ในปัจจุบันภาษาอังกฤษถือเป็นทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยทำงานที่ต้องการต่อยอดอนาคต หรือผู้ที่กำลังอยู่ในวัยเรียน คงมีหลายคนที่ยังคิดไม่ตกว่าจะเลือกเรียนอังกฤษที่ไหนดี และควรเริ่มต้นจากตรงไหน บทความนี้เราได้รวบรวมทั้งเคล็ดลับเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี รวมถึงแนะนำ 5 สถาบันสอนภาษาอังกฤษยอดฮิตของคนรักภาษาให้ทุกคนได้เลือกดูกัน และแต่ละที่ที่คัดมานั้นบอกเลยว่ามีความโดดเด่นที่แตกต่างในแต่ละด้าน เหมาะกับเด็กทุกช่วงวัยตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงวัยทำงานเลยทีเดียว
3 เคล็ดลับเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดี
1. จดโน้ตแบบคอร์เนล เทคนิคจดบันทึกขั้นเทพ
การจดโน้ตแบบคอร์เนล (Cornell Notes) เป็นวิธีการจดบันทึกที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะมีโครงสร้างการจดบันทึกที่เป็นระเบียบชัดเจน เข้าใจง่าย และทำให้จดจำเนื้อหาได้ในระยะยาว เหมาะที่จะกลับมาอ่านทบทวนซ้ำ อย่างเช่นการจดเลคเชอร์เนื้อหาบทเรียน การเชื่อมโยงประเด็น โดยแบ่งกระดาษออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
- คอลัมน์ด้านซ้าย มีขนาดแคบ ใช้สำหรับจดคีย์เวิร์ด ตั้งประเด็น หัวข้อ หรือคำถาม
- คอลัมน์ด้านขวา มีพื้นที่กว้าง ใช้สำหรับบันทึกย่อ
- พื้นที่ว่างด้านล่างสุด ใช้สำหรับสรุปประเด็นสำคัญหรือการวิเคราะห์เพิ่มเติม
การจดโน้ต Cornell นอกจากจะเหมาะกับการเรียนแบบทั่วไปแล้ว หากนำมาปรับใช้กับการเรียนภาษาอังกฤษจะช่วยให้จดบันทึกได้อย่างเป็นระเบียบด้วยภาษาของตัวเอง แถมยังมีโครงสร้างที่เหมาะกับการแบ่งเป็นพาร์ทบทเรียนต่างๆ เช่น Tenses, Part of Speech หรือ synonyms ฯลฯ ที่จะช่วยลดความสับสนของเนื้อหา และยังสามารถสรุปใจความสำคัญไว้ตอนท้ายเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายเมื่อกลับมาอ่านใหม่อีกด้วย
2. เทคนิค Memology จำศัพย์อย่างเข้าใจ ยังไงก็ไม่ลืม
การฝึกด้วยเทคนิค Memology เป็นวิธีที่จะช่วยให้จำคำศัพท์ต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงแค่การท่องจำซึ่งอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยสามารถแยกย่อยออกเป็น Memologic จำด้วยภาพ แม้จะเป็นคำศัพท์ที่เข้าใจยาก ก็สามารถจำได้อย่างง่ายดายผ่านการมองภาพและเชื่อมโยงเข้ากับเรื่องราว และ Memolody จำผ่านเนื้อหาและทำนอง เป็นเทคนิคที่ทำได้อย่างเพลิดเพลินทุกที่ทุกเวลา รวมถึงยังพบเจอความท้าทายผ่านบทเพลงใหม่ๆ ของศิลปินที่ชอบ เทคนิค Memology นี้ยังสามารถปรับใช้กับมีเดียรูปแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลงสากล พอดแคสต์ ภาพยนตร์ หรือซีรี่ส์เรื่องโปรด
3. ฝึกอย่างสร้างสรรค์ ด้วยกิจกรรมทำมือ
หากเบื่อกับการนั่งทบทวนบทเรียน ลองลุกขึ้นมาทดสอบความรู้กันสักหน่อยด้วยกิจกรรมทำมือแบบง่ายๆ อย่างการ์ดคำศัพท์ (Flashcards) ซึ่งเป็นการเขียนคำศัพท์หรือวลีลงบนด้านหนึ่งของกระดาษ และเขียนความหมายหรือคำแปลลงบนอีกด้านหนึ่ง การเล่นแฟลชการ์ดสามารถเล่นได้บ่อยๆ เพื่อทบทวนความจำ รวมถึงยังเป็นกิจกรรมสนุกที่สามารถทำร่วมกับเพื่อนได้อีกด้วย
รวม 5 สถาบันเรียนภาษาอังกฤษ เลือกเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี ให้เหมาะกับช่วงวัย
