น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น และมีเลือดปน !!! ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ อธิบายเกี่ยวกับน้ำคาวปลาไว้ว่า น้ำคาวปลา คือ สิ่งที่ขับออกมาจากแผลภายในมดลูก ตรงบริเวณที่รกเกาะอยู่ มีลักษณะเป็นเลือด ปนน้ำเหลือง มีฤทธิ์เป็นด่าง ประกอบด้วยเลือด น้ำคร่ำ และสิ่งต่าง ๆ ที่ค้างอยู่ในโพรงมดลูก มีกลิ่นเฉพาะ ไม่เหม็นเน่า และจะค่อย ๆ จางจนหมดไปภายใน 7 – 21 วันหลังคลอด คุณแม่ที่คลอดแบบธรรมชาติ สามารถอาบน้ำได้ตามปกติค่ะ แต่แนะนำให้อาบโดยใช้ฝักบัว ไม่ควรลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำ ในระหว่างนี้ไม่ควรว่ายน้ำ แม้จะเป็นสระน้ำที่บ้านก็ตาม เพราะปากมดลูกยังเปิดอยู่ อาจทำให้อาจมีน้ำเข้าไปโพรงมดลูก เกิดการติดเชื้อได้ง่าย ส่วนที่แผลฝีเย็บที่ช่องคลอด ก็ชำระล้างด้วยสบู่อ่อน ๆ แล้วซับให้แห้ง ไม่ต้องใส่ยาอะไร
น้ำคาวปลาปกติ
น้ำคาวปลาที่ปกติจะไม่มีกลิ่นเหม็น หลังจากคลอดแล้ว รู้สึกสบายดี ไม่มีไข้ ไม่มีอาการปวดมดลูกมากผิดปกติ มดลูกจะหดตัวเล็กลงเรื่อย ๆ สีของน้ำคาวปลา ก็จะจางลงเรื่อย ๆ
น้ำคาวปลาผิดปกติ
น้ำคาวปลาที่ผิดปกติ คือ น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น สีแดงสดขึ้นอีก หลังจากที่จางไปแล้ว หรือ มีเลือดสด ๆ ออกมามากขึ้น มีไข้ มีอาการปวดมดลูกมากผิดปกติ มดลูกไม่หดตัวเล็กลง แสดงว่าน่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ปัญหาที่ว่า ก็คือ อาจมีการอักเสบในโพรงมดลูก มีเศษรก หรือเศษเยื่อหุ้มรกค้างอยู่ แล้วทำให้เกิดการอักเสบในโพรงมดลูกตามมา ควรต้องรีบไปพบคุณหมอโดยเร็ว
การรักษาหากน้ำคาวปลาผิดปกติ
– คุณหมอจะซักถามอาการ และความผิดปกติต่าง ๆ และตรวจร่างกายว่า มีไข้ ปวดท้อง มดลูกเข้าอู่ หรือไม่ อย่างไร
– ตรวจภายใน เพื่อดูลักษณะสีน้ำคาวปลา และตรวจดูว่า ปากมดลูกเปิด หรือ ปิด ขนาดของมดลูก การกดเจ็บ ก้อนผิดปกติต่าง ๆ อาจมีการส่งตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อดูว่ามีเศษรก หรือเยื่อหุ้มรกค้างอยู่หรือไม่ หากมีการตกค้าง คุณหมอจะให้ยาปฏิชีวนะก่อน จากนั้น 4 – 6 ชั่วโมงหลังจากกินยา คุณหมอจะพิจารณาอีกครั้งว่า ต้องขูดมดลูกหรือไม่
– หากมีการติดเชื้อ คุณหมอจะให้ยาปฏิชีวนะมารับประทาน หากมีอาการมาก อาจให้นอนรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือด
ยาขับน้ำคาวปลาควรกินหรือไม่?
รศ.พญ.สายฝน ชวาลไพบูลย์ ภาควิชาสูติศาสตร์ นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงการดื่มยาดอง หรือยาขับน้ำคาวปลาหลังคลอด ไว้ว่า
มีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะในสมัยก่อน เชื่อกันว่า น้ำคาวปลา คือ ของเสียที่ต้องขับออกมาให้มาก ๆ ทำให้มีแม่หลังคลอดจำนวนมาก ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล เพราะตกเลือดจากการกินยาขับน้ำคาวปลา บางรายถึงกับช็อก หมดสติ ต้องให้เลือดช่วยชีวิตกันทีเดียว
ความจริงแล้ว น้ำคาวปลาก็คือเลือดดี ๆ ที่ไหลซึมจากแผลในโพรงมดลูก ตรงตำแหน่งที่รกลอกตัวออกไป กลไกตามธรรมชาติ เมื่อมดลูกหดรัดตัว บีบเส้นเลือดในมดลูกให้เลือดไหลน้อยลง จนหยุดไปเอง
เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปพยายามขับน้ำคาวปลาให้ออกมาเยอะ ๆ เพราะนอกจากจะเสียเลือดเพิ่มโดยไม่จำเป็นแล้ว บรรดายาขับน้ำคาวปลา หรือยาดองทั้งหลาย มักมีแอลกอฮอล์ผสม ซึ่งจะถูกขับผ่านอกมาทางน้ำนม แม่ที่ให้นมลูกอยู่ ต้องระวังเป็นอย่างมาก หากบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แล้วล่ะก็ จะมีผลกระทบต่อสมองทารกอาจทำให้มีพัฒนาการช้าได้ หรือไม่ ลูกดูดนมเข้าไป ก็เมาหลับปุ๋ยกันทีเดียว
ไขข้อข้องใจเรื่องน้ำคาวปลากันเรียบร้อยแล้วนะคะ แม้ว่าหลังคลอดคุณหมอก็ยังต้องดูแลสุขภาพตนเอง และหมั่นสังเกตว่ามีความผิดปกติหรือไม่ อย่างไร เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่นั่นเอง ร่วมบอกเล่า และแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์ คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณค่ะ
_________________________________________________________________________________________
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ และคอมมูนิตี้อันดับหนึ่งที่คุณแม่เลือก นอกจากสาระความรู้ที่เรามอบให้คุณแม่ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ การวางแผนมีลูกแล้ว เรายังมีแอพพลิเคชั่น รวมถึงสื่อมัลติมีเดียหลากหลายที่ช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องทำงาน และดูแลลูกไปพร้อมกัน ให้มีความมั่นใจ และพร้อมในการดูแลลูกทุกช่วงเวลา ตั้งแต่การให้นมบุตร การดูแลตนเองหลังคลอด ท่าออกกำลังกายหลังคลอด เพื่อให้หุ่นของแม่หลังคลอดกลับมาฟิตแอนเฟิร์มอีกครั้ง theAsianparent Thailand ขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะสนับสนุนคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องการดูแลลูก ความรู้แม่และเด็กที่เต็มเปี่ยม และตอบทุกข้อสงสัย ในแอพพลิเคชั่นที่เป็นสื่อกลาง และกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
ข้อมูลจาก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เลือดออกหลังคลอดคืออะไร เลือดออกหลังคลอดอันตรายหรือไม่?
สูตรอาหารคุณแม่หลังคลอด สูตรอาหารแกงไทยรสเด็ดสำหรับคุณแม่หลังคลอด
7 ความเชื่อหลังคลอดลูก เกี่ยวกับอาการหลังคลอด เข้าใจผิดแบบนี้ไม่ดีแน่!!