โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ คือการใช้ “หลักสูตรมอนเตสซอรี่” ในการเรียนการสอน ซึ่งหลักสูตรนี้เกิดจากการศึกษาค้นคว้าของ มาเรีย มอนเตสซอรี่ เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนโต โดยมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้แบบอิสระ เพื่อให้เด็กได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ตามธรรมชาติ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริง เราไปดูกันว่าเป็นแบบไหน ยังไงบ้าง
หลักสูตรมอนเตสซอรี่ คือแบบไหน ?
การเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่เป็นวิธีการสอนที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างอิสระและมีความสุข ผ่านการสำรวจและทดลองด้วยสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย แตกต่างจากการเรียนแบบเดิมที่เน้นการนั่งฟังครูและท่องจำ โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ ให้เด็กได้เลือกทำกิจกรรมที่สนใจ โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เช่น การจับต้องวัสดุต่างๆ การฟังเสียงดนตรี หรือการสังเกตธรรมชาติ ทำให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็นและเรียนรู้ได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อเด็กได้สำรวจและค้นพบด้วยตนเอง จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองและมีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
5 ปรัชญาและหลักการเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรี่
1.เด็กควรได้รับการยอมรับนับถือ
เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การจัดการศึกษาจึงควรปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและพัฒนาการเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ
2.เด็กมีจิตที่ซึมซับ ในการยอมรับสิ่งใหม่ๆ
จิตใจของเด็กเปรียบเสมือนฟองน้ำที่พร้อมจะซึมซับทุกสิ่งรอบตัว โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรก เด็กจะพัฒนาประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างเต็มที่ การมองเห็น การได้ยิน การลิ้มรส การดมกลิ่น และการสัมผัส ทำให้สามารถเรียนรู้และพัฒนาสมองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3.ช่วงเวลาหลักของชีวิต เพื่อค้นหาตัวเอง
เพราะช่วงเวลาหลักของชีวิตจะอยู่ในช่วงแรกเกิด-6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่สุดของ การพัฒนาทั้งด้านสติปัญญาและจิตใจ เด็กจะมีความสนใจใฝ่รู้ ในช่วงนี้เด็กควรมีอิสระในการเลือกทำกิจกรรมที่ตนสนใจ
4.การเตรียมสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
เด็กจะได้รับการพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด จากการจัดสภาพแวดล้อมที่มีความพร้อมอย่างมีระบบและมีจุดมุ่งหมายเป็นไปตามขั้นตอน โดยมีสื่ออุปกรณ์แบบมอนเตสซอรี่เป็นตัวกำหนดขอบเขต และเพื่อที่เด็กๆ จะสามารถเลือกทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ
5.กระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง
เด็กจะได้เรียนรู้ระเบียบวินัยของชีวิต โดยมีอิสรภาพในการทำงาน มีโอกาสแก้ปัญหาด้วยตนเอง ทำให้เด็กได้ค้นพบตนเอง เรียนรู้ ที่จะรับผิดชอบตนเอง มีความพึงพอใจ และภาคภูมิใจต่อความสำเร็จในการทำงาน เกิดความเชื่อมั่นและเห็นคุณค่าในตนเอง
จุดเด่นและกิจกรรมแนวการสอนใน โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่
แนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่ กิจกรรมต่างๆ เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนรู้ ได้ถูกออกแบบมาให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการใช้ร่างกายและประสาทสัมผัส โดยอุปกรณ์การเรียนที่จัดเตรียมไว้จะช่วยให้เด็กได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งจะกระตุ้นให้เด็กอยากเรียนรู้และค้นพบสิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