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสถาบันสอนภาษาอังกฤษเกิดขึ้นมากมาย หันไปทางไหนก็มีแต่ที่เรียนเต็มไปหมด บ้างก็มีหลักสูตรไม่ตรงกับความต้องการ บ้างก็มีข้อจำกัดเรื่องเวลาเรียนที่ไม่ลงล็อก จนกลายเป็นเลือกไม่ถูกว่าจะเรียนอังกฤษที่ไหนดี วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสถาบันเรียนภาษาอังกฤษยอดฮิต แถมมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ใครที่มีแพลนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ใช้ผลสอบภาษาอังกฤษในการยื่นสมัครงานบริษัทชั้นนำ หรือคุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกมีพื้นฐานภาษาแน่นตั้งแต่เด็ก ต้องไม่พลาดกับ 5 สถาบันนี้เลย!
1. Enconcept
จากประสบการณ์สอนมากว่า 27 ปี และมีสาขาครอบคลุมมากกว่า 37 สาขาทั่วประเทศ ทำให้สถาบันสอนภาษาอังกฤษ Enconcept เป็นหนึ่งในสถาบันยอดฮิตตลอดกาลของเด็กมัธยมเลยก็ว่าได้ ด้วยเทคนิคมากมายที่ช่วยในการจำคำศัพท์ยากๆ อย่าง Memolody และ Memologic การเชื่อมโยงความรู้ด้วย Tree Tactics และเทคนิค MagiCore เป็นเทคนิคเฉพาะของ Enconcept ที่คิดค้นขึ้นเพื่อช่วยในเรื่องการอ่านจับใจความ และการเขียนแต่งประโยค ทำให้รู้สึกว่าเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกและไม่น่าเบื่อ
Enconcept นั้นมีคอร์สเรียนหลากหลาย เหมาะกับเด็กวัยมัธยมศึกษาที่อยากสอบเข้าม.1 และ ม.4 โรงเรียนดัง ไปจนถึงเตรียมความพร้อมสอบ TCAS, TGAT, A-LEVEL เข้ามหาวิทยาลัย โดยหลักสูตรมีการพัฒนาและอัปเดตอยู่เสมอ ทำให้มีเนื้อหาสดใหม่ แถมยังมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงบทเรียนได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นระบบ E-Studio หรือระบบ S.E.L.F. อีกด้วย สำหรับน้องๆ มัธยมที่กำลังลังเลว่าจะเรียนอังกฤษที่ไหนดี บอกเลยว่า Enconcept ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
Tel: 080-434-3838
Line: @enconcept
Facebook: Enconcept E-Academy
เว็บไซต์: https://enconcept.com/
2. Interpass
บอกเลยว่า InterPass จัดว่าเป็นตัวตึงด้านการสอบเข้าภาคอินเตอร์เลยก็ว่าได้ สำหรับคนที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ IELTS ทางสถาบันมีเทคนิคเฉพาะตัวอย่าง Writing Tools Methodology และ DaiGrammar ที่เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้เรียน รวบรวมเทคนิคและวิธีการเขียน Essay Writing สามารถเลือกลงคอร์สเรียนได้ตามใจ ทั้งแบบคอร์สสดกลุ่มใหญ่กิจกรรมแน่น หรือกลุ่มเล็กๆ ดูแลทั่วถึง คอร์สเรียนสดแบบตัวต่อตัว หรือจะเลือกแบบเรียนออนไลน์ เข้าถึงบทเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา เรียกว่าตอบโจทย์ผู้เรียนหลายกลุ่ม สามารถลงลึกได้ทุกเนื้อหาอีกด้วย ใครอยากเสริมจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน รับรองเลยว่าจะเข้าภาคอินเตอร์ สอบเทียบ หรือเรียนต่อต่างประเทศ ก็รับมือข้อสอบได้ทุกรูปแบบ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
Tel: 089-996-4256
Line: @InterPass
Facebook: InterPass ติดอินเตอร์ เรียน IELTS BMAT SAT
3. XChange English
