ค่าเหลืองทารก ปกติเท่าไหร่? วิธีสังเกตทารกตัวเหลือง พร้อมวิธีแก้

ค่าเหลืองทารก ปกติเท่าไหร่ บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่าย พร้อมวิธีสังเกต วิธีดูแลทารกตัวเหลือง และคำถามที่พบบ่อย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

“ค่าเหลืองทารก ปกติเท่าไหร่” เป็นคำถามที่คุณแม่มือใหม่กังวลใจมากเมื่อลูกน้อยตัวเหลือง บทความนี้จะอธิบายให้ละเอียด แต่เข้าใจง่าย ทั้งค่าเหลืองปกติ ค่าตัวเหลือง 12 อันตรายไหม วิธีดูแลทารกตัวเหลือง และคำถามที่พบบ่อย

จริง ๆ แล้ว ภาวะตัวเหลือง (neonatal jaundice) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยมากในทารกแรกเกิดค่ะ ข้อมูลจาก American Academy of Pediatrics, 2022 พบว่า ทารกครบกำหนดกว่า 60% และ ทารกคลอดก่อนกำหนดกว่า 80% จะมีอาการเหลืองในช่วงวันแรก ๆ หลังคลอด 

แม้จะเป็นภาวะที่พบบ่อย แต่แม่ ๆ ต้องรู้จักแยกว่า “ลูกตัวเหลืองแบบไหนยังปกติ” และ “ลูกตัวเหลืองแบบไหนอันตราย” เพราะถ้าปล่อยค่าเหลืองสูงเกินไป อาจเสี่ยงต่อสมองลูกได้เลยทีเดียวค่ะ

 

ค่าเหลืองทารกคืออะไร?

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “ค่าเหลือง” ที่พูดถึงคือระดับ บิลิรูบิน (bilirubin) ในเลือดของลูกน้อยค่ะ

  • บิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายเม็ดเลือดแดง
  • ในผู้ใหญ่ ตับจะทำหน้าที่กำจัดบิลิรูบินได้ปกติ
  • แต่ในทารกแรกเกิด ตับยังทำงานไม่เต็มที่ ทำให้สารนี้ค้างอยู่ในเลือดมากกว่าปกติ  จึงทำให้ผิวและตาลูกออกสีเหลือง

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น

  • ลูกกินนมน้อย จึงขับถ่ายบิลิรูบินออกน้อย
  • แม่กับลูกกรุ๊ปเลือดไม่เข้ากัน ทำให้เม็ดเลือดแดงลูกแตกมากกว่าปกติ
  • คลอดก่อนกำหนด ตับยิ่งยังไม่สมบูรณ์

ค่าเหลืองทารก ปกติเท่าไหร่?

การตรวจค่าเหลืองมักใช้หน่วย มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โดยทั่วไป:

  • < 5 mg/dL ถือว่าปกติ
  • 5–12 mg/dL พบได้บ่อยในทารกช่วง 2–5 วันแรก มักยังไม่อันตราย แต่ต้องติดตาม
  • > 12 mg/dL ต้องระวัง โดยเฉพาะถ้าเกิดใน 24 ชั่วโมงแรก
  • > 20 mg/dL อันตรายสูง เสี่ยงทำให้บิลิรูบินสะสมจนเกิด kernicterus (ทำลายสมอง)

 

คำถามที่แม่ถามบ่อย

  • ค่าตัวเหลือง 12 อันตรายไหม?

โดยทั่วไปยังไม่อันตรายค่ะ แต่ต้องพิจารณาร่วมกับ “อายุวันของลูก” และ “สุขภาพโดยรวม” เช่น ถ้าลูกอายุ 2–3 วัน มีค่าเหลือง 12 มักยังติดตามได้ แต่ถ้าอายุไม่ถึง 24 ชม. และค่าเหลืองขึ้นถึง 12 ต้องรีบตรวจซ้ำค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ค่าตัวเหลือง 15 ต้องนอนโรงพยาบาลไหม?

