ลูกถนัดมือซ้าย หลายคนบอกว่าจะเป็นเด็กฉลาด ความเชื่อนี้จริงหรือไม่ ความเป็นจริงแล้วเด็กที่ถนัดมือซ้ายมีอุปสรรคมากมายเกี่ยวกับการใช้มือ และข้อจำกัดบางอย่างที่พวกเขาอาจจะไม่ชอบ มาดูกันดีกว่าค่ะว่า ถนัดมือซ้าย ต่างจากถนัดมือขวาอย่างไร? และเราจะสามารถทราบได้อย่างไรว่าลูกเราถนัดมือซ้ายหรือมือขวา
ข้อดีของการถนัดซ้ายคืออะไร?
ในโลกของเรามีคนที่ถนัดมือขวาอยู่มากมาย โดยตัวคุณเองอาจไม่คิดว่าเด็กที่มีความถนัดซ้ายนั้นจะได้เปรียบไปมากกว่าคุณ แต่คุณอาจคิดผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เล่นกีฬา หรือกีฬาที่ฝ่ายตรงข้ามต้องเผชิญหน้ากัน อาทิ เทนนิส และชกมวย เป็นต้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้คนถนัดซ้ายนั้นได้เปรียบ เพราะถ้าคนถนัดซ้ายคนที่ถนัดขวาก็อาจจะเสียเปรียบอยู่บ้างนั่นเอง นอกจากนี้เด็กที่ถนัดซ้ายมักจะพัฒนาทักษะด้วยมือที่ไม่ถนัดอยู่เสมอ เมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิต พวกเขาจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เต็มไปด้วยคนที่ถนัดขวามากกว่า 90% ซึ่งหมายความว่า พวกเขาเลือกที่จะปรับตัวได้เก่งกว่า เพราะเด็กที่ถนัดขวามักจะเคยชินกับสิ่งนั้นอยู่แล้ว
บทควาที่เกี่ยวข้อง : ลูกถนัดข้างไหน ลูกถนัดมือซ้าย ลูกถนัดมือขวา ต้องฝึกให้ถนัด 2 มือหรือไม่
ข้อเสียของคนถนัดมือซ้าย คืออะไร?
นอกจากข้อดีในด้านการได้เปรียบในเรื่องของการเล่นกีฬาแล้ว การถนัดซ้ายนั้นยังมีข้อจำกัดบางอย่าง อาทิ การเขียนหนังสือ การผูกเชือกรองเท้า หรือแม้แต่งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าคนถนัดซ้ายมีแนวโน้มที่จะพัฒนาเงื่อนไขของโรคบางอย่างขึ้นมากกว่าคนที่ถนัดขวา ได้แก่
- โรคพาร์กินสัน
- โรคจิตเภท
- มะเร็งเต้านม
- โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (Post-traumatic stress disorder : PTSD)
- ความบกพร่องทางการเรียนรู้ เช่น Dyslexia เป็นต้น
ถนัดมือซ้าย เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคนหรือไม่
ผู้ปกครองหลายท่านอาจคิดว่าการที่ลูกน้อยของคุณมีความถนัดด้านซ้ายนั้นเป็นมาจากการสอนให้พวกเขาเริ่มใช้ แต่ความจริงแล้ว นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการถนัดของคนเป็นลักษณะที่ซับซ้อน ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลจากหลาย ๆ ปัจจัย ดังต่อไปนี้
- พันธุกรรม
- สิ่งแวดล้อม
- โอกาสสุ่ม
ทั้งนี้ความถนัดของเด็กแต่ละคนนั้นจะถูกพัฒนาก่อนเกิด และชัดเจนมากยิ่งขึ้นในช่วงวัยเด็ก และตลอดชีวิตของพวกเขา นักวิจัยเชื่อว่าความถนัดของคนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความแตกต่างกันของพัฒนาการระหว่างสมองทั้ง 2 ซีก โดยสมองซีกขวาจะควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายด้านซ้าย และสมองทางซีกซ้ายจะควบคุมการเคลื่อนไหวร่างกายทางด้านขวา นอกจากนี้เด็กที่มีพ่อแม่ถนัดซ้ายมักจะถนัดซ้ายมากกว่าลูกของพ่อแม่ที่ถนัดขวา แต่เนื่องจากคนที่ถนัดซ้ายพบได้น้อย เด็กส่วนใหญ่จึงถนัดขวานั่นเอง
บทความที่น่าสนใจ : โรคทางพันธุกรรม ที่ลูกอาจติดจากพ่อแม่ มีอะไรบ้าง จะรับมืออย่างไร
จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกของเราถนัดมือซ้าย ?
