พูดถึงกีฬา “เจ็ตสกี” มีลูก ๆ บ้านไหนชอบกีฬาเจ็ตสกีและอยากลองขับดูบ้างเอ่ย แต่ดูแล้วคุณพ่อคุณแม่คงจะเป็นห่วงไม่น้อย เพราะเจ็ตสกีเป็นกีฬาทางน้ำที่ดูอันตรายสำหรับเด็ก งั้นเราลองมาศึกษาข้อมูลกันเลยค่ะ ว่ากีฬาชนิดนี้เหมาะสมกับลูกเราหรือไม่
เจ็ตสกี
“เจ็ตสกี” เป็นกีฬาทางน้ำที่สามารถเล่นได้ทั้งเด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต แต่ต้องมีผู้ฝึกสอนหรือผู้เชี่ยวชาญอยู่ด้วยตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย นอกจากนั้นยังต้องดูความพร้อมของเด็กว่าพร้อมสำหรับกีฬาชนิดนี้หรือไม่ และยังต้องมีทักษะการว่ายน้ำที่ดี มีวินัยหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา การเล่นเจ็ตสกีจะเล่นเพื่อความสนุกหรือเล่นเพื่อไปแข่งขันก็ได้
ประวัติของ “เจ็ตสกี”
ก่อนจะมาเป็น “เจ็ตสกี” ตามเดิมเรียกว่าสกู๊ตเตอร์น้ำ (Water scooters) ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นครั้งแรกในสหราชอาณาจักรและยุโรปในช่วงกลางทศวรรษ 1950 ต่อมาในปีค.ศ. 1961 Sea Skimmer หรือ Aqua Skimmer เปิดตัว ในฐานะกระดานโต้คลื่นรุ่นขับเคลื่อนที่คล่องแคล่วสูง มีความยาว 5 ฟุต 6 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 25 ไมล์ต่อชั่วโมงและได้มีการพัฒนารุ่นใหม่ ๆ ต่อมาเรื่อย ๆ
ที่มาของคำว่า “เจ็ตสกี”
เจ็ตสกี เป็นคำเฉพาะและชื่อแบรนด์ที่ทำเรือส่วนตัว ผลิตโดย บริษัท คาวาซากิ ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น คาวาซากิเจ็ตสกีแบบยืนเป็นเรือลำแรกที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ในอเมริกา โดยเปิดตัวในปีค.ศ. 1972 เจ็ตสกีเป็นเรือโดยสารส่วนบุคคล (A personal watercraft = PWC) หรือเรียกอีกอย่างว่าสกู๊ตเตอร์น้ำโดยจะมีแบบยืนและแบบนั่ง โดยแบบนั่งจะนั่งได้ 2 คน แบบยืนจะยืนได้ 1 คนเท่านั้น ทั้งสองรูปแบบมีเครื่องยนต์ภายในซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องสูบน้ำที่มีใบพัดรูปสกรูเพื่อสร้างแรงขับสำหรับการขับเคลื่อนและการบังคับเลี้ยว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ปิงปอง กีฬาเสริมพัฒนาการสำหรับเด็ก ให้ลูกได้ท้าทายความสามารถตัวเอง
กีฬาเจ็ตสกี
การแข่งขัน PWC เกิดขึ้นทั่วโลก มีหลายสาขา กีฬานี้ดูแลโดย World Powerboating Federation การแข่งขันระดับโลกอย่างเป็นทางการในปัจจุบันก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1996 คือ Aquabike World Championship กีฬาดังกล่าวได้รับการจัดตั้งขึ้นในระดับชาติโดยสมาชิกสหพันธ์แห่งชาติแต่ละแห่งของ U.I.M. Aquabike World Championship เป็นที่รู้จักในหมู่มอเตอร์สปอร์ตที่มีรายการระดับชาติที่แตกต่างกันมากที่สุดสำหรับการแข่งขันแต่ละครั้ง
นอกจากเจ็ตสกีจะเป็นกีฬาทางน้ำแล้วยังมีประโยชน์ในด้านอื่นอีกด้วย เพราะมีขนาดเล็ก รวดเร็ว ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง และระบบขับเคลื่อนที่ไม่มีใบพัดภายนอก ทำให้ปลอดภัยสำหรับนักว่ายน้ำและสัตว์น้ำด้วย
- ใช้สำหรับตกปลา
- เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เจ็ตสกีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาทางน้ำและพาพวกเขากลับเข้าฝั่ง และยังเอาไว้ใช้รับผู้รอดชีวิตจากอุทกภัย
- กองทัพเรือสหรัฐฯ ก็นำมาใช้งานทางน้ำอีกด้วย
ประเภทของเจ็ตสกี
- เจ็ตสกีแบบยืน
- เจ็ตสกีแบบนั่ง (เหมาะสำหรับผู้เริ่มเล่น)
- เจ็ตสกีแบบสปอร์ต (ผสมแบบยืนและนั่ง)
ขนาด cc. ของเครื่องยนต์ที่ใช้แข่งขัน
- เครื่องยนต์ 800 cc. – 2 จังหวะ
- เครื่องยนต์ 1200 ซีซี – 2 จังหวะ
รูปภาพจาก : www.pexels.com
ประเภทของการแข่งขันเจ็ตสกี
- การแข่งขันเพื่อหาผู้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก
- การแข่งขันแบบจับเวลา
