สงสัยจังเลย! เคลือบสูติบัตรได้ไหม ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆ ท่านคงกำลังตื่นเต้นและมีความสุขกับการต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัว และแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ความน่ารักของลูกน้อยก็คือ “สูติบัตร” ใบสำคัญที่แสดงถึงการเกิดและสิทธิทางกฎหมายต่างๆ ของลูก
แต่เอ๊ะ! พอได้สูติบัตรมาอยู่ในมือแล้ว หลายๆ ท่านอาจจะเกิดคำถามในใจว่า… “เราสามารถนำสูติบัตรไปเคลือบพลาสติกได้ไหมนะ? จะช่วยรักษาสูติบัตรให้คงทนอยู่ได้นานๆ หรือเปล่า?” ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังสงสัยเหมือนกัน theAsianparent จะมาไขข้อข้องใจเรื่องการเคลือบสูติบัตรให้กระจ่างกัน!
เคลือบสูติบัตรได้ไหม …สูติบัตรคืออะไร ?
สูติบัตร คือ เอกสารสำคัญทางราชการ ที่ออกโดยนายทะเบียนคนเกิด ภายในเขตท้องที่ที่เด็กเกิด เพื่อเป็นหลักฐานแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการเกิดของบุคคลนั้นๆ อย่างเป็นทางการ ซึ่งในสูติบัตรจะระบุข้อมูลสำคัญต่างๆ ดังนี้
1. ข้อมูลของเด็ก
- ชื่อตัว ชื่อสกุล
- วัน เดือน ปีเกิด
- เวลาเกิด (โดยประมาณ)
- เพศ
- สถานที่เกิด (บ้านเลขที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด)
2. ข้อมูลของบิดามารดา
- ชื่อตัว ชื่อสกุล
- สัญชาติ
- ที่อยู่ (ตามที่แจ้ง)
3. ข้อมูลอื่นๆ
- ลำดับการเกิด (บุตรคนที่เท่าไร)
- ลายมือชื่อนายทะเบียน
- วัน เดือน ปี ที่ออกสูติบัตร
- เลขประจำตัวสูติบัตร
ความสำคัญของสูติบัตร
สูติบัตรเป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบุคคลตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต เนื่องจากเป็นหลักฐานแรกเริ่มที่แสดงถึงการมีตัวตนตามกฎหมาย เป็นเอกสารที่ยืนยันว่าบุคคลนั้นได้เกิดมาและมีสิทธิตามกฎหมาย
- การพิสูจน์สัญชาติ ใช้เป็นหลักฐานในการแสดงสัญชาติของบุคคล
- การยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือด เป็นหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุตรกับบิดามารดา
- การใช้สิทธิและรับบริการต่างๆ จำเป็นสำหรับการติดต่อหน่วยงานราชการ การสมัครเรียน การเข้ารับการรักษาพยาบาล การทำบัตรประชาชน การขอหนังสือเดินทาง และอื่นๆ อีกมากมาย

ทำสูติบัตรใช้เอกสารอะไรบ้าง ?
เพื่อให้การทำสูติบัตรให้ลูกน้อยเป็นไปอย่างราบรื่น คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆ ให้พร้อม โดยเอกสารที่ต้องใช้จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่เกิดของลูกน้อย ดังนี้
กรณีเด็กเกิดในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.1/1) ฉบับจริง ที่ออกโดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งเกิด (โดยทั่วไปคือ บิดา หรือ มารดา)
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ที่ต้องการเพิ่มชื่อเด็ก (หากมี)
- บัตรประจำตัวประชาชนของบิดาและมารดา (ตัวจริง)
- สำเนาทะเบียนบ้านของบิดาและมารดา (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) ในกรณีที่บิดามารดาจดทะเบียนสมรส
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) ของบิดาหรือมารดา
กรณีเกิดในโรงพยาบาล สามารถแจ้งเกิดและขอสูติบัตรได้ที่สำนักงานทะเบียน โรงพยาบาลส่วนใหญ่มีบริการติดต่อที่สำนักงานเขต/ที่ว่าการอำเภอ จำเป็นต้องติดต่อให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด
ไขข้อสงสัย เคลือบสูติบัตรได้ไหม ?
