ฉันเป็นคุณย่าตอนอายุ 35 ปี เรื่องราวของสาวที่ต้องกลายเป็น คุณย่ายังสาว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

“เธอเป็นเด็กที่มีเด็กอีกคนอยู่ในท้อง” แม่ของเธอพูดติดตลก อยู่ที่แคชเชียร์ ตอนอายุ 18 ตัวเธอ และแม่กำลังเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับคุณแม่ที่จะตั้งครรภ์อยู่ เมื่อเธอมองกลับไปเธอก็ยอมรับว่าเธอก็ยังเด็กอยู่จริง ๆ ตอนที่ท้อง แต่ตอนนั้นเธอคิดว่าเธอวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว เธอไม่คิดเลยว่าในอนาคต ตอนที่เธออายุ 35 ปี เธอจะกลายเป็น คุณย่ายังสาว

ฉันเป็นคุณย่าตอนอายุ 35 ปี เรื่องราวของสาวที่ต้องกลายเป็น คุณย่ายังสาว

เธอเจอ Larry สามีของเธอตอนที่เธออายุ 16 ปี ในตอนนั้นเธอเข้าทำงานที่ร้านอาหาร Red Lobster ที่ที่เธอทำงานที่แรก เธทำหน้าที่เป็นสาวเสิร์ฟ(Hostess) และทำงานในครัวด้วย Larry สามีของเธออายุ 20 ปี เขามีนิสัยดี จิตใจดี และอยู่ในอพาร์ทเมนท์กับกลุ่มเพื่อนของเขา เธอและสามีเริ่มคบกันและตัดสินใจว่าจะแต่งงานกัน หลังจากที่คบกันได้ประมาณหนึ่งปี

แม่ไม่ได้ว่าอะไรที่เธอจะย้ายไปอยู่กับสามี แต่พ่อของเธอนั้นยังมีความกังวลอยู่เลยบอกให้ทั้งคู่แต่งงาน เธอและ Larry ผู้เป็นสามีอยากที่จะงานแต่งงานอยู่แล้ว ตอนนั้นพ่อของฉันมาที่จดทะเบียนด้วย เพราะฉันอายุแค่ 17 ปี ยังต้องได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครองอยู่ถึงจะแต่งงานได้

ในขณะที่เพื่อนของเธอเริ่มเดท ไปมหาวิทยาลัย ไปเที่ยว ฉันต้องนอนดึกเพื่อเลี้ยงลูก

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก 6 เดือนผ่านไปหลังจากงานแต่งงาน เธอค้นพบว่า ตัวเองตั้งครรภ์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้วางแผนมาก่อน แต่มันก็เกินขึ้น ตามลำดับขั้นตอนของมัน แต่งงาน มีลูก เมื่อเธอบอก Larry สามีว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ สามีของเธอดีใจมากเช่นกัน

ตอนที่เธออายุ 18 ปี เธอมีลูกสาวคนแรกชื่อ Chrissy และสามปีต่อมาเมื่อเธออายุ 21 ปี เธอก็มีลูกสาวคนที่สอง Tara เธอคิดไว้ในใจว่า ถ้าเธอมีลูกตั้งแต่ยังเด็ก เธอจะสามารถมีความสุข และ เอ็นจอยไปกับชีวิตวัยเด็กของลูกไปด้วยกัน ด้วยความที่อายุของเธอและลูกจะไม่ห่างกันมาก ในขณะที่เพื่อนอายุ 21 ปีคนอื่นๆ ออกไปเที่ยวกินเหล้า เธอก็ดื่มค็อกเทล Virgin Strawberry Daiquiri ที่งานปาร์ตี้เซอร์ไพร์สบอกคนอื่นว่าเธอจะมีลูกคนที่สอง

เมื่อฉันกลายเป็นคุณย่าตอนอายุ 35 ปี

เพราะว่าทั้งและสามียังเด็ก พวกเขามีเวลาทำกิจกรรม ต่างๆร่วมกัน เช่น พาลูกสาวไปแคมป์ ทำสิ่งประดิษฐ์ร่วมกัน แต่มันก็มีสิ่งที่เธอจำเป็นจะต้องเสียสละเช่นกัน เพื่อนๆ ของเธอเริ่มมีแฟน เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ไปบาร์ นอนดึก ได้ลองทำเรื่องราวหลายๆอย่าง เธอนั่งคนเดียวในอพาร์ทเมนท์ ร้องไห้ เพราะเธอเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด(Postpartum Depression) สามีของเธอต้องทำงาน 80 ชั่วโมง ต่อวัน เป็น ผู้จัดการร้านอาหาร

