แนะนำ 10 คาร์ซีทงบประหยัด ปี 2023 ราคาดี มีคุณภาพ คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี?

คาร์ซีท เป็นไอเท็มที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับคุณแม่ลูกเล็ก แม้ว่าส่วนใหญ่คาร์ซีทจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็รับประกันได้ว่ามีไว้ดีกว่าไม่มีแน่นอนค่ะ เพราะคาร์ซีทเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยซัพพอร์ทลูกน้อย หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น และต้องบอกว่าคาร์ซีทช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ และช่วยลดอาการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ วันนี้ TheAsianparent จะพาแม่ ๆ ไปดู “คาร์ซีทงบประหยัด" คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี งบไม่เกิน 5,000 บาท ก็สามารถซื้อความปลอดภัยให้ลูกได้แล้ว จะมียี่ห้อไหน รุ่นไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

คาร์ซีทมีกี่ประเภท และแต่ละประเภทควรติดตั้งยังไง

1. คาร์ซีทสำหรับทารก (Infant car seat)

เป็นคาร์ซีทขนาดเล็ก สามารถพกพาไปไหนได้สะดวก บางรุ่นสามารถใช้งานร่วมกับรถเข็นได้ เพราะดีไซน์มาให้มีที่จับด้านบนคล้ายตะกร้าทำให้หิ้วไปมาเคลื่อนย้ายได้ง่าย มาพร้อมกับฐานติดตั้งคาร์ซีทในรถยนต์ 

• น้ำหนักที่เหมาะสม: น้ำหนักไม่เกิน 22 – 40 ปอนด์ (lbs) หรือ 10 – 18 กิโลกรัม (kg) ขึ้นอยู่กับรุ่น
• การติดตั้ง: หันหน้าไปทางด้านหลัง (ทารกหันหน้าเข้าเบาะนั่ง)
• เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนคาร์ซีท: เมื่ออายุประมาณ 9 ถึง 18 เดือน หรือตัวลูกมีขนาดตัวโตกว่าคาร์ซีทประเภทนี้แล้ว

2. คาร์ซีทแบบปรับเปลี่ยนได้ (Convertible car seat)

เพราะเด็กต้องเติบโตและสูงขึ้น คาร์ซีทแบบปรับเปลี่ยนได้จึงช่วยให้เด็กนั่งได้สบายและใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น เพราะคาร์ซีทแบบนี้จะสามารถปรับการใช้งานได้ตามขนาดตัวของเด็ก 

• น้ำหนักที่เหมาะสม: โดยปกติอยู่ที่ 40 – 60 ปอนด์ (lbs) หรือ 18 – 27 กิโลกรัม (kg)
• การติดตั้ง: ติดตั้งได้ 2 รูปแบบ ตามช่วงอายุของเด็ก คือ 
  • • Rear-facing – แบบหันหน้าไปทางด้านหลัง (ทารกหันหน้าเข้าเบาะนั่ง)
    • Forward-facing – แบบหันหน้าออกไปด้านหน้า (ทารกหันหน้าออกจากเบาะนั่งเหมือนผู้ใหญ่)

• เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนท่านั่ง (จากหันหน้าเข้าเบาะไปเป็นหันหน้าออกจากเบาะ): จนกว่าลูกน้อยจะมีความสูงหรือน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ของคาร์ซีทแต่ละรุ่นกำหนด โดยปกติจะอยู่ที่อายุประมาณ 2 ขวบ 

3. คาร์ซีทแบบหันหน้าออกไปด้านหน้า (Forward-Facing Car Seats)

เมื่อเด็กโตขึ้น คาร์ซีทที่เหมาะสมจะเป็นแบบหันหน้าไปออกข้างหน้าเหมือนผู้ใหญ่ค่ะ คาร์ซีทแบบนี้มักจะมาพร้อมกับสายรัดนิรภัยแบบห้าจุด ทำให้รัดกระชับพอดีตัวลูกน้อยมากขึ้น ทั้งยังมีแบบมีพนักพิงสูงและ/หรือไม่มีพนักพิงด้วย ซึ่งแตกต่างจากคาร์ซีทแบบอื่น ๆ ทั้งยังไม่เหมาะสำหรับติดตั้งแบบหันหน้าเข้าเบาะ คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังเรื่องนี้นะคะ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้