คำตอบแบบตรงไปตรงมาคือ… โดยทั่วไปแล้ว “ไม่แนะนำ” ให้เคลือบสูติบัตร ถึงแม้ว่าการเคลือบพลาสติกจะช่วยป้องกันการเปรอะเปื้อนหรือฉีกขาดได้ แต่ก็มีข้อเสียในการเคลือบสูติบัตร ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้
ข้อเสียของการเคลือบสูติบัตร
1. ทำให้สูติบัตร “หมดสภาพ” ในทางกฎหมาย: หน่วยงานราชการหลายแห่ง ไม่ยอมรับ สูติบัตรที่ถูกเคลือบพลาสติก เนื่องจากถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงสภาพเอกสาร อาจทำให้เกิดความสงสัยว่ามีการปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูลภายในหรือไม่
2. ยากต่อการตรวจสอบ: การเคลือบพลาสติกทำให้ยากต่อการตรวจสอบลายเซ็น หรือตราประทับที่อยู่บนสูติบัตร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการยืนยันความถูกต้องของเอกสาร
3. อาจทำให้เอกสารเสียหายในระยะยาว: ถึงแม้จะป้องกันการเปรอะเปื้อนได้ แต่ความร้อนที่ใช้ในการเคลือบอาจทำให้กระดาษสูติบัตรเสียหาย หรือตัวอักษรเลือนหายไปในระยะยาวได้
เคลือบสูติบัตรได้ไหม …การเก็บรักษาสูติบัตรลูก
แทนที่คุณพ่อคุณแม่จะเอาสูติบัตรลูกไปเคลือบพลาสติก มีวิธีดูแลรักษาสูติบัตรให้คงทนและอยู่ในสภาพดีได้ง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
1. เก็บในซองหรือแฟ้มเอกสาร: หาซองพลาสติกใส หรือแฟ้มสำหรับเก็บเอกสารโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง ความชื้น และการขีดข่วน
2. เก็บในที่แห้งและไม่อับชื้น: หลีกเลี่ยงการเก็บสูติบัตรในบริเวณที่มีความชื้นสูง หรือโดนแสงแดดโดยตรง
3. สำเนาเก็บไว้หลายชุด: ถ่ายสำเนาสูติบัตรเก็บไว้หลายๆ ชุด ทั้งแบบกระดาษและแบบไฟล์ดิจิทัล เพื่อใช้ในการติดต่อหน่วยงานต่างๆ แทนฉบับจริงในบางกรณี และเพื่อเป็นหลักฐานสำรองหากฉบับจริงสูญหาย
4. ใช้ความระมัดระวังในการหยิบจับ: จับต้องสูติบัตรด้วยความเบามือ เพื่อป้องกันการฉีกขาด
เคลือบสูติบัตรได้ไหม สูติบัตรลูก ควรเก็บสูติบัตรในซองเอกสาร
1. ป้องกันความเสียหาย: ซองเอกสารช่วยป้องกันไม่ให้สูติบัตรสัมผัสกับสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง และความชื้นโดยตรง ซึ่งอาจทำให้เอกสารเสียหายหรือเลือนลางได้
2. ป้องกันรอยยับและรอยพับ: การเก็บในซองเอกสารจะช่วยให้สูติบัตรอยู่ในสภาพเรียบ ไม่เกิดรอยยับหรือรอยพับ
3. จัดเก็บเป็นระเบียบ: การใส่ซองเอกสารช่วยให้สามารถจัดเก็บสูติบัตรร่วมกับเอกสารสำคัญอื่นๆ ได้อย่างเป็นระเบียบและง่ายต่อการค้นหา
4. ป้องกันการสูญหาย: การเก็บไว้ในซองเอกสารและจัดเก็บในที่ที่ปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงของการสูญหาย

ประเภทของซองเอกสารที่เหมาะสมในการเก็บสูติบัตรลูก
1. ซองพลาสติกใส: ช่วยให้มองเห็นเอกสารภายในได้ง่าย และป้องกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
2. ซองกระดาษ: ควรเลือกซองที่ทำจากกระดาษคุณภาพดี ไม่เป็นกรด เพื่อป้องกันเอกสารในระยะยาว
3. ซองซิป: ช่วยป้องกันฝุ่นและความชื้นได้ดี และมีความทนทาน
สูติบัตรหาย… อย่าเพิ่งตกใจ! รู้จักขั้นตอนการขอใหม่
สูติบัตรถือเป็นเอกสารสำคัญอันดับต้นๆ ของชีวิตลูกน้อย เป็นหลักฐานทางราชการที่ใช้ยืนยันตัวตนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย การสูญหายของสูติบัตรจึงอาจสร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ หากสูติบัตรตัวจริงของลูกหายไป ยังมีขั้นตอนที่คุณสามารถดำเนินการเพื่อขอเอกสารใหม่ได้ ดังนี้
เมื่อสูติบัตรตัวจริงหาย สิ่งที่ต้องทำ