1.กลุ่มประสบการณ์ชีวิต (Practical Life)
เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่-เล็ก และกล้ามเนื้อมือ ฝึกตา มือประสานสัมพันธ์ ฝึกการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน ฝึกการดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัว การพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง ฝึกสมาธิในการทำงาน และทำงานได้อย่างต่อเนื่องจนจบ และฝึกระเบียบวินัยในตัวเด็ก สื่อการเรียนในห้องเรียนมอนเตสซอรี่ถูกออกแบบให้ใกล้เคียงกับของใช้ในชีวิตประจำวัน และมีขนาดที่เหมาะสมกับเด็ก ทำให้เด็กรู้สึกคุ้นเคยและสามารถเรียนรู้ได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กอย่างต่อเนื่อง
2.กลุ่มประสาทสัมผัส (Sensorial Materials)
เป็นการฝึกฝนประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างเต็มที่ โดยผ่านอุปกรณ์ที่ฝึกให้เด็กรู้จักสังเกตรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ เด็กควรมีความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างของสิ่งต่าง ๆ ได้ดีก่อนที่จะเรียน เขียนและอ่าน อุปกรณ์ในห้องเรียนมอนเตสซอรี่ เช่น หอคอยสีชมพู, กล่องเสียง, และทรงกระบอก ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสและพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น การสังเกต, การเปรียบเทียบ, และการแก้ปัญหา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น
3.กลุ่มวิชาการ (Academic Materials)
การเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์ของห้องเรียนแบบมอนเตสซอรี่ เป็นการปูพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้กับเด็ก โดยเริ่มจากการเรียนรู้ผ่านวัตถุจริง เช่น ตัวเลข ตัวอักษร หรือพืช เพื่อให้เด็กเข้าใจแนวคิดพื้นฐานก่อนที่จะก้าวไปสู่การเรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น โดยทั่วไปแล้วเด็กในห้องเรียนแบบมอนเตสซอรี่ที่มีอายุระหว่างอายุ 4 และ 5 ขวบ จะสามารถอ่าน เขียน และคิดคำนวณได้ อุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนของมอนเตสซอรี่ครอบคลุมทั้งด้านภาษาและคณิตศาสตร์ เช่น แผ่นภาพโลหะสำหรับฝึกการเขียน อักษรเคลื่อนที่สำหรับสร้างคำ ลูกปัดหลักเลขสำหรับเรียนรู้ตัวเลข และบัตรตัวเลขกระดาษทรายสำหรับการนับ ทำให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรงและวัตถุที่หลากหลาย
ข้อดีของ โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่
การสอนแบบมอนเตสซอรี่ เน้นการสอนให้เด็กเติบโตได้อย่างมีอิสระ และเป็นธรรมชาติ ค้นพบด้วยตนเอง ซึ่งมีข้อดีดังนี้
- เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน การเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่ส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น โดยเฉพาะเด็กวัยต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์กัน ทำให้เด็กได้เรียนรู้การแบ่งปัน การรอคอย และการเคารพสิทธิของผู้อื่น
- เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน ในห้องเรียนมอนเตสซอรี่ที่เด็กหลายวัยเรียนร่วมกัน เด็กโตจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆ โดยการช่วยเหลือ สาธิตวิธีการทำงาน และแบ่งปันความรู้ ซึ่งส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้ออาทรและช่วยกัน
- ไม่มีการเปรียบเทียบ การเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่ส่งเสริมให้นักเรียนแต่ละคนได้เรียนรู้ตามความสนใจของตนเอง โดยไม่มีการเปรียบเทียบกับผู้อื่น เนื่องจากเด็กทุกคนมีความสนใจและความสามารถที่แตกต่างกัน
- สนุกกับการเรียน การเรียนแบบมอนเตสซอรี่เปิดโอกาสให้เด็กแต่ละคนได้เรียนรู้ในความสามารถของตนเอง เด็กที่เรียนรู้ได้เร็วจะได้ก้าวไปข้างหน้าได้ก่อนเพื่อน ทำให้เด็กมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ตลอดเวลา
- มีสมาธิมากขึ้น เมื่อเด็กได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตนเองสนใจอย่างแท้จริง เด็กจะมีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมนั้นๆ ได้นานขึ้น เนื่องจากความอยากรู้อยากเห็นเป็นแรงผลักดันให้เด็กตั้งใจเรียนรู้ ซึ่งส่งผลให้เด็กมีสมาธิในการเรียนรู้สูงขึ้น
- มีบุคลิกภาพที่ดี เด็กที่ได้รับการศึกษาใน โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ มักจะมีบุคลิกภาพที่โดดเด่น เช่น กล้าตัดสินใจ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง และมีความรับผิดชอบสูง ช่วยพัฒนาเด็กให้เป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตนเอง มีทักษะในการเข้าสังคมที่ดี และมีทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนรู้
10 โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ ในกรุงเทพและปริมณฑล
วันนี้เรามาแนะนำ 10 โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกันเบื้องต้นค่ะ
1.โรงเรียนอนุบาลนานาชาติคาซ่า แบมบิโน
เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น Nursery – Casa 3 โดยเน้นที่การเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ความอยากรู้อยากเห็น ความนับถือตนเอง สมาธิ และความเป็นอิสระ โดยใช้แนวทางที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลางและลงมือปฏิบัติจริง สนับสนุนการพัฒนาความมั่นใจในตนเอง จินตนาการ อิสระทางสติปัญญา และประสิทธิภาพในตนเอง
ข้อมูล : casa bambino
2.โรงเรียนกรแก้วมอนเตสซอรี่
ปัจจุบันมี 2 วิทยาเขต คือวิทยาเขตดุสิต และวิทยาเขตอารีย์ เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ Nursery – อนุบาล 3 ที่โรงเรียนจะเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนและครอบคลุม ซึ่งตอบสนองความต้องการด้านพัฒนาการเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน ส่งเสริมประสบการณ์การศึกษาเชิงบวกและเสริมสร้างคุณค่าให้กับเด็ก
ข้อมูล : kornkaew
3.โรงเรียนอนุบาล 3 ภาษา บ้านต้นไม้
โรงเรียนอนุบาล 3 ภาษาบ้านต้นไม้ เป็นโรงเรียนอนุบาลขนาดเล็ก เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับ Toddlers – K3 แนวการเรียนการสอนในเชิง “ปฏิบัติจริง” และมีการประเมินผล เป็นรายบุคคล ที่สำคัญ โรงเรียนจะสามารถดึงความสามารถที่โดดเด่นของนักเรียนแต่ละคนได้ เราสามารถพัฒนาทักษะต่างๆ ของนักเรียนแต่ละบุคคลได้
ข้อมูล : Baantonmai
4.โรงเรียนอนุบาลนานาชาติเพรพ
ปัจจุบันมี 2 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตสุทธิสาร และ วิทยาเขตลาดพร้าว เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับ Nursery – K3 ยึดหลักการสอนโดยเน้นที่เด็กเป็นศูนย์กลาง ช่วยให้เด็กมีอิสระในการเลือกสิ่งที่จะทำและส่งเสริมการเข้าสังคมในการเรียนรู้ นอกจากนี้ยังยึดหลักประเพณีมอนเตสซอรีในการให้เด็กทุกช่วงวัยเรียนรู้ร่วมกัน โดยทำงานที่ช่วยเพิ่มสมาธิและส่งเสริมการเรียนรู้แบบอิสระและเชิงลึก
ข้อมูล : prep.co.th
5.โรงเรียนสาธิตปทุม
เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาล-ประถมศึกษา สร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่ดียึดหลักการเรียนรู้แบบเน้นปฏิสัมพันธ์ผ่านกิจกรรม โดยมีการใช้หลักสูตรที่ใช้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ควบคู่กับมอนเตสซอรี่ นอกจากนี้โรงเรียนยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับผู้ปกครอง เพื่อประโยชน์และการพัฒนาสูงสุดของนักเรียน
ข้อมูล : Sathitpathum
6.โรงเรียนนานาชาติ Montessori Academy Bangkok International School (MABIS)
เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับ Toddlers – Grade 12 เป็นโรงเรียนนานาชาติที่เปิดสอนด้วยหลักสูตรมอนเตสซอรี่ โดยใช้ภาษาอังกฤษ ไทย และจีน ในการเรียนการสอน เน้นการใช้ชีวิตอย่างกลมกลืนและสมดุลกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาความเป็นอิสระ ความมีไหวพริบ และความเป็นอิสระทางกายภาพ สติปัญญา และสังคม
