การสำลักของ เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของเด็ก ๆ และคุณพ่อคุณแม่คงสงสัยว่าเกิดจากอะไร เนื่องจากสิ่งแรกที่เด็กเล็กเรียนรู้ได้นั้นคือการกิน นิสัยส่วนหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้ คือการนำอะไรก็ได้ที่หยิบได้เข้าปาก ไม่สามารถหยุดพฤติกรรมนี้ของลูกได้ เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของพัฒนาการของลูก แต่ความรับผิดชอบที่จะต้องดูแลให้เด็ก ๆ ปลอดภัยเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ และสามารถดูแลลูก ๆ ให้ปลอดภัยได้ โดยการเก็บของอันตรายทั้งหมด เก็บให้พ้นมือเด็ก
ของที่ควร เก็บให้พ้นมือเด็ก !
1. วัตถุขนาดเล็ก
สิ่งเล็ก ๆ ที่เด็กสามารถคว้าและกลืนได้ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก ซึ่งรวมถึงสิ่งของในชีวิตประจำวันเช่นเหรียญ หากลูกกลืนเหรียญเข้าไป มันอาจติดอยู่ในหลอดอาหารได้ เช็กให้มั่นใจว่าไม่ทิ้งเหรียญไว้ในที่ที่ลูกหยิบถึง เช่นเดียวกันกับวัตถุขนาดเล็กอื่น ๆ เช่น ลูกหินหรือหินก้อนเล็ก ๆ พยายามอย่านำเกม หรือของตกแต่งภายในบ้านที่มีขนาดเล็ก เข้ามาในบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
2. แบตเตอรี่
แบตเตอรี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งในครัวเรือนที่เป็นอันตรายต่อชีวิตลูก แต่เราต้องใช้กับสิ่งของต่าง ๆ ในบ้าน เช่น นาฬิกาปลุก รีโมตคอนโทรล และของเล่นเด็ก ทำให้พ่อแม่บางคนมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เป็นวัตถุอันตราย แต่อย่างไรก็ตาม ในแบตเตอรี่นั้นมีกรดกัดกร่อนที่สามารถเผาไหม้ดวงตาและผิวหนังได้ นอกจากนี้ยังมีโลหะที่เป็นพิษ เช่น นิกเกิลและแคดเมียม
แม้ว่าแบตเตอรี่ทั้งหมดจะมีลักษณะนี้ แต่แบตเตอรี่ที่อันตรายกว่า คือแบตเตอรี่ลิเทียมขนาดเล็ก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเก็บแบตเตอรี่ในที่ ๆ เด็กหยิบไม่ถึง และสิ่งของที่ใช้แบตเตอรี่ควรปิดเทปสองชั้น เมื่อแบตเตอรี่หมด ตรวจสอบให้มั่นใจว่าทิ้งแบตเตอรี่อย่างวิธี
3. ลูกโป่ง
ลูกโป่งอาจดูน่าสนุกและไม่เป็นอันตราย แต่หากเด็กกลืนเข้าไปลูกโป่งอาจเกาะที่คอและปอด และอาจติดอยู่ในหลอดลม อุดทางเดินหายใจได้ ลูกโป่งอาจทำให้งานวันเกิดดูดี และสนุกสนาน แต่จะปลอดภัยกับลูกมากกว่า หากรอจนกว่าลูกจะโตกว่านี้ หรือลองตกแต่งแบบอื่นแทน
4. อาหารที่เหนียวหรือแข็ง
อาหารไม่ควรเป็นของอันตราย แต่อาจกลายเป็นอันตรายจากการสำลักได้ หากเหนียวเกินไปหรือยากสำหรับเด็กที่จะกลืน และนี่คืออาหารบางอย่างที่ควรระวัง
- เนยถั่ว
- ลูกเกด
- แครนเบอร์รี
- เหงือก
- ถั่วเยลลี่
- คาราเมล
- มาร์ชแมลโลว์
- หนังผลไม้
- ผลไม้อบแห้ง
- ถั่ว
- ข้าวโพดคั่ว
- ลูกอมแข็ง
- ฮอตดอก
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารเด็ก ก่อนวัยเรียน เมนูอาหารก่อนวัยเรียนของลูก ๆ ที่คุณแม่ทำง่าย ๆ
5. อุปกรณ์ศิลปะ
อุปกรณ์ศิลปะดูดึงดูดสายตาเด็กเพราะมีหลายสี จากมุมมองเด็ก ๆ ดินสอสี ปากกามาร์กเกอร์ และสีดูเหมือนลูกอม ทำให้เด็ก ๆ อยากชิม อุปกรณ์ศิลปะอื่น ๆ ที่น่าสนใจสำหรับเด็ก ได้แก่ สิ่งของเล็ก ๆ ที่มีสีสัน เช่น ลูกปัดและกระดุม จับตาดูเด็ก ๆ เมื่อใช้อุปกรณ์ศิลปะเหล่านี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณซื้อเฉพาะวัสดุที่ปลอดสารพิษสำหรับลูก
6. ยารักษาโรค
ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา ความผิดพลาดอาจส่งผลร้ายแรงต่อเจ้าตัวน้อยได้ แม้ว่าตู้ยาจะจัดเก็บไว้อย่างดี และเป็นสิ่งจำเป็นในครัวเรือน แต่ควรเก็บยาไว้ให้พ้นมือเด็กเสมอ แม้แต่เด็กโตก็อาจกินยาสองสามเม็ด หรือยาน้ำหวาน ๆ เพราะลูกไม่รู้ว่าอะไรกินได้หรือกินไม่ได้ ให้เช็กเสมอว่าคุณเก็บยาไว้ในที่ปลอดภัยหรือไม่
7. ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษ
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษ คืออันตรายทั่วไปในครัวเรือนอื่น ๆ หากคุณมีสวน และเก็บยาฆ่าหญ้าหรือปุ๋ยไว้ในสต็อก หรือแม้แต่ยาฆ่าแมลง ให้เก็บสิ่งของเหล่านี้ไว้ในตู้และล็อกกุญแจ การสัมผัสกับผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ อาจเลวร้ายยิ่งกว่ายา ในหลายกรณีไม่มีการรักษา และควรใช้ผงซักฟอกและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างระมัดระวัง ซึ่งรวมถึงสเปรย์ทำความสะอาด ยาขัดเงา และสารฟอกขาว ดีที่สุดคือเก็บผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ให้พ้นมือเด็ก และล็อกให้แน่นหนา
8. ถุงพลาสติก
ห่อพลาสติกที่บรรจุกระดาษชำระ ถุงที่คุณนำของชำกลับบ้าน ถุงพลาสติกทั้งหมดเป็นอันตราย และอาจทำให้หายใจไม่ออกหากลูกน้อยเอาถุงคลุมศีรษะ เก็บถุงพลาสติกไว้ในที่ปลอดภัย ในที่ที่เด็กเอื้อมไม่ถึง
9. ของเล่นและอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง
มันน่ารักสุด ๆ เมื่อเด็กทารกและเด็กวัยหัดเดินอยู่กับสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก แต่จะน่ารักน้อยกว่า และอาจเป็นอันตรายได้ หากลูกเอาอาหารสัตว์เลี้ยงชิ้นเล็ก ๆ หรือของเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยงเข้าปากแล้วเกิดการสำลัก
10. สิ่งของที่หลวม สูญหายง่าย
ไฟแช็ก เหรียญ กิ๊บติดผม ฝาลิปบาล์ม กุญแจ อะไรก็ตามที่อาจหล่นจากกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าสตางค์ และตกลงบนพื้นอาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อย ควรกวาดพื้นทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าพื้นไม่มีวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ที่ลูกอาจนำเข้าปากและสำลักได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ใจหายใจคว่ำ!! เมื่อลูกน้อยแอบกลืนกิ๊บติดผมลงท้อง
11. รีโมตคอนโทรล
เด็ก ๆ ชอบเล่นกับรีโมตคอนโทรล แต่เนื่องจากแบตเตอรี่ในรีโมตอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรง จึงไม่ควรเอื้อมหยิบ หรือควรใช้เทปปิดฝาแบตเตอรี่ เพื่อไม่ให้ลูกน้อยเข้าถึงแบตเตอรี่ได้ยากขึ้น
12. โทรศัพท์ ที่ชาร์จ พอร์ตชาร์จ
เก็บสายไฟทั้งหมด ที่เสียบเข้ากับปลั๊กไฟฟ้า หรือสิ่งของที่อาจแตกและหักออกจากอุปกรณ์ ให้พ้นจากมือเด็กเล็ก เพราะเด็ก ๆ อาจจะถูกไฟช็อต หรือถูกสายไฟต่าง ๆ พันคอทำให้ขาดอากาศหายใจได้
13. สารเคมีทำความสะอาด
น้ำยาล้างจาน ฟองน้ำขจัดคราบ หรือสเปรย์ทำความสะอาด ผง เจล และของเหลว อยู่ใต้อ่างล้างจาน ควรตรวจสอบว่าเด็ก ๆ เข้าถึงได้ง่ายหรือไม่? หากเป็นเช่นนั้น ให้หาตัวล็อกป้องกันเด็ก ๆ เปิดสำหรับตู้ใส่ของเหล่านี้ หรือเก็บของทุกอย่างไว้บนที่สูง
หากคุณพ่อคุณแม่นั้นไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้ลูก ๆ หยิบของเข้าปากได้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะเก็บของต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตราย และดึงดูดใจให้เด็ก ๆ ให้พ้นจากมือ เพราะลูกวัยนี้นั้น กำลังอยู่ในช่วงของการสำรวจและพร้อมที่จะหยิบของต่าง ๆ เข้าปากตลอดเวลา ดังนั้นแล้วคุณพ่อคุณแม่จึงมีหน้าที่ในการทำให้พื้นที่ภายในบ้านนั้นปลอดภัย โดยการเก็บของอันตรายทั้งหมด ให้พ้นจากมือลูก ๆ ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
พ่อแม่อย่าเผลอเพราะ อุบัติเหตุในบ้าน เกิดขึ้นได้เสมอ!
แม่เตือนภัย ลูกชาย 5 ขวบ เหรียญไหลลงคอ เคราะห์ดีไม่เข้าไปที่หลอดลม
ทำอย่างไรเมื่อ ลูกกลืนสิ่งแปลกปลอม จะช่วยลูกได้อย่างไรบ้าง?
ที่มา : youaremom