1. ติดต่อทางอำเภอที่แจ้งเกิด: สิ่งแรกที่คุณควรทำคือการติดต่อ ที่ว่าการอำเภอ หรือ สำนักงานเขต ที่คุณได้แจ้งเกิดลูกน้อยไว้ เพื่อ ขอคัดและรับรองสำเนาถูกต้อง จากทะเบียนสูติบัตรต้นฉบับที่อำเภอมีอยู่ วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด หากทางอำเภอยังมีข้อมูลต้นขั้วอยู่
2. ในกรณีที่อำเภอไม่มีต้นขั้ว: หากทางอำเภอที่คุณแจ้งเกิดไม่มีข้อมูลสูติบัตรต้นฉบับแล้ว คุณยังสามารถดำเนินการขอเอกสารใหม่ได้ โดยติดต่อ ที่ว่าการอำเภอ หรือ สำนักงานเขต ที่ลูกน้อย มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน หรือ อำเภอที่ลูกน้อยเกิด เพื่อ ขอให้ออกหนังสือรับรองการเกิดแทนสูติบัตร
ในการดำเนินการนี้ สิ่งที่ต้องเตรียม
- พยานบุคคลจำนวน 2 คน ที่ทราบเรื่องการเกิดของบุตรคุณเป็นอย่างดี
- หลักฐานประกอบ ต่างๆ ที่สามารถนำไปยืนยันข้อมูลการเกิดได้ เช่น
- ทะเบียนบ้านของคุณและบุตร
- บัตรประชาชนของคุณและคู่สมรส
- วุฒิการศึกษา (อาจเป็นประโยชน์ในการยืนยันข้อมูลชื่อ-สกุล)
สิ่งที่สำคัญที่คุณต้องแจ้งให้ทางอำเภอทราบอย่างละเอียด คือ
- วัน เดือน ปีเกิด ของบุตร
- สถานที่เกิด ของบุตร
- ชื่อ – ชื่อสกุล ของบุตร
- ชื่อ – ชื่อสกุล ของบิดา
- ชื่อ – ชื่อสกุล ของมารดา
- ชื่อสกุลของมารดาก่อนสมรส
หากคุณพ่อคุณแม่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขอสูติบัตรใหม่ สามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่ ที่ว่าการอำเภอ หรือ สำนักงานเขต ที่ลูกน้อยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันได้เลยค่ะ
สำหรับข้อสงสัยที่ว่า เคลือบสูติบัตรได้ไหม คำตอบคือ ไม่แนะนำให้เคลือบสูติบัตร สูติบัตรลูกเป็นเอกสารราชการสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเก็บรักษาไว้อย่างดีและนำไปใช้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น อย่าให้สูญหาย หรือเสียหาย สูติบัตรควรเก็บใส่ซองเอกสารเพื่อป้องกันความเสียหายจากฝุ่นละออง ความชื้น รอยยับ หรือการฉีกขาดนะคะ ที่สำคัญหากลูกอายุน้อยกว่า 7 ปี และต้องเดินทางด้วยเครื่องบินไม่ว่าจะภายในประเทศ หรือระหว่างประเทศ คุณพ่อคุณแม่ต้องมีสูติบัตรตัวจริง หนังสือเดินทาง ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎข้อตกลงของแต่ละสายการบิน ดังนั้นเพื่อความแน่นอน ควรสอบถามการใช้เอกสารของลูกก่อนการเดินทางทุกครั้งด้วยนะคะ
อ้างอิง
งานทะเบียนราษฎร, เทศบาลตำบลบ้านสา จังหวัดลำปาง https://www.bansa.go.th/bansa/งานทะเบียนราษฎร/
สำนักทะเบียนกลาง, สำนักบริหารการทะเบียน https://www.bora.dopa.go.th/wp-content/uploads/2022/01/mt03091_v37861.pdf
การแจ้งเกิด, กรมการแพทย์ทหารเรือ https://www2.nmd.go.th/sirikit/srkhosp/data/2021/srkita/data/002/00การแจ้งเกิด.pdf
การขอสูติบัตร, สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงราบัต https://rabat.thaiembassy.org/th/publicservice/birthcertificate
ใบความรู้ที่ ๔ เรื่องการจัดเก็บเอกสารส่วนตัว, DLTV มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม
การเดินทางพร้อมกับเด็ก, Nok Air https://content.nokair.com/th/Journey-Planning/Travel-with-infant-or-Children.aspx
เอกสารการเดินทาง, Vietjet Air https://th.vietjetair.com/th/page/travel-documents
ใบเกิดหายทำยังไง, กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย https://www.dopa.go.th/webboard/topic1245
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!