• การติดตั้ง : หันหน้าออกไปทางด้านหน้า
• เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนไปนั่งเบาะเสริม : เด็กต้องมีอายุอย่างน้อย 5 ขวบ

4. คาร์ซีทแบบ 3-in-1 (All-in-one car seat)

คาร์ซีทแบบ 3-in-1 เป็นคาร์ซีทที่สามารถใช้งานได้ 3 รูปแบบ เรียกว่าซื้อครั้งเดียวใช้งานได้ยาว ๆ เลยค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมเช็กว่าเด็กสามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ เพราะคาร์ซีทแบบนี้มักมีขนาดใหญ่ซึ่งอาจไม่เหมาะกับทารกเท่าไร่นัก

• การติดตั้ง : 3 รูปแบบ 
  • Rear-facing – แบบหันหน้าไปทางด้านหลัง 
  • Forward-facing – หันหน้าออกไปทางด้านหน้า
  • Booste – แบบเบาะเสริม
• เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนไปนั่งเบาะเสริม : เด็กต้องมีอายุอย่างน้อย 5 ขวบ

5. คาร์ซีทแบบเบาะนั่ง (Booster seat)

เบาะเสริมออกแบบมาเพื่อให้เด็กสามารถนั่งคาดเข็มขัดได้ขนาดพอดีตัว เหมาะสำหรับเด็กโตที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าคาร์ซีทแบบหันหน้าออกไปข้างหน้า

• เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนไปนั่งคาดเข็มขัดแบบผู้ใหญ่: ประมาณ 145 ซม. อายุประมาณ 8 – 12 ปี
• หรือตามคำแนะนำด้านล่าง

วิธีเช็กว่าลูกพร้อมที่จะนั่งคาดเข็มขัดแบบผู้ใหญ่แล้วหรือไม่

1. เมื่อลูกนั่งบนเบาะรถยนต์อย่างสบาย โดยที่เข่าพอดีกับขอบที่นั่ง
2. สามารถนั่งเอนหลังพิงเบาะโดยที่ไม่มีช่องว่างที่หลังได้ตลอดทาง 
3. เข็มขัดคาดมายังบริเวณเอว ผ่านสะโพก และส่วนบนของต้นขาไม้อย่างพอดี
4. สายคาดไหล่อยู่ที่บริเวณกระดูกไหปลาร้า
5. โตพอที่จะนั่งและคาดเข็มขัดได้ถูกต้อง

ทำไมพ่อแม่ถึงควรให้ลูกนั่งหันหน้าเข้าเบาะให้นานที่สุด

American Academy of Pediatrics ได้ระบุว่า เด็กอายุที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ มีโอกาสบาดเจ็บสาหัสน้อยกว่า 90% เมื่อนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังจนถึงอายุขั้นต่ำ 2 ขวบ เนื่องจากร่างกายของเด็กวัยหัดเดินยังคงพัฒนาอย่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนศีรษะที่มีขนาดใหญ่กว่าร่างกาย อีกทั้งกระดูกสันหลังของเด็กยังไม่แข็งแรงมากพอ จึงเสี่ยงต่ออาการบากเจ็บที่รุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่ค่ะ

วิธีการเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูก

1. เบาะคาร์ซีท : รถยนต์มีหลายยี่ห้อ มีความกว้างที่ต่างกัน คาร์ซีทก็มีหลายขนาด หลายรูปทรงเช่นเดียวกัน บางรุ่นมีขนาดกว้าง หรือบางรุ่นแคบ พ่อแม่ต้องเลือกให้คาร์ซีทเหมาะสมกับช่วงวัยของลูกน้อย
2. น้ำหนักและความสูงที่สามารถรองรับได้สูงสุด : คาร์ซีทแต่ละตัวจะออกแบบมาให้เหมาะกับขนาดสรีระของร่างกายเด็ก จึงมีการกำหนดขนาดของความสูง และน้ำหนักของเด็ก เพราะฉะนั้นก่อนซื้ออย่าลืมเช็กดูว่าคาร์ซีทที่สนใจว่าเหมาะกับช่วงตัวและน้ำหนักของลูกหรือไม่ และสามารถใช้ได้จนถึงอายุหรือน้ำหนักเท่าไหร่ เพื่อความปลอดภัยของเด็กในระหว่างเดินทางบนท้องถนน
3. วัสดุของคาร์ซีทที่ใช้ : สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือ ความทนทาน ถัดมาควรดูว่าคาร์ซีทสามารถถอดซัก หรือเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายหรือไม่ เพราะความสะอาดก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้ความปลอดภัย
4. อุปกรณ์เสริมด้านความปลอดภัย : เข็มขัดนิรภัยเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดบนคาร์ซีทสำหรับลูกเด็ก พ่อแม่ควรเลือกเข็มขัดที่กระชับพอดีตัว หากเป็นไปได้ควรเลือกเข็มขัดแบบ 5 จุด เพราะมีความปลอดภัยสูง และอาจดูว่าคาร์ซีทรุ่นใดที่ออกแบบเพื่อรองรับแรงกระแทกรอบด้านหรือไม่ อีกทั้งควรมีการรับรองมาตรฐานด้วย
5. การป้องกันแรงกระแทกด้านข้าง : หากพ่อแม่ต้องการเลือกคาร์ซีทที่ช่วยปกป้องลูกสูงสุด อาจเลือกตัวคาร์ซีทที่เสริมชั้นโฟมรอบศีรษะด้วย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
6. หากชอบบินบ่อย ๆ – ควรเลือกคาร์ซีทที่ผ่านการรับรองจากเครื่องบินโดยเฉพาะ จะได้ช่วยให้การเดินทางบนเครื่องบินสะดวกสบายยิ่งขึ้น

สามารถซื้อคาร์ซีทมือสองได้มั้ย? มีคำแนะนำอย่างไร

พ่อแม่หลายคนต้องการประหยัดเงินไม่อยากซื้อของใหม่ หรืออยากใช้ของเดิมที่เคยใช้กับคนพี่ หรือมีเพื่อน ๆ หรือญาติ ๆ ให้มา เพราะของใช้หลายอย่างพ่อแม่บางคนอาจได้รับการส่งต่อ ความจริงแล้วเด็กก็สามารถใช้คาร์ซีทมือ 2 ได้เช่นกันค่ะ เพราะว่าเด็กโตเร็ว บางคนใช้แล้วของยังดูใหม่อยู่เลย โดยเฉพาะคาร์ซีมสำหรับทารกที่ใช้ได้ไม่ถึงปีก็เปลี่ยนแล้ว 

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ควรเช็กสภาพของคาร์ซีทก่อนว่ามีสภาพสมบูรณ์ ไม่มีการชำรุดเสียหาย สายคาดรัดเข็มขัดกระชับ ไม่ย้วย ตัวฐาน ตัวล็อคแน่นหนา ยังใช้งานได้ดี และควรเช็กว่า คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี คาร์ซีทที่ซื้อมานั้นมีอายุการใช้งานเท่าไหร่ เราแนะนำว่าไม่ควรใช้คาร์ซีทที่มีอายุเกินกว่า 6 ปี เพราะอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กได้ค่ะ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีท

1. เข็มขัดนิรภัย : พ่อแม่ควรสังเกตว่า เข็มขัดรัดแน่นพอหรือไม่ และควรอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ส่วนสายเข็มขัดไม่ควรมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
2. คาร์ซีทต้องมีขนาดพอดีกับลูกน้อย : คาร์ซีทมีข้อจำกัดในเรื่องของน้ำหนักและส่วนสูง หากพ่อแม่สังเกตว่าลูกเริ่มตัวใหญ่กว่าคาร์ซีท อย่าเสียดาย! ให้เปลี่ยนทันที สำหรับข้อสังเกตง่าย ๆ คือ ลูกน้อยควรมีระยะห่างระหว่างศีรษะกับขอบส่วนบนของเบาะประมาณ 1 นิ้ว หากลูกมีส่วนสูงมากกว่านี้แนะนำให้ลูกใช้คาร์ซีทที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
3. ตำแหน่งการวางคาร์ซีท : การติดตั้งคาร์ซีทมีความสำคัญมาก พ่อแม่ควรตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรติดคาร์ซีทในตำแหน่งจุดกึ่งกลางดีที่สุด เพราะปลอดภัยที่สุด

10 คาร์ซีทงบประหยัด แบงค์พันห้าใบมีทอน คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี?

