ลุงพล ออกจากบ้านกกกอกไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มาถึงคืนวันที่ 1 มิถุนายน ตำรวจได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ได้ออกหมายจับลุงพลในคดีของน้องชมพู่แล้ว!!! ท่ามกลางเสียงวิพาษณ์วิจาณ์ที่หลากหลาย ทั้งนี้ทางศาลมุกดาหาร อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล ฐานความผิด 3 ข้อหาด้วยกัน ทั้งพรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ข่าวยังเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากเส้นผมเรียบร้อยแล้ว และหลีกฐานชิ้นสำคัญนี้เป็นตัวบ่งบอกว่าคนร้ายก็คือลุงพลเป็นพาหลานขึ้นภูเขาไปจนเสียชีวิต หลายฝ่ายเวลารวบรวมหลักฐานนานเป็นปี จนในคืนนี้คาดจะสามารถปิดคดีขอศาลอนุมัติหมายจับได้ในที่สุด
ลุงพลเข้ามอบตัว
ลุงพลเข้ามอบตัวพร้อมทนายตั้ม ด้าน ผบ.ตร.เมิน สั่งชุดสืบสวนเจอที่ไหนจับที่นั่น
ก่อนหน้านี้ ทางด้านชาวเน็ตก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาว่า การสืบคดีมีความล่าช้าเกินไปหรือไม่ และ การประกาศครั้งนี้ เป็นการปิดข่าวการเมืองที่ร้อนระอุหรือป่าว? แต่เมื่อเวลา 10.55 น. ทนายตั้ม ซึ่งเดินทางมาคนเดียวพร้อมเปิดเผยกับกองทัพสื่อมวลชนว่า “ลุงพล” เดินทางเข้าไปด้านในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมจึงมอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งที่พื้นที่เกิดเหตุเกิดขึ้นที่ สภ.กกตูม ด้านทนายคู่ใจกล่าวว่า ทั้งนี้เป็นสิทธิของลุงพลที่จะมอบตัวที่ไหนก็ได้
มีรายงานจากทีมงานอีจันว่า แหล่งข่าวภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะไม่รับการมอบตัวของลุงพล เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ใช่สถานที่มอบตัว และแนะนำให้ลุงพลกลับไปมอบตัวที่ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ย้อนกลับไปช่วงเช้ามืดของวันนี้ ตำรวจชุดปฏิบัติการ ฟ้าสางกลางกกกอก นำหมายค้นเข้ามาที่บ้านของลุงพล ที่บ้านกกกอก อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งเเต่เวลา 05.55 น. แต่ไม่พบตัวลุงพลและป้าแต๋น ภรรยา ที่บ้านพัก ซึ่งได้มีการควบคุมตัว นายอ๋อ ยูทูบเบอร์คนสนิทของลุงพล ในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปขึ้นรถและนำตัวไปที่ สภ.กกตูม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข (ขอบคุณภาพจาก อมรินทร์ทีวี)
แม่ น้องชมพู่ ระบายความในใจ ความอัดอั้น บอกรักลูกเขียนด้วยลายมือลงกระดาษ
ผ่านมา 1 ปี 20 วันกับเรื่องราวปมปริศนาการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวจากบ้านในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ผ่านมาจนถึงวันนี้ คดีของเด็กหญิง ซึ่งกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญนานนับปี ซึ่งต่างให้ประชาชนให้ความสนใจ รวมทั้งสื่อมวลชนพากันเจาะลึกนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง
นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา
ด้วยความที่ถูกจับตามองในตอนแรก ทำให้แม่น้องชมพู่ไม่กล้าโพสความอัดอั้นตันใจลงในสื่อโซเชียลหรือระบายความทุกข์แก่คนรอบตัว นางจึงเขียนลงกระดาษด้วยลายมือ ระบายความในใจที่สูญเสียลูกรัก
“ข้าพเจ้าสัญญากับตัวเองว่า ไม่ว่าคนไหนที่ทำกับลูก ข้าพเจ้าไม่มีวันให้อโหสิกรรมให้เด็ดขาด ซ้ำยังของสาปแช่งให้ได้รับเคราะห์กรรม ถูกเจ้ากรรมนายเวรตามอาฆาตเอาทุกชีวิต ทุกชาติไป
บันทึกมีทั้งหมด 4 แผ่น โดยมีข้อความย่อๆ ดังนี้