สำหรับคนที่อยู่ในวัยทำงานมีช่วงเวลาที่จำกัด เลยต้องการที่จะเรียนแบบออนไลน์ แต่ไม่รู้จะลงเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนดี สถาบัน Xchange ตอบโจทย์กลุ่มวัยทำงานอย่างแน่นอน เพราะผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ และหลักสูตรของสถาบันนี้ก็มีความเข้มข้น ทันสมัย สามารถนำไปต่อยอดใช้ได้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย การเรียนจะเป็นระบบออนไลน์ผ่านระบบ SELF U ที่มีความเสถียรสูง ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว และความโดดเด่นของการเรียนภาษาอังกฤษกับ XChange English ก็คือหลักสูตรติว TOEFL และ TOEIC ซึ่งเหมาะกับเด็กจบใหม่หรือคนทำงานที่อยากเพิ่มโอกาสความก้าวหน้าให้กับอาชีพ ไม่ว่าจะผู้เรียนจะมีหรือไม่มีพื้นฐานมาก่อน ที่นี่ก็ตอบโจทย์อย่างแน่นอน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
Tel: 02-736-3626
Line: @xchange
Facebook: XChange English ติว TOEIC TOEFL
4. SpeakUp Language Center
ผู้ปกครองท่านไหนที่มีลูกหลานอายุยังน้อย แต่เห็นความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษ ขอแนะนำ SpeakUp สถาบันสอนภาษาอังกฤษและเสริมพัฒนาการสำหรับเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2.5 – 12 ปี สอนทั้งภาษาอังกฤษที่ประยุกต์เข้ากับวิธีการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori) ซึ่งเน้นการเรียนรู้อย่างอิสระผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ท่ามกลางสภาพแวดล้อม กิจกรรม และอุปกรณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก มีคอร์สเรียนตามช่วงอายุที่หลากหลาย เช่น การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษหรือโฟนิกส์ (Phonics) หลักไวยากรณ์ขั้นพื้นฐาน การสนทนากับชาวต่างชาติ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ออกแบบอย่างรอบคอบ เรียกได้ว่าครอบคลุมถึงความต้องการและพัฒนาการของเด็กเล็กที่แอดวานซ์และมีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียว
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือดูสาขาเพิ่มเติมได้ที่:
Tel: 099 412 7555
Line: @speak_up
Facebook: Speak Up Language Center
5. Globish
สุดท้ายกับ Globish ที่นับว่าเป็นอีกสถาบันเรียนภาษาอังกฤษที่ไม่ควรพลาด แม้ว่าทางสถาบันจะเน้นที่การเรียนออนไลน์เพื่อตอบโจทย์วัยทำงาน แต่ก็มีคลาสเรียนสดแบบตัวต่อตัวด้วยเช่นกัน โดยผู้เรียนสามารถเลือกลงเรียนกับชาวต่างชาติได้โดยตรง และยังสามารถฝึกสนทนาภาษาอังกฤษกับเพื่อนในระดับเดียวกันได้อีกด้วย ซึ่งหลักสูตรก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งคอร์สเรียนอังกฤษทั่วไปและคอร์สสำหรับคนทำงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำไปต่อยอดอนาคตการทำงานและใช้ได้ในชีวิตจริง รวมถึงคนที่อยากสอบชิงทุนเรียนต่อ บอกเลยว่าไม่ควรพลาดที่นี่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
Tel: 02 026 6683
Line: @speakglobish
Facebook: Globish โกลบิช ภาษาอังกฤษสำหรับวัยทำงาน
ที่เรียนภาษาอังกฤษแต่ละที่ล้วนมีความโดดเด่น และเหมาะกับช่วงอายุที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเพื่อให้การเรียนภาษาอังกฤษเห็นผล คุ้มค่ากับเวลาและค่าใช้จ่ายที่เสียไป ควรเลือกสถาบันที่ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด ใครที่อ่านบทความนี้แล้วเจอที่เรียนที่เหมาะกับตัวเองแล้วล่ะก็ ไม่ควรรอช้า รีบเข้าไปสอบถามและสมัครคอร์สเรียนกันได้เลย
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!