1. Baby Car Seat คาร์ซีทสำหรับแรกเกิด – 15 ปี

คาร์ซีทได้รับมาตรฐานจาก CE

คาร์ซีทตัวนี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงขวบนิด ๆ ตัวนี้แม้จะไม่มียี่ห้อ แต่การันตีด้วยมาตรฐานการรับรอง CE มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยในมาตรฐานระดับสากล ให้แม่ ๆ ได้อุ่นใจ ปลอดภัยหายห่วง

คาร์ซีทตัวนี้มีมาให้เลือกถึง 3 สี สีคอฟฟี่ สีม่วง และสีแดง เป็นตัวที่สามารถพกพาและเคลื่อนย้ายได้ง่าย แถมยังสามารถเปลี่ยนเป็นเปลโยกได้ด้วย มีหลังคาบังแสง กันแดด กันฝนได้ ถ้าคุณแม่ไม่ต้องการใช้ ก็แค่พับเก็บไปด้านหลัง อเนกประสงค์ขนาดนี้ ราคาเท่านี้ คุ้มค่าแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 15 เดือน (น้ำหนักไม่เกิน 13 กิโลกรัม)
• สามารถซื้อตัวเสริม ทำเป็นรถเข็นเด็กได้
• โครงสร้างทำจากเหล็ก แข็งแรงมาก ๆ
• ล้อทำจากโฟมยาง EVA ยึดเกาะได้ดี
• มีให้เลือก 3 สีตามใจชอบ
• มีการันตีความปลอดภัยระดับสากล
• พกพา เคลื่อนย้ายได้สะดวก
• มีที่บังแดด กันฝน พับเก็บเมื่อไม่ใช้ได้

ราคา 1,399 บาท (เสริมโครงรถเข็น 799 บาท)

2. DODOLOVE Car Seat คาร์ซีท รุ่นKL001

คาร์ซีทสำหรับเด็ก 9 เดือน – 12 ปี

DODOLOVE คาร์ซีทตัวนี้ เป็นรุ่นสำหรับเด็ก 9 เดือน – 12 ปี รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 36 กิโลกรัม สามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกรุ่น และเป็นตัวที่ปรับเอนได้ถึง 130 องศา ตัวเบาะรองสามารถปรับได้มากถึง 5 ระดับ ตามสรีระของลูก รองรับทุกแรกกระแทก มีตัวปีกที่ช่วยปกป้องลูกน้อยจากการกระแทกได้ดี ให้แม่ ๆ มั่นใจหายห่วง ว่าลูกน้อยไม่เจ็บตัวแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• สามารถใช้ได้ตั้งแต่ 9 เดือน – 12 ปี รองรับน้ำหนักได้มากถึง 36 กิโลกรัม
• พับเก็บได้ เคลื่อนย้ายสะดวก
• เบาะนุ่ม นิ่ม แข็งแรง
• เบาะรองศีรษะปรับได้ 5 ระดับตามสรีระลูกน้อย
• ปรับเอนได้ 130 องศา
• มีให้เลือก 3 สี

