ตลอด เกือบ 20 ปี ใน วงการ ของ นักแสดงหนุ่ม ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เจ้าของ รางวัล ออสการ์ ปีล่าสุด แม้จะ เปลี่ยนบทบาท การแสดง ไปกี่ ครั้ง ผ่าน ร้อน ผ่าน หนาว มามาก เท่าไร แต่ สิ่งหนึ่ง ที่ไม่เคยเปลี่ยน คือ เบื้องหลัง เขามี พ่อแม่ คอย เกื้อหนุน ทุกย่าง ก้าวเสมอ
ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ วัย 41 ปี กล่าวยกย่อง พ่อจอร์จ กับ แม่เออร์เมอลิน ผู้เป็นแรงผลักดันสำคัญ ให้ประสบความสำเร็จ อย่างทุกวันนี้
“พ่อแม่ครับ ขอบคุณมาก ที่รับฟังเด็กอายุ 13 ขวบ ที่ ตื๊ออยากไป ออดิชัน ทุกวัน หลังเลิกเรียน” ลีโอ กล่าว บนเวที หลังคว้ารางวัล สมาคมนักแสดงภาพยนตร์ และ โทรทัศน์ ปี 2016 อย่าง ภาคภูมิใจ
“ถ้า ไม่มีพ่อแม่ ทุกอย่าง ไม่มีทางเป็นจริงได้เลย”
ลีโอนาร์โด เกิดที่ ลอสแองเจลิส แม่เออร์เมอลิน เป็น ผู้ช่วยนักกฎหมาย ส่วน พ่อจอร์จ เป็นผู้แทนจำหน่ายหนังสือการ์ตูนใต้ดิน
ชีวิตวัยเด็กของลีโอสนุกและโลดโผนสุด ๆ
ในบทสัมภาษณ์เมื่อปี 2002 ลีโอบรรยายพ่อแม่ว่าเป็น “โบฮีเมียนเต็มขั้น”
พ่อมักพาลีโอเดินทางไปร้านหนังสือการ์ตูนมากมายทั่วสหรัฐ ทั้งพ่อและแม่ยังส่งเสริมความฝันเรื่องนักแสดงของลีโอโดยอนุญาตให้ลูกเลิกเรียน ม.ปลาย
พ่อแม่เปิดโอกาสให้ลีโอเรียนรู้ศิลปะการแสดงตั้งแต่ยังเด็ก ตอนเขาอายุ 14 ปี พ่อเปิดหนังเรื่อง ‘Taxi Driver’ ของโรเบิร์ต เดอ นิโร พร้อมสอนว่า “ดูให้ดีนะ ลูก การแสดงที่ยอดเยี่ยมมันต้องแบบนี้”
3 ปีหลังจากวันนั้น ลีโอก็ได้ร่วมงานกับโรเบิร์ต เดอ นิโรจริง ๆ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘This Boy’s Life’
พ่อแม่ คือ ผู้จุดประกายความฝันและความกล้า ให้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ มีวันนี้
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์เผยว่า ตอนพ่อแม่ลีโอทำงานในบริษัทโปรดักชัน พ่อแม่จะคอยเลือกบทเด่น ๆ ให้ลูกชายพิจารณา
ความพยายามนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ลีโอมุ่งมั่นจะเลือกรับเฉพาะบทบาทที่เขาอินเท่านั้น
“พ่อบอกเสมอว่า ลุยไปเลย ลูก ไม่ว่าลูกจะทำอะไร พ่อไม่สนว่าจะสำเร็จไหม แค่ทำชีวิตให้มีสีสันก็พอ” ลีโอเปิดเผยกับ Parade
ในงานประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำปี 2016 พ่อจอร์จนั่งยิ้มปากกว้างอยู่ข้าง ๆ ลีโอตอนได้ยินเสียงประกาศผลรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม
และตอนลีโอนาร์โอได้รับรางวัลเกียรติยศจากมูลนิธิสมาคมภาพยนตร์และโทรทัศน์ ชื่อแรกที่เขากล่าวถึง คือ พ่อแม่สุดที่รักของเขานั่นเอง นี่แสดงถึงความซาบซึ้งใจที่เขาได้รับความรักและการสนับสนุนอย่างดีมาตลอด
“แม่ครับ พ่อครับ ผมคงไม่ได้รับรางวัลนี้ ไม่ได้เป็นนักแสดงอย่างที่ผมเป็นอยู่ หรือไม่มีโอกาสทำงานการกุศลอย่างที่งานนี้หยิบยื่นโอกาสให้ถ้าไม่มีพ่อกับแม่ ขอบคุณมากครับ”
ได้ฟังลูกพูดอย่างนี้ พ่อแม่ที่ไหนก็ชื่นใจยิ้มหน้าบานไม่หุบเหมือนกันค่ะ
การเลี้ยงดูของพ่อแม่เป็นตัวช่วยเบิกทางทั้งชีวิตของลูก อย่าลืมทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตของลูกรักนะคะ
ใครมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้ข้างล่างนี้เลยค่ะ
ที่มา : sg.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
วิธีเลี้ยงลูกแบบ “น้อย วงพรู” ในมุมคุณพ่อลูกสองที่ไม่ได้ติทส์อย่างที่คิด
ทักษะทางสังคม 10 ประการ ช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จ