ในช่วงปีแรกของเด็ก ทารกจะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ อาทิ การเอื้อมมือสัมผัส หรือหยิบสิ่งของด้วยมือของพวกเขา หากทารกใช้เพียงมือข้างเดียวในวัยนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงพัฒนาการล่าช้า หรือภาวะทางระบบประสาทที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อลูกน้อยของคุณอายุ 2-3 ขวบ พวกเขาจะเริ่มใช้มือข้างใดข้างหนึ่ง โดยคุณสามารถสังเกตได้จากช่วงวัยนี้ว่าพวกเขามีความถนัดของมือข้างไหน ซึ่งสัญญาณที่บอกว่าลูกของคุณถนัดซ้าย มีดังต่อไปนี้
-
สังเกตจากการกินข้าว
สัญญาณแรกที่คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้คือ เมื่อถึงรับประทานอาหาร หากคุณวางชามและช้อนไว้ข้างหน้าเด็ก เด็กในช่วงวัยหัดเดินที่ถนัดซ้ายจะจับถ้วยด้วยมือขวา (ข้างที่ไม่ถนัด) และกินด้วยมือซ้าย (ข้างที่ถนัด)
-
การใช้มือในกิจกรรมต่าง ๆ
นอกจากเรื่องของการตักทานข้าวของเด็กแล้ว การที่เด็กนั้นหยิบช้อน หรือคนหลอดในแก้วน้ำก็เป็นอีกหนึ่งจุดสังเกต เด็กที่ถนัดมือซ้ายบางคนอาจถืออุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยมือขวา แต่การคนหรือกวนของพวกเขานั้นจะทำตามเข็มนาฬิกาเสมอ รวมถึงการระบายสีด้วย
-
การใช้เท้าเตะสิ่งของ
เด็กในช่วงวัยหัดเดินจะเริ่มเผยความถนัดของตนเองในทุก ๆ กิจกรรมในชีวิตประจำวันของพวกเขา พวกเขามักจะใช้เท้าข้างที่ถนัดการเตะสิ่งของ หรือลูกบอลเสมอ และทักษะของพวกเขาก็จะแสดงให้เห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น เมื่อพวกเขาโตขึ้น
เด็กถนัดมือซ้ายฉลาดกว่าเด็กถนัดขวา จริงหรือไม่?
การศึกษาหนึ่งในวารสารของสถาบันจิตวิทยาประยุกต์ของประเทศอินเดียพบว่า จากรายวิชาที่มีนักเรียนเข้าเรียน ผู้ที่ถนัดซ้ายมีแนวโน้มที่จะทำการทดสอบด้านสติปัญญาได้ดีกว่าคนที่ถนัดขวา และอีกการศึกษาหนึ่งที่มีข้อมูลเพิ่มเติมสนับสนุนเกี่ยวกับความฉลาดของคนที่ถนัดมือซ้ายว่า พันธุกรรมของคนที่ถนัดมือขวาและมือซ้ายมีความแตกต่างกัน จากการตรวจสอบข้อมูลของคนประมาณ 40,000 คน นักวิทยาศาสตร์พบว่าสมองของคนที่ถนัดซ้ายนั้นมีการทำงานที่เชื่อมต่อกับสมองซักขวาได้เป็นอย่างดี และจะมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นในเรื่องของภาษา ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่าคนที่ถนัดซ้ายนั้นมีทักษะในการพูด หรือการใช้ภาษาที่เหนือกว่าคนที่ถนัดขวานั่นเอง
วิธีเลี้ยงลูกที่ถนัดมือซ้าย ทำอย่างไร?
