สำหรับสาวๆ ต้องทานอย่างไร ทำไมจึงทานเยอะกว่า?
ทำความรู้จัก “ยาคุมฉุกเฉินเม็ดเดียว” ให้เพิ่มขึ้น
ใช้วิธีการทานในรูปแบบเดียวกัน คือ ควรทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 120 ชั่วโมง แต่การจะกินยาคุมฉุกเฉินชนิดนี้นั้น ต้องคำนึงถึงเรื่องสำคัญว่าจะมีอาการข้างเคียงมากกว่าแบบปกติ เพราะยาคุมเม็ดเดียว จะให้ปริมาณยาในเลือดสูงกว่าปกติ อีกทั้งอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, เลือดออกที่ช่องคลอดผิดปกติ, ประจำเดือนมาผิดปกติ ฯลฯ
มีข้อมูลจากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ระบุไว้ว่า “จากการศึกษาข้อมูล 10 ประเทศทั่วโลก พบว่า ประสิทธิภาพของการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ทั้ง 2 แบบ ให้ผลลัพธ์ที่ไม่ต่างกัน”
สาเหตุส่วนใหญ่ที่หลายคนเลือกใช้ ยาคุมเม็ดเดียว เป็นเพราะความสะดวกมากกว่า มีหลายคนที่ลืมทานยาคุมเม็ดที่สอง หลังจากนั้น 12-24 ชั่วโมงต่อมา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเสี่ยงตั้งครรภ์ที่เพิ่มขึ้น
อีกครั้งในบางครั้งการทานยาคุมฉุกเฉินพร้อมกันทั้ง 2 เม็ดเพื่อป้องกันการลืมก็เป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้ เพียงแต่ว่าอาการข้างเคียงอาจจะไม่เท่าการทาน ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด ดังนั้นหากตั้งการใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดใดอาจจะต้องพึงสังเกตที่อาการข้างเคียงเพิ่มขึ้น
รู้หรือไม่ “ยาคุมเม็ดเดียว” มีจำหน่ายแค่ยี่ห้อเดียวเท่านั้นในไทย
ปัจจุบันการจำหน่ายยาคุมฉุกเฉินมีหลายยี่ห้อ แต่ส่วนใหญ่เป็นแบบ 2 เม็ด มีเพียงยี่ห้อเดียวเท่านั้นที่เป็น ยาคุมเม็ดเดียว นั่นก็คือ Tansy ONE หรือ แทนซี วัน เป็นชื่อการค้าของยาในกลุ่มยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน นั่นเอง
ยาคุมฉุกเฉินเม็ดเดียว vs ยาคุมฉุกเฉินสองเม็ด
โดยทั่วไปยาคุมฉุกเฉินที่มีขายในบ้านเรานั้น มักเป็นชนิดที่ประกอบด้วยตัวอย่าสำคัญอย่าง ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) อย่างเดียวเท่านั้น โดยแบบออกเป็น 2 แบบ คือ
- ยาคุมฉุกเฉิน2เม็ด แต่ละเม็ดจะมีปริมาณ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) 0.75 มิลลิกรัม
- ยาคุมฉุกเฉิน1เดียว มีปริมาณ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) 1.5 มิลลิกรัม
อย่างที่บอกว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉิน อาจต้องแลกมาด้วยผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึง เนื่องจากฤทธิ์ของยานั้น มีผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งสามารถจำแนกภาวะผิดปกติหลังจากการทานยาคุมฉุกเฉิน ได้แก่
- อาการคลื่นไส้, อาเจียน มักเกิดขึ้นหลังจากที่ทานยาเข้าไปได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จะมีอาการเวียนหัวนำมา
- ปวดหัวหรือปวดท้อง เนื่องจากร่างกายต่อต้ายยาคุม หรือมีการปรับฮอร์โมนของร่างกายที่เปลี่ยนไป
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ บางครั้งอาจส่งผลให้มีความคลาดเคลื่อนออกไปจากวันที่เคยมา นานถึงสัปดาห์
- ยาคุมฉุกเฉินอาจส่งผลกระทบให้เสี่ยงท้องนอกมดลูก (ในบางคน)
- อาจส่งผลให้กระดูกพรุนได้ในอนาคต เพราะขาดแคลเซียล
หมายเหตุ : การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ก่อนการใช้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง
วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องและปลอดภัยมากที่สุด
หลังจากที่ซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาแล้ว ควรต้องรีบกินยาให้เร็วที่สุดจากการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อให้ยาได้ออกฤทธิ์แบบมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยสามารถแบ่งวิธีกินยาได้ดังนี้
- กินพร้อมกันสองเม็ดในครั้งเดียวทันที หลังมีเพศสัมพันธ์
- กินยาเม็ดแรกทันที หลังมีเพศสัมพันธ์ และเม็ดที่สองอีกครั้งใน 12 ชั่วโมง
- หากไม่สามารถกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ทันที ควรรีบกินหลังจากนั้นไม่เกิน 3 วัน หรือไม่เกิน 72 ชั่วโมง
- หากมีอาการอาเจียน ควรต้องกินยาคุมฉุกเฉินอีกครั้งหลังจากนั้น 2 ชั่วโมง
- ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินเกินกว่า 4 เม็ดในรอบเดือนเดียว
- ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินกรณีที่ฉุกเฉินจริงๆ ไม่ควรใช้เป็นยาสำรองแทนการกินยาคุมแบบ 21 หรือ 28 เม็ด
- หากสงสัยว่าตนเองตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ถึงแม้การใช้ “ยาคุมฉุกเฉินเม็ดเดียว” เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เซฟตัวเราเอง แต่ก็ยังคงยืนยันว่าไม่แนะนำให้ใช้แทนการคุมกำเนิดแบบปกติ ถึงแม้ว่าตัวยาจะได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยก็ตาม เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่าการทานยาคุมฉุกเฉินบางครั้งอาจแลกมาด้วยผลข้างเคียงของยาได้
ดังนั้นการใช้ ยาคุมฉุกเฉิน ในกรณีจำเป็น จึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด และเมื่อหลังจากเกิดอาการข้างเคียง อาทิ ประจำเดือนมาไม่ปกติ, ประจำเดือนขาด, เลือดออกไม่หยุด ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
บทความที่น่าสนใจ
10 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ยาคุมกำเนิด ที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้าม
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ปลอดภัยหรือไม่ และกินอย่างไรให้ปลอดภัย
ทำไมกินยาคุมฉุกเฉินแล้วยังท้อง ไขข้อสงสัยยาคุมฉุกเฉินที่คนมักเข้าใจผิด
ยาคุม28เม็ด ข้อควรรู้สำหรับสาวๆ ต้องทานอย่างไร ทำไมจึงทานเยอะกว่า?
ที่มา (samitivejhospitals) (hd)