หลายครั้งคุณหมอจะแนะนำให้นอนเพื่อส่องไฟรักษา เพราะค่าเริ่มเข้าเกณฑ์เสี่ยง โดยเฉพาะถ้าลูกยังเล็กหรือน้ำหนักน้อย

 

ทารกตัวเหลือง อันตรายไหม? ตัวเหลืองแบบไหนที่ควรรีบพบแพทย์

แม่สามารถสังเกตเองที่บ้านได้ค่ะ ถ้าเจออาการเหล่านี้ควรรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที:

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ลูกตัวเหลืองตั้งแต่วันแรกที่คลอด
  • เหลืองเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังอายุ 1 สัปดาห์
  • เหลืองจนเห็นชัดที่ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือดวงตา
  • ลูกซึม ไม่ค่อยตื่น ดูดนมน้อย ร้องเสียงแหลม
  • มีภาวะเสี่ยง เช่น คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักน้อยกว่า 2,500 กรัม หรือเลือดแม่กับลูกเข้ากันไม่ได้ (Rh incompatibility, ABO incompatibility)

 

ทารกตัวเหลือง วิธีแก้และการรักษา

1. การให้นมบ่อย ๆ

วิธีง่ายที่สุดที่แม่ช่วยได้คือ ให้ลูกดูดนมบ่อย ๆ ทุก 2–3 ชั่วโมง เพราะน้ำนมจะช่วยกระตุ้นการขับถ่าย อุจจาระและปัสสาวะจะพาบิลิรูบินออกไป

2. การส่องไฟ (Phototherapy)

การส่องไฟเป็นมาตรฐานที่ใช้ในโรงพยาบาลค่ะ หมอจะวางลูกใต้แสงไฟพิเศษเพื่อเปลี่ยนบิลิรูบินให้ขับออกได้ง่ายขึ้น วิธีนี้ปลอดภัยและได้ผลดี

3. การเปลี่ยนถ่ายเลือด (Exchange transfusion)

ใช้เฉพาะในกรณีที่ค่าเหลืองสูงมากจนเสี่ยงต่อสมอง เช่น > 25 mg/dL

4. ตากแดดช่วยแก้ตัวเหลือง จริงไหม?

หลายบ้านยังเชื่อว่าตากแดดช่วยแก้ตัวเหลือง แต่หมอขอเน้นว่า ยังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่าปลอดภัยหรือได้ผลจริง ปัจจุบันแนวทางสากล เช่น AAP (2022) และ NHS UK ไม่แนะนำให้ตากแดดเป็นการรักษาหลัก

คำถามที่แม่ ๆ มักสงสัย

  • ค่าตัวเหลืองปกติเท่าไหร่? ต่ำกว่า 12 mg/dL มักยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
  • ทารกตัวเหลืองกี่วันหาย? ส่วนใหญ่หายภายใน 1–2 สัปดาห์ ถ้าคลอดก่อนกำหนดอาจนานกว่านี้
  • ถ้าลูกคลอดก่อนกำหนดต้องระวังมากขึ้นไหม? ใช่ค่ะ เพราะตับยังไม่สมบูรณ์ ค่าเหลืองขึ้นง่ายและสูงได้เร็ว
  • ลูกตัวเหลืองส่งผลต่อพัฒนาการระยะยาวหรือเปล่า? ถ้าได้รับการรักษาทันเวลา มักไม่มีผล แต่ถ้าปล่อยจนค่าเหลืองสูงมาก อาจกระทบสมองและพัฒนาการได้

ตัวเหลืองในทารกแรกเกิดเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและส่วนใหญ่ไม่อันตรายค่ะ เพียงแต่เราต้องรู้ว่า:

  • ค่าเหลืองทารก ปกติเท่าไหร่? ต่ำกว่า 12 mg/dL มักยังปลอดภัย
  • สังเกตอาการลูกที่บ้าน เช่น ซึม ไม่ดูดนม หรือเหลืองถึงฝ่ามือฝ่าเท้า
  • ถ้าไม่แน่ใจ ให้รีบพาลูกไปพบหมอเพื่อเช็กและรักษาอย่างถูกต้อง

การให้นมบ่อย ๆ และการติดตามกับกุมารแพทย์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ลูกผ่านช่วงนี้ไปได้อย่างปลอดภัยค่ะ 

 

ที่มา :

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา