แม่บ้านเอามือเด็กไปนาบกระทะ แม่บ้านสุดโหด แอบทำร้ายเด็กตอนพ่อแม่ไม่อยู่

แม่บ้านเอามือเด็กไปนาบกระทะ แม่บ้านสุดโหด แอบทำร้ายเด็กตอนพ่อแม่ไม่อยู่

แม่บ้านเอามือเด็กไปนาบกระทะ ในตอนที่พ่อแม่กลับไปทำงาน คงจะมีความกังวลหลายอย่างที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อต้องกลับไปทำงานเต็มตัว เรื่องแรกสุดที่เข้ามาในหัวเลยก็คือ ใครจะเป็นคนดูแลลูก หลายครอบครัวอาจจะไม่สามารถ อยู่บ้านเลี้ยงลูกคนเดียวได้ เพราะจำเป็นจะต้องกลับไปทำงานทั้งคู่ บางบ้านอาจจะฝากญาติพี่น้องได้ แต่บางบ้านก็อาจจะต้องใช้พี่เลี้ยงเด็ก

สิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง จะกังวลตามมาเป็นขั้นต่อไปก็คือ แม่บ้าน หรือ พี่เลี้ยงเด็กคนนั้นสามารถไว้ใจได้แค้ไหน มันเป็นเรื่องที่เดาได้ยาก และ ไม่อาจจะรู้ได้ทันที ว่าใครคนใดคนหนึ่ง จะรู้สึกอะไรอยู่ข้างใน ถ้าได้พี่เลี้ยงที่ดีก็โล่งอก แต่ถ้าเจอคนไม่ดี อาจจะต้องเจอเหตุการณ์คล้ายแบบนี้

เรื่องเกิดเมื่อสัปดาห์ก่อน

แม่บ้านท่านหนึ่ง โดนจับ หลังจากที่ ลูกของเจ้านาย มีแผลเหมือนแผลไหม้ที่มือข้างซ้าย ตำรวจเข้าจับแม่บ้านคนนี้เมื่อวันที่ 22 มกราคม หลังจากที่ได้รับแจ้งว่า มีเด็กถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ Block 992B Buangkok Link ในประเทศ สิงคโปร์ ผู้ต้องหา เป็นหญิงอายุ 30 ปี

พ่อของเด็กทารกผู้เคราะห์ร้าย ที่มีอายุแค่เพียง 16 เดือน บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดผ่าน สำนักข่าวจากประเทศจีน 8World เขาขอที่จะไม่เปิดเผยชื่อของตนแต่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ให้สำนักข่าวฟังแทน

ลูกสาวคนโตเป็นคนโทรบอกเขา

คุณพ่อบอกว่าเขารู้เรื่องเมื่อวันอังคารก่อนหน้า เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวคนโต อายุ 8 ขวบ บอกว่า เธอได้ยินน้องสาวของตนร้องไห้อย่างหนัก และ ถูกผิวไหม้ คุณพ่อบอกกับลูกสาวว่า ให้รอเขากลับไปบ้าน และ เขาจะเป็นคนไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ลูกสาว แต่หลังจากที่เวลาผ่านไป 10 นาที ลูกสาวคนเล็ก ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้อง คุณพ่อเลยตัดสินใจ รีบกลับบ้านทันที ตอนที่เขาถึงบ้านเขาตกใจมาก เพราะมันน่ากลัวกว่าที่เขาคาดไว้ แผลนั้น เป็นแผลไหม้ที่รุนแรง

เขารีบพาลูกไปรักษาทันที

เมื่อเห็นแผลที่รุนแรง เขาเลยรีบพาลูกไปโรงพยาบาลทันที โรงพยาบาล KK Women's and Children's Hospital บอกว่านี่คือแผลไฟไหม้ขั้นที่อันตรายมาก ทางโรงพยาบาล ต้องนำหนูน้อย ไปเข้าการรักษาทันที

เขาอธิบายถึงแผลว่า มันเป็นสะเก็ด และ มีผิวหนังตามอยู่ที่บริเวณ มือซ้าย เธออาจจะต้องมีการผ่า หรือลอกหนัง เพื่อไม่ให้การไหม้สง่งผลกับการเคลื่นไหวของเธอในอนาคต ในวันต่อมา ในขณะที่คู่สามีภรรยากำลังจะพาลูกสาวคนโตไปส่งทีโรงเรียนพวกเขาก็เห็นแม่บ้านกำลังเก็บของลงกระเป๋า

เธอบอกกับผู้เป็นเจ้าของบ้านทั้งสองว่า เธออยากกลับบ้านเกิด เธอไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว ตัวคุณพ่อไม่ได้คิดอะไร แต่ตัวคุณแม่นั้นเริ่มสงสัยอะไรบ้างอย่างจึงเข้าไปดูกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อหาความจริง

กล้องวงจรปิดบอกทุกอย่าง

เมื่อทั้งคู่ตัดสินใจหาหลักฐานโดยการใช้กล้องวงจรปิด เพราะเขาก็ตกใจมาก และ ปิดวีดีโอลงทันที เพราะมันโหดร้ายจนพวกเขาไม่สามารถรับได้

วีดีโอเหตุการณ์ครั้งนี้ถูกแชร์ไปในอินเตอร์เน็ต โชว์ให้เห็นภาพ ผู้หญิงคนหนึ่งเอามือเด็กไปนาบ หม้อที่ตั้งอยู่บนเตาที่มีความร้อน เมื่อเห็นวีดีโอเรียบร้อย พ่อแม่จึงไปแจ้งตำรวจให้จับแม่บ้านทันที

วิธีการเลือกพี่เลี้ยง ที่จะมาดูแลลูก จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง?

เราเชื่อว่าหลังจากที่มีข่าวไม่ค่อยดีเกี่ยวกับพี่เลี้ยงออกมาให้เห็นกันตามหน้าหน้งสือพิมพ์ไม่เว้นแต่ละวัน คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองอาจจะมีความกังวลใจอยู่มากพอสมควร แต่ในความเป็นจริงแล้วพี่เลี้ยงก็ยังมีความจำเป็นอยู่สำหรับ คุณแม่บางคน พี่เลี้ยงที่คอยเลี้ยงดูจนสนิทสนมกับลูกคอยดูแลลูกจนโตก็มีให้พบเห็นมากมาย หลายต่อหลายคน เราเลยเชื่อว่ายังมีพี่เลี้ยงดีๆหลงเหลืออยู่แน่ๆหล่ะ เราจะมาดูกันว่า วิธีการเลือกพี่เลี้ยง มีอะไรบ้าง? เราจะต้องดูที่อะไรบ้างว่าพี่เลี้ยงคนนี้เหมาะกับลูก และครอบครัวของเราหรือไม่ ละหน้าที่เขาเป็นอะไรบ้าง

ประชุมกันในบ้าน

ก่อนที่ผู้ปกครองจะเริ่มหาพี่เลี้ยง คุณพ่อ คุณแม่ หรือ คุณลูก อาจจะต้องมานั่งคุยกันก่อนว่า อยากให้พี่เลี้ยงแบบไหน อยากให้เขาทำอะไรบ้างมีหน้าที่มากแค่ไหน จะให้เลี้ยงลูกช่วงไหนบ้าง ให้มาเป็นเวลาหรืออยู่ที่บ้านเลย จะให้ดูแลแค่ส่วนไหนหรือพ่วงเป็นแม่บ้านด้วย ค่าใช้จ่ายที่เราโอเค อยากได้คนที่มีประสบการณ์ด้านไหนเป็นพิเศษหรือไม่ อยากให้พี่เลี้ยงมีช่วงอายุเท่าไหร่ คนในบ้านต้องตกลงกันก่อนเพื่อเวลาที่จะเลือกจริงๆจะได้ไอเดียอยู่ในหัว ลองทำลิสขึ้นมาเพื่อที่ว่าเวลามีพี่เลี้ยงมาสมัครงานเราจะได้สัมภาษณ์เขาถูกจุด