ข้อมูล : montessoribkk
7.ศูนย์มอนเตสซอรีนานาชาติ กรุงเทพฯ The International Montessori Centre (IMC)
เปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 2-6 ปี ระดับ Pre-School – K3 เป็นหนึ่งในโรงเรียนมอนเตสซอรีที่ก่อตั้งมายาวนานที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เราผสมผสานวิธีการสอนแบบมอนเตสซอรีเข้ากับการศึกษาทั่วไปเพื่อเสนอการศึกษาแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาความเป็นปัจเจก ความคิดสร้างสรรค์ และการแสดงออกของเด็ก ด้วยโปรแกรมทั้งหมดของโรงเรียนที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และภาษาจีน หลักสูตรจะเต็มไปด้วยศิลปะ งานฝีมือ ดนตรี และความสนุกสนาน กลายเป็นสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและสนุกสนานให้เด็กๆ
ข้อมูล : ศูนย์มอนเตสซอรี่นานาชาติ กรุงเทพฯ
8.โรงเรียนสมบุญวิทย์
เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น Toddlers – K3 เปิดการเรียนการสอนโดยใช้การประยุกต์หลักสูตรมอนเตสซอรี่ให้เข้ากับบริบทของสังคมไทย โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นคนรู้จักคิด, สำรวจตรวจสอบ, ค้นคว้าและลงมือปฏิบัติเอง อย่างมีสมาธิและเหตุผล นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาษาอังกฤษ, ไทย และจีน ในการเรียนการสอนอีกด้วย
ข้อมูล : Sombunwit
9.โรงเรียนอนุบาลยุวมิตร
เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่เปิดการเรียนการสอนแบบบูรณาการร่วมกับหลักสูตรมอนเตสซอรี่ และยังมีการเปิดรับนักเรียนเด็กพิเศษเข้าร่วมชั้นเรียนปกติอีกด้วย เปิดรับนักเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล – อนุบาล 3 เน้นการเล่นเข้ากับการเรียน เพื่อเสริมสร้างสมอง สร้างทักษะสังคม สอนให้เคารพกติกา สร้างความรู้ เด็กต้องเล่น งานหลักของเด็กคือเล่น โรงเรียนจึงให้ความสำคัญกับการเล่น ไม่ว่าจะเล่นที่สนาม มุมเล่นอิสระในห้องเรียน เล่นเกมการศึกษาและบูรณาการ
ข้อมูล : yuwamit
10.โรงเรียนอนุบาลวาดฝัน
การเรียนการสอนของโรงเรียนจะช่วยเสริมสร้างให้เด็กเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ เด็กนักเรียนของ โรงเรียนอนุบาลวาดฝัน จึงจะได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน เสริมสร้างทักษะกระบวนการคิดจากธรรมชาติและสิ่งต่างๆรอบตัว เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาล – อนุบาล 3
ข้อมูล : baanwadfunkindergarten
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ โรงเรียนแนวมอนเตสซอรี่ ที่ได้แนะนำไป การเรียนการสอนจะเน้นเรื่องการปลูกฝังให้เด็กเป็นผู้เรียนรู้ที่กระตือรือร้น โดยให้เด็กได้เลือกเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตนเองผ่านกิจกรรมที่น่าสนใจและสอดคล้องกับความสนใจของเด็กแต่ละคน การได้ลงมือปฏิบัติจริงและการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ทำให้เด็กเกิดความเข้าใจและจดจำได้ดีขึ้น เมื่อเด็กได้เรียนรู้และค้นพบสิ่งใหม่ๆ ด้วยตัวเอง จะส่งผลให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสุขกับการเรียนรู้ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะต่างๆ ทั้งด้านสติปัญญา อารมณ์ และสังคม ซึ่งหลักสูตรการสอนแบบมอนเตอซอรี่เราจึงแนะนำไว้เป็นตัวเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่สำหรับลูกน้อยค่ะ
ที่มา : SpeakUp Language Center , Owl Campus , สมาคมโรงเรียนมอนเตสซอรี่ ประเทศไทย , ปฐมวัยไทยแลนด์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ค่าเทอม 15 โรงเรียนอนุบาลในกรุงเทพฯ แอบเล็งที่ไหนไว้มาดู Guideline กัน
รวมค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติ 10 อนุบาลอินเตอร์ 2024/2025
รวมค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติประถม ลูกเซเลบคนดัง เรียนที่ไหนกันบ้าง