- การแข่งขันแบบฟรีสไตล์
- การแข่งขันแบบระยะไกล
กติกาการแข่งขัน
- เจ็ตสกีเรียงแถวที่จุดเริ่มต้นเพื่อรอสัญญาณจากกรรมการ
- กรรมการให้สัญญาณปล่อยตัวด้วยการยกป้ายหมายเลข 2 และทำสัญญาณหมุนธง เป็นสัญญาณให้สตาร์ทเครื่องยนต์ หากมีนักกีฬาคนใดมีปัญหาไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ ให้ยกมือเพื่อขอเวลานอก หากไม่มีปัญหาใด กรรมการจะยกป้ายหมายเลข 1 และพลิกป้ายทางขวางเพื่อดีดเชือกปล่อยตัว
- เมื่อปล่อยตัวแล้วนักกีฬาจะขับไปทางที่กำหนดโดยจะมีทุ่นสีเขียวและแดงเป็นตัวบังคับทิศทาง สีเขียว คือ เลี้ยวขวา สีแดง คือ เลี้ยวซ้าย
- หากมีนักกีฬาคนอื่นน็อครอบ ต้องหลีกทางให้นักกีฬาที่ได้น็อครอบผ่านไปก่อน
- ไม่ปาดหน้าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นอย่างกระชั้นชิด
- ถ้าผู้เข้าแข่งขันตกน้ำ ให้ชูมือเพื่อแสดงว่าตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บ
- ผู้เข้าแข่งขันที่อายุไม่ถึง 18 ปีต้องมีหลักฐานการได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษร
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ให้ลูกเรียนว่ายน้ำ ที่ไหนดี รวมโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก ราคาไม่แพง
ก่อนเรียนขับเจ็ตสกี ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?
- เตรียมร่างกายให้พร้อม การขับเจ็ตสกีต้องใช้ความแข็งแรงในการขับและบังคับทิศทาง
- เตรียมใจให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ มีสมาธิตั้งใจฝึกฝน
- อุปกรณ์เซฟตี้ หมวกกันน็อค เสื้อชูชีพ ถุงมือ
- ค่าใช้จ่ายในการเรียน ซึ่งจะอยู่ที่หลักพันขึ้นไป โดยจะคิดเป็นชั่วโมง บางที่จะคิดรวมกับค่าน้ำมัน บางที่ก็จะคิดแยก
- ควรจะมีทักษะในการว่ายน้ำมาก่อน เพราะเจ็ตสกีเป็นกีฬาทางน้ำอาจมีอุบัติเหตุให้ตกน้ำได้ ถึงแม้จะมีเสื้อชูชีพก็ตาม
- เลือกโรงเรียนสอนขับเจ็ตสกีที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียง และดูแลความปลอดภัยเป็นหลัก
การขับเจ็ตสกีนั้นดูอันตรายแต่หากได้รับการฝึกฝนจากผู้เชี่ยวชาญและมีอุปกรณ์เซฟตี้ที่ครบถูกต้องก็ลดความกังวลลงไปได้บ้างแล้ว ลองพาเด็ก ๆ ไปลองอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยลองดูบ้าง บางทีลูกของคุณพ่อคุณแม่อาจจะเป็นว่าที่แชมป์ขับเจ็ตสกีระดับโลกเลยก็ได้นะคะ
ประโยชน์ของการขับเจ็ตสกี
- ได้ออกกำลังกาย สุขภาพแข็งแรง
- เพิ่มทักษะในด้านการขับขี่
- ได้เจอเพื่อนใหม่นอกห้องเรียน รู้จักเข้าสังคม
- รู้จักช่วยเหลือตัวเองและเอาตัวรอดในสถานการณ์เร่งด่วน
- มีภาวะผู้นำและผู้ตามที่ดี
- ทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ได้เรียนและลองทำจริง ขับจริง ซึ่งไม่สามารถหาได้ในโรงเรียน
รูปภาพจาก : www.pexels.com
หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนกำลังหากิจกรรมนอกห้องเรียนให้กับน้อง ๆ หนู ๆ อยู่ ลองดูกีฬาเจ็ตสกีเป็นทางเลือกเอาไว้ด้วยนะคะ นอกจากจะเป็นกีฬาที่น่าสนุกแล้วยังมีโอกาสแข่งขันเป็นอาชีพได้อีกด้วย เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยนะคะ ส่วนมากในประเทศไทยเราจะเริ่มรับสอนตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไปหรืออาจจะมีบางรับเด็กกว่านั้นได้ แล้วในกรุงเทพฯ เองก็มีโรงเรียนสอนขับเจ็ตสกีหลายที่เลยด้วย ลองเลือกโรงเรียนดี ๆ แล้วพาลูก ๆ ไปทดลองเรียนกันดูนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ฟันดาบ กีฬาแห่งความท้าทาย ฝึกวินัย และความมั่นใจในเด็ก
5 การ์ตูนกีฬา กระตุ้นให้ลูกอยากออกกำลังกาย เสริมสร้างความแข็งแรง
เรียนมวย ดีต่อเด็กอย่างไร ศิลปะป้องกันตัวแบบไทย เสริมสร้างร่างกาย
ที่มา : wikipedia , TruePlookpanya
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!