ในช่วงวัยของเด็กวัยหัดเดิน หรือช่วงของการเข้าสังคมนั้นทำให้เด็กที่ถนัดซ้ายรู้สึกว่าตนเองแตกต่าง เพราะคนที่ถนัดมือซ้ายนั้นพบได้ยาก ดังนั้นเรามาลองดูเคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่มีความถนัดมือด้านซ้ายกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง
1. ทำให้พวกเขามั่นใจ
เด็กถนัดซ้ายนั้นไม่ต่างกับเด็กที่ถนัดขวา คุณควรแสดงและบอกกับลูกน้อยของคุณว่าการที่พวกเขานั้นถนัดที่จะใช้มือซ้าย มันไม่ได้ด้อยกว่า หรือพวกเขาเป็นตัวประหลาด สิ่งที่พวกเขาเป็นนั้นมันมีเอกลักษณ์มาก เพราะมีเด็กแค่ประมาณ 10% ที่มีความสามารถนี้ พวกเขาต้องภูมิใจ
2. ช่วยพวกเขาปรับตัว
ลูกของคุณอาจมีปัญหาในการเรียนรู้บางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีความถนัดมือขวา ซึ่งจะทำให้พวกเขาไม่เข้าใจในการทำกิจกรรมบางอย่าง อาทิ การติดกระดุมเสื้อผ้า การผูกเชือกรองเท้า การใช้กรรไกร เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถสอนพวกเขาได้โดยให้พวกเขาเริ่มทำด้วยตนเอง จะง่ายกว่าที่คุณสอนพวกเขา
3. ส่งเสริมทักษะพิเศษของเขา
ไม่ว่าลูกของคุณจะมีความถนัดข้างไหนก็ตาม การส่งเสริมทักษะพิเศษของพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่คุณควรทำ ซึ่งจะช่วยทำให้พวกเขามีความมั่นใจและให้ค่ากับตัวเอง สำหรับเด็กที่ถนัดซ้ายให้พวกเขาเลือกเองว่าเขาจะใช้มือข้างไหนในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง อย่าไปบังคับให้เขาใช้มือขวา หรือมือซ้ายมากจนเกินไป เพราะในอนาคตพวกเขานั้นอาจมีความถนัดทั้งสองมือก็เป็นได้
4. สอนวิธีเขียน
การสอนเด็กถนัดมือซ้ายเขียนอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับผู้ปกครองที่ถนัดขวา เพราะสมุดทั่วไปไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเด็กที่ถนัดซ้าย ทำให้ยากต่อการวางมืออย่างถูกต้อง ดังนั้นในช่วงหัดเขียนคุณพ่อคุณแม่อาจใช้กระดาษแผ่นเดียวในการสอนให้พวกเขาเขียนตามจะดีต่อพวกเขามากกว่า
5. อย่าตัดสินใจแทนลูก
อย่ากีดกันเด็กจากการตัดสินใจว่าพวกเขาจะถนัดมือข้างไหนเด็ดขาด การบังคับให้เด็กใช้มือที่ไม่ถนัดนั้น อาจทำให้เกิดความคับข้องใจโดยไม่จำเป็น การถนัดมือซ้ายเป็นเพียงคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกของคุณเป็นตัวของตัวเอง
เป็นอย่างไรบ้างคะ ลูก ๆ บ้านไหนถนัดซ้ายกันบ้างเอ่ย ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียเปรียบของคนที่ถนัดมือขวาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ เพราะว่าในบางสถานการณ์คนที่ถนัดมือซ้ายอาจทำได้ดีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าลูกน้อยของคุณจะถนัดมือข้างไหน พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนกันค่ะ นอกจากพวกเขาจะมีพัฒนาการที่แตกต่างออกไป ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีรักษากันต่อไปนะคะ
บทความที่น่าสนใจ :
สอนลูกเรื่องเงินอย่างไรดี คำแนะนำสำหรับ การสอนลูกเรื่องเงิน ตามช่วงอายุ
สอนลูกอย่างไรให้เป็นเด็กที่เคารพตนเอง และยอมรับความแตกต่างของผู้อื่น
500 คำ ศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ สอนลูกให้เก่งได้ สร้างรากฐานภาษา
ที่มา : oprah, kindercare, betterhealth, whattoexpect