หน้า 1 “ข้าพเจ้านางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือแม่น้องชมพู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งลูกสาวคนเล็กถูกพรากจากอกไป จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ที่ไม่ได้ยินเสียงเล็กๆ ใสๆ ของน้อง ที่ดังมาจากบนบ้าน แม่จ๋า ขึ้นเทิง ขึ้นเทิง (แม่จ๋า ขึ้นบ้าน ขึ้นบ้าน) มานอนนำน้อง ไม่ได้ยินเสียงมานานแล้ว ยังคิดถึงลูกเสมอ”
หน้า 2 “ไม่มีรักไหนยิ่งใหญ่เท่ารักจากพ่อแม่ ไม่มีรักใดมั่นคงเท่าสายเลือด ไม่มีรักใดไม่ใช้เวลา 3 ปีที่ร่วมทางกันมา มันมีค่าเกินกว่าจะบอกใคร”
หน้า 3 “ฝากไปให้แม่ ไม่รู้ลูกได้รับหรือป่าว ฝากไปให้เพื่อผ่อนคลายความโศกเศร้า ฝากไปให้แทนความรักในใจเรา”
หน้าที 4 วันที่ 10 ก.ย.63 “ใกล้สิ้นสุดแล้วจริงหรือ ข้าพเจ้าขอภาวนาให้สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้เป็นความจริงด้วยเถิด อยากพ้นจากความทุกข์นี้เสียที วิกฤติชีวิตครั้งหนึ่งหนักหนายิ่งหนัก มีเพียงคำสอนหลักพระพุทธศาสนา ที่พอพยุงสติข้าพเจ้าให้มีสมาธิ และความอดทน ข้าพเจ้าสัญญากับตัวเองว่าไม่ว่าคนไหนที่ทำกับลูกก็ตามที่บังอาจทำให้ลูกสาวตัวน้อยของข้าพเจ้าที่มีแม้แต่รอยขีดข่วนข้าพเจ้าไม่มีวันให้อหสิกรรมให้เด็ดขาด ซ้ำยังของสาปแช่งให้ได้รับเคราะห์กรรมถูกเจ้ากรรมนายเวร ตามอาฆาตเอาทุกชีวิต ทุกชาติไป”
น้องชมพู่จากไปในวัยกำลังน่ารัก
ออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อย 1 ราย ในข้อ 3 ข้อหา
ที่ผ่านมามีผู้ต้องสงสัยหลายรายโดยเฉพาะคนใกล้ชิดของ น้องชมพู่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงสรุปคดีน้องชมพู่ ชี้แจง 8 เหตุผล ยืนยันว่าเด็กหญิงไม่สามารถเดินขึ้นไปบนภูเหล็กไฟจุดที่พบศพได้ด้วยตนเอง เชื่อว่ามีผู้พาน้องชมพู่ไปและทำให้ถึงแก่ความตายทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานแวดล้อม พยานบุคคล และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงดีเอ็นเอที่พบบริเวณจุดพบศพ เตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาอย่างน้อย 1 ราย ในข้อ 3 ข้อหา
- พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุอันสมควร
- หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จนถึงแก่ความตาย
- ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย
ด้วยหลักฐานที่พบในที่เกิเดเหตุ สามารถพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ (เครดิต: ไทยรัฐทีวี)
แม่น้องชมพู่ มั่นใจจับคนร้ายตัวจริง
แม่น้องชมพู่ หรือ “นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา” กล่าววันที่มาทำบุญครบรอบ 1 ปี ของการจากไปของลูกสาว ว่าการทำบุญใหญ่คงต้องรออีก 2 ปี เพราะเป็นประเพณีของชาวกกกอก คือครบ 3 ปีจะทำบุญอัฐิอีกครั้ง ทั้งนี้นางจะนำของไปบริจาคช่วยเหลือคนที่กักตัวที่อำเภอดงหลวง อยากจะช่วยทุกคนที่มีผลกระทบเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ที่ผ่านมาแม่ก็ได้รับการช่วยเหลือเช่นกัน จึงอยากจะตอบแทนบ้าง เงินที่นำมาซื้อของก็เป็นเงินที่ได้จากการขายผ้า ส่วนเรื่องของคดีก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำงานต่อไป
บทความที่น่าสนใจ
ป้องกันเด็กหาย!!! เริ่มที่พ่อแม่สอนลูกให้ถูกทาง
ภัยใกล้ตัว! สอนลูกให้รู้ทันก่อนถูก มิจฉาชีพลักพาตัว
Child Lock หรือ ล็อคป้องกันเด็ก ช่วยไม่ให้ลูกหล่นออกมาจากรถ เรื่องสำคัญที่พ่อแม่ต้องรู้
ที่มา nationtv , amarintv , matichon
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!