วิจัย สังเกต ไถ่ถาม

ขั้นต่อมาก็คือผู้ปกครอง ควรสอบถามคนใกล้ชิดก่อนว่ารู้จักใครที่พอจะแนะนำได้หรือไม่ เพราะเพื่อนสนิท หรือ ญาติอาจจะมีคนที่คุ้นเคยและเป็นคนที่ไว้ใจด้วยอยู่ก่อนแล้ว เขาสามารถแนะนำเราได้ว่าใครโอเค ใครไม่โอเค คนนี้มีลักษณะอย่างไร จะเข้ากับเราได้หรือไม่ ไม่ควรประกาศผ่านทางออนไลน์เนื่องจากว่าประเทศไทยไม่ได้มีระบบอะไรที่รัดกุมและตรวจสอบได้เท่าในต่างประเทศ และวงการพี่เลี้ยงนั้นไม่ได้แพร่หลายมาก ทำให้การประกาศทางออนไลน์ดูจะน่ากลัวไปสักนิดสำหรับในบ้านเรา เพราะฉะนั้นการถามจากคนใกล้ตัวจึงเป็นอะไรที่ปลอดภัยมากกว่า

สัมภาษณ์

ลองสัมภาษณ์และสอบถามคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงดูถึงสิ่งที่คุณอยากจะรู้ ให้ได้มากที่สุด และถ้ามีคนสมัครเยอะ เราแนะนำให้คุณพบกับพวกเขาให้หมดทุกคน คุณไม่รู้หรอกว่าใครจะคลิ๊กกับคุณมากที่สุด สิ่งที่คุณต้องถามก็คือ พี่เลี้ยงคนนั้นมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมามากน้อยแค่ไหน คุ้นเคยกับเด็กช่วงอายุไหนเป็นพิเศษหรือไม่ บางครั้งพี่เลี้ยงบางคนอาจจะตอบคำถามที่คุณอยากจะได้ยินทุกอย่าง แต่พอให้ไปเล่นกับลูกเขาหรือเธออาจจะไม่คุ้นชินกับเด็กเท่าไหร่ คุณอาจจะให้ลูกเล่น หรือมาพูดคุยกับลูกของคุณบ้างเพื่อที่จะดูว่าเธอคุ้นเคย และพอจะสนิทกับเด็กได้หรือไม่

ทดลองงาน

คุณควรให้พี่เลี้ยงทดลองงานดูก่อน การทดลองงานจะช่วยให้เราได้รู้ว่าเมื่อพี่เลี้ยงจะต้องมาทำงานกับที่บ้านเราจริงๆแล้วนั้น จะทำได้จริงหรือไม่ และเข้าขากับพ่อแม่ได้มากแค่ไหน คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าคนที่คุณจะทำงานด้วยได้เพียงแค่จากการสัมภาษณ์แค่เพียงไม่กี่นาที ถ้าคุณเจอพี่เลี้ยงที่คุณคิดว่าใช่แล้วให้เขาได้ลองมาปฏิบัติงานที่บ้านดูว่าเขาจะเข้ากับลูกได้ดีขนาดไหน พูดจากับลูกยังไง ทำงานตามที่ผู้ปกครองตั้งความหวังไว้หรือไม่ เมื่อผู้ปกครองพบว่าพี่เลี้ยงคนนั้นทำงานดีก็ให้เริ่มงานจริงได้เลย ในกรณีที่เราอยากให้พี่เลี้ยงทำหน้าที่ควบเป็นแม่บ้านหรือแม่ครัวด้วย เราก็อาจจะต้องสังเกตดู เขาทำความสะอาดได้สะอาดเรียบร้อยมั๊ย ทำอาหารรสชาติเป็นอย่างไร

อย่างที่เคยบอกไปตรงก่อนหน้านี้ว่าการเลือกพี่เลี้ยง เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเขาหรือเธอต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับลูกเราตลอดเวลา รวมถึงเวลาที่ผู้ปกครองอาจจะไม่ได้อยู่ในบ้านด้วย ถ้าเราเลือกพี่เลี้ยงได้ดี เขาหรือเธอจะเป็นคนช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดีและอาจจะเหนื่อยน้อยลงด้วย

Source : channelnewsasia

บบทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

หยอกล้อเด็ก แหย่เด็ก พฤติกรรมสนุกของผู้ใหญ่ แต่ทำร้ายเด็กไม่รู้ตัว!!

พี่เลี้ยงใจยักษ์! ทำร้ายเด็กจนกระดูกร้าวแล้วไม่รับผิดชอบ!

แม่บ้านขี้อิจฉา วางยาเด็กแรกเกิด ผสมนมกับผงซักฟอกหวังฆ่าเด็ก