ราคา 1,890 บาท

3. Nuebabe คาร์ซีท รุ่น SPORT

คาร์ซีทสำหรับเด็ก 6 เดือน – 7 ปี

คาร์ซีทตัวนี้เป็นของแบรนด์ Nuebabe สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็ก 6 เดือน ไปจนถึง 7 ขวบ รับน้ำหนักได้สูงสุด 36 กิโลกรัม แถมรุ่นนี้มีมาให้เลือกถึง 4 แบบ ตัวเบาะสามารถปรับระดับความสูง ให้เข้ากับศีรษะของลูกได้ ตัววัสดุก็เป็นเนื้อผ้าเบาสบาย ไม่ทำให้ลูกรู้สึกร้อน แถมยังเป็นตัวที่ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย หรืออยากถอดออกมาเป็นตัวบูสเตอร์อย่างเดียว แม่ ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ราคาไม่แรง รุ่นนี้แบงค์พันสองใบมีทอนค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้ตั้งแต่เด็ก 6 เดือน ถึง 7 ขวบ
• สามารถปรับระดับความสูงของเบาะรองศีรษะได้
• ตัวเบาะทำจากผ้าบางเบา สบาย ไม่ทำให้ร้อน
• เบาะสามารถถอดซัก ทำความสะอาดได้
• ติดตั้งง่าย นั่งสบาย ลูกไม่งอแง
• ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย มั่นใจ หายห่วง

ราคา 1,990 บาท

4. Fico คาร์ซีท รุ่น FC968 Mandara pipe bear

คาร์ซีทพี่หมีสำหรับเด็ก 9 เดือน – 12 ปี

คาร์ซีทอีกหนึ่งรุ่นจากแบรนด์ Fico ตัวนี้ดีไซน์น่ารัก มาในรูปแบบพี่หมี เหมาะสำหรับลูกน้อยอายุ 9 เดือน ไปจนถึง 12 ปี ใช้งานได้ยาว ๆ รับน้ำหนักได้ไม่เกิน 36 กิโลกรัม ได้รับมาตรฐานจาก ECE R44/04 ความพิเศษของคาร์ซีทรุ่นนี้ คือ มีเบาะรองศีรษะขนาดใหญ่ ช่วยป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้าง และสามารถปรับระดับให้เข้ากับความสูงของลูกได้ มาพร้อมกับความปลอดภัยด้วยสายรัดกันกระแทกถึง 5 จุด ให้แม่ ๆ อุ่นใจเรื่องความปลอดภัยได้สบาย ๆ เลยล่ะค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้ตั้งแต่อายุ 9 เดือน ไปจนถึง 12 ปี
• ผ่านมาตรฐานยุโรป
• เบานุ่ม ลูกนั่งสบาย
• มีสายรัดกันกระแทก 5 จุด
• ที่รองศีรษะมีขนาดใหญ่ และสามารถปรับตามความสูงลูกได้
• ตัวเบาะสามารถถอดซัก ทำความสะอาดได้

ราคา 1,990 บาท

5. คาร์ซีท Fico รุ่น HB-01

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด-4 ปี

มาต่อกันที่คาร์ซีทจากแบรนด์ Fico ตัวนี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด ไปจนถึง 4 ขวบ รองรับน้ำหนักได้มากสุด 18 กิโลกรัม มาพร้อมกับสายรัด 5 จุด และตัวซัพพอร์ทรองหัวเข็มขัด ช่วยป้องกันการเสียดสีให้ลูก ๆ ได้ ตัวนี้สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ เหมาะกับแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย ตัวเบาะสามารถซัก ทำความสะอาดได้ ให้แม่ ๆ หายห่วงเรื่องสุขอนามัย แถมราคาก็ไม่แรง ให้แม่ ๆ เก็บเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการตัดสินใจกันค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 4 ขวบ
• มีระบบสายรัด 5 จุด มั่นใจได้ว่าปลอดภัย
• สามารถปรับเอนได้ 3 ระดับ เหมาะกับแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย
• เบาะคลุมทำจากหนังผสมกับผ้าพิมพ์ลาย
• ตัวเบาะและซัพพอร์ท สามารถถอดซัก ทำความสะอาดได้

ราคา 1,999 บาท

6. Fico คาร์ซีทรุ่นใหม่ LB-301 มีบาร์กั้น

คาร์ซีทสำหรับเด็ก 9 เดือน – 4 ปี

คาร์ซีทตัวนี้จากแบรนด์ Fico เป็นรุ่นสำหรับเด็กอายุ 9 เดือน ไปจนถึง 4 ขวบ รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 18 กิโลกรัม ได้รับมาตรฐานจากยุโรป ECE R44/04 ซึ่งคาร์ซีทตัวนี้มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ และตัวคาร์ซีทเอนได้ 160 องศา มาพร้อมกับเบาะที่นุ่ม สบาย ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวของลูก รับรองว่าถ้าแม่ ๆ ได้ลองใช้ จะต้องติดใจแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้ตั้งแต่ 9 เดือน ไปจนถึง 4 ขวบ
• มีบาร์กัน
• ปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ
• ปรับได้ 160 องศา
• มีสายคลอดไหล่ สามารถปรับได้ตามสรีระของลูก
• เบาะนุ่มสบาย ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง
• ผ่านมาตรฐานจากยุโรป

ราคา 2,790 บาท

7. คาร์ซีท CAMERA รุ่น ADELITE-3

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด-4 ปี

คาร์ซีทตัวนี้เป็นของแบรนด์ CAMERA ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44/04 จากสถาบัน TUV SUD มาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป รุ่นนี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึงอายุ 4 ปี หรือน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ดีไซน์มาเหมือนแคปซูล ที่ปกป้องลูกน้อยจากด้านข้าง ที่นั่งมีความหน้าแน่น นุ่ม สามารถปรับเอน นอน ได้มากถึง 165 องศา มาพร้อมเข็มขัดนิรภัย 5 ทิศทาง ที่ให้แม่ ๆ มั่นใจได้ ว่าลูกน้อยปลอดภัยแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• เบาะกั้นด้านข้างสูง ปกป้องลูกได้ดี
• ปรับเอนนอนได้ถึง 165 องศา ให้ลูกหลับสบาย
• มีเข็มขัดนิรภัย 5 ทิศทาง และซัพพอร์ทเสริมความหนา
• ชุดเบาะสามารถถอดซักได้
• ตัวเบาะระบายอากาศได้ดี เย็นสบาย

ราคา 2,990 บาท

8. Cozy N Safe Logan Car Seat คาร์ซีท

คาร์ซีทสำหรับเด็ก 1-11 ขวบ

คาร์ซีทจากแบรนด์ Cozy N Safe เป็นแบรนด์คุณภาพจากประเทศอังกฤษ เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1-11 ปี ถือว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานมาก แถมรุ่นนี้ ได้ผ่านมาตรฐานการทดสอบ SIP (Side Impact Protection) ช่วยปกป้องแรงกระแทกจากด้านข้าง และได้รับมาตรฐานการทดสอบระดับสากลจาก ECE R44/04

ตัวคาร์ซีทติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัย แบบ 3 จุด ตัวเบาะมีพนักพิง ที่สามารถปรับระดับได้มากถึง 9 ระดับ เหมาะกับลูกน้อยในแต่ละช่วงวัย ปลอดภัยแน่นอนค่ะ คาร์ซีทรุ่นนี้ มาพร้อมกับตัว Belt Support ที่เพิ่มความสบายให้กับตัวลูกน้อยมากขึ้น ให้แม่ ๆ วางใจว่าลูกน้อยจะไม่งอแงเมื่อต้องนั่งคาร์ซีทค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้ตั้งแต่ 1-11 ขวบ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 36 กิโลกรัม
• สามารถปรับระดับศีรษะได้ถึง 9 ระดับ เหมาะกับแต่ละช่วงวัย
• มีสายคาดเข็มขัดนิรภัย 5 จุด สามารถปรับระดับได้
• ตัวเบาะสามารถถอดซักได้
• ผ่านการทดสอบมาตรฐาน SIP และ ECE R44/04
• รับประกันอุบัติเหตุคาร์ซีทมากถึง 5 ปี

ราคา 3,495 บาท

9. Glowy Star คาร์ซีท Smoothies Fix

คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด-12 ปี

คาร์ซีทจากแบรนด์ Glowy Star ที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 12 ขวบ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 36 กิโลกรัม ปลอดภัยหายห่วงด้วยมาตรฐานความปลอดภัยจาก TUV SUD Czech และมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป EU ECE R44/04 

คาร์ซีทตัวนี้มาพร้อมระบบติดตั้งทั้งแบบ Belt และ ISOFIX+ toptether Fix ปลอดภัยด้วยระบบ Head Support ที่สามารถปรับระดับศีรษะได้ถึง 7 ระดับ ตามสรีระและการเจริญเติบโตของลูกน้อย แถมตัวนี้ยังสามารถหมุนได้ถึง 360 องศา ให้คุณแม่พ่อคุณแม่ได้อุ้มลูกขึ้น-ลง รถได้อย่างสะดวกแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 12 ขวบ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 36 กิโลกรัม
• มี Head Support ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ลูกได้เป็นอย่างดี
• มี Baby Support เบาะรองเสริมสำหรับลูกน้อยที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 9 กิโลกรัม
• ติดตั้งได้ทั้ง 2 ระบบ คือ ISOFIX+ Top Tether และเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดของรถยนต์
• ได้รับมาตรฐานยากยุโรป และมาตรฐานความปลอดภัยจากสถาบันชั้นนำ
• โครงสร้างแข็งแรงด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
• ปรับระดับความสูงของศีรษะได้ 7 ระดับ
• รับประกัน 3 ปี

ราคา 3,990 บาท

10. DODOLOVE Car Seat คาร์ซีท รุ่นKL005

เบาะติดรถยนต์มีระบบล็อคและเข็มขัดนิรภัย

คาร์ซีทตัวนี้เป็นแบรนด์จาก DODOLOVE เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด ใช้ได้จนถึง 12 ปี เรียกว่าคุ้มมาก ๆ เลยค่ะ แถมยังสามารถใช้ได้ทั้ง 2 ระบบ แบบเข็มขัดนิรภัย และระบบล็อค ISOFIX ปลอดภัยหายห่วง แถมเข็มขัด สายรัดอีก 5 จุด ที่แม่ ๆ สามารถปรับระดับได้ตามต้องการ ปลอดภัยด้วยมาตรฐานจาก ECE R44/04 ยุโรป ตัวคาร์ซีทสามารถปรับหมุนได้ 360 องศา ให้แม่ ๆ สามารถอุ้มลูกน้อยขึ้น-ลง ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย คุ้มค่าคุ้มราคาขนาดนี้ แม่ ๆ ต้องมีสักชิ้นแล้วค่ะ

สิ่งที่ชื่นชอบ

• ใช้ได้นาน ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 12 ปี
• ใช้งานได้ 2 ระบบ ทั้งแบบเข็มขัด และล็อค ISOFIX
• ปรับเอนนอนได้ 4 ระดับ และปรับเอียงได้ 165 องศา
• หมุนได้ 360 องศา อุ้มลูกน้อยขึ้น-ลง ได้สะดวก
• ที่รองศีรษะปรับความสูงได้มากถึง 7 ระดับ
• มีเบาะเสริมสำหรับเด็กเล็ก
• มีระบบป้องกันการกระแทก Side Protection

ราคา 4,999 บาท

ตารางเปรียบเทียบราคาล่าสุด

เป็นยังไงกันบ้างคะแม่ ๆ กับความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับคาร์ซีท คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี และคาร์ซีทงบประหยัด 10 รุ่น ที่ต้องบอกว่าแม่ ๆ ควรมีไว้สักชิ้นนะคะ เพราะความปลอดภัยของลูกมันประเมินค่าเป็นเงินไม่ได้จริง ๆ ค่ะ คาร์ซีทสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด และบางรุ่นสามารถใช้ได้ยาวนานถึง 12 ปี งบหลักพันแบบนี้ คุ้มค่ากับความปลอดภัยในระยะยาวของลูกมากค่ะ แม่ ๆ ที่มีลูกเล็ก ยิ่งจำเป็นต้องมีไว้สักชิ้นจริง ๆ นะคะ และสำหรับคุณแม่ที่กำลังสงสัย ว่าจะต้องซื้อ คาร์ซีทยี่ห้อไหนดี? ก็ลองเอาบทความที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ไปประกอบการตัดสินใจกันดูนะคะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

5 คาร์ซีทที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย พร้อมวิธีเลือกซื้อ

คาร์ซีทสำหรับเด็ก ชวนคุณแม่เลือกซื้ออุปกรณ์ที่ช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยขณะนั่งรถ

วิธีใส่คาร์ซีทที่ถูกต้อง เช็ควิธีที่คุณใส่ที่นั่งบนรถให้ลูกว่าทำถูกหรือไม่

ที่มา : carsome