แต่มันเป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง

เธอรู้ดีว่าทุกอย่างเป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง เธอเพลิดเพลิน ไปกับการเป็นแม่ แม้ว่ามันจะเป็นหนทางที่ลำบาก แต่เธอก็ไม่เคยเสียใจเลยที่ทำแบบนี้ ลูกของเธอเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต และ Larry สามีของเธอก็เป็น สามี และ พ่อ ที่ดี เขาทำงานหนัก ตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกัน เขาแทบไม่อยู่บ้านเลย แต่สุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนก็หย่ากัน ตอนที่ลูกสาวคนเล็กของเธออายุ 2 ขวบ ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และใช้เวลาวันหยุดต่างๆ อยู่ด้วยกัน ทำทุกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกสาวของทั้งสอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เมื่อเธอโตขึ้น เธอก็แต่งงานอีกครั้งตอนเวลาผ่านไป 10 ปี แต่ตอนลูกสาวของเธอกำลังจะก้าวไปเป็นวัยรุ่นเธอก็ต้องหย่าครั้งที่สองกับสามีคนใหม่ เธอกลัวมาก เพราะเธอไม่เคยต้องอยู่ตัวคนเดียวมาก่อนเลย

เมื่อฉันกลายเป็นคุณย่าตอนอายุ 35 ปี

แต่เธอก็ตัดสินใจมองว่ามันคืออิสระ เธอคิดว่าเธออาจจะได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ เช่นเดินทางไปเที่ยว สำรวจสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ ค้นหาตัวตนของตัวเอง ตอนที่เธออายุช่วง 20 ตอนนั้นเธอสอบ GED คล้ายๆกศนบ้านเรา จนได้วุฒิมัธยมปลายมา นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่า เธอก็ฉลาดอยู่เหมือนกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ในช่วงที่เรียนมัธยมปลาย เธอค้นพบว่าตัวเองเป็น ADHD หรือ มีอาการสามธิสั้น ทำให้เธอโดดเรียนบ่อยๆ พอเธอได้เข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย เธอนิตยสาร หรือ สื่อสิ่งพิมพ์ในเมือง ในตอนที่เธอเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย University of Kansas เธอเรียนเอก วารสารศาสตร์ ทำมีนิตยสารที่เธอเป็นหัวหอกเอง เป็นนิตยสารผู้หญิงที่มีชื่อว่า Evolving Woman Magazine

เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคุณยายตอนอายุ 35 ปี

ในช่วงเวลาต่อมา เมื่อลูกโตขึ้นย้ายออกไปนอกบ้าน ทำให้เธอมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น เธอใช้เวลาเหล่านั้น ทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำเพราะเธอต้องเลี้ยงลูกตั้งแต่ยังสาว แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผน เธอไม่คิดเลยว่าเธอต้องมากลายเป็นคุณย่าตอนเธออายุแค่ 35 ปีเท่านั้น ตอนเธออายุ 35 ปี ลูกสาวคนโตของเธอ Chrissy อายุ 16 ปี ท้อง

เธอรู้สึกสงสารลูกเป็นอย่างมาก เธอไม่อยากให้ลูกต้องทิ้งทุกอย่างแบบที่เธอเป็น เธอบอกลูกสาวว่า ให้ออกมาเรียน GED และเข้ามหาวิทยาลัยทันที Chrissy เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ เธอเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาวาดฝันว่า Chrissy จะเป็นล่ามในบริษัทชื่อดัง

เมื่อฉันกลายเป็นคุณย่าตอนอายุ 35 ปี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดลง ทีโรงเรียนมัธยมของเธออนุญาติให้เธอเรียนต่อได้ และ เอาลูกไปเรียนด้วยได้ แต่เธอต้องมาเป็นอาสาที่ชมรม เลี้ยงดูเด็ก เธอต้องหยุดเรียนภาษาปุ่น และ หยุดความฝันที่เธอเคยมี

แต่ Chrissy ก็สู้ เธอไม่ยอมหยุดเรียน เธอตั้งใจว่าต้องเรียนจบพร้อมเพื่อน และเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ลูกชายของเธอ Jason คลอดตอน ผู้เขียนอายุ 35 ปี เธอพูดติดตลกว่า เธอยังไม่แก่พอที่จะเป็นยายเลยนะ ลูกสาวอยากให้เธอเป็นคนเลี้ยงดูแลลูก และ แนะนำเธอไปทุกๆเรื่อง ทั้งเรื่อง ป้อนนมลูกตอนกลางคืน สอนให้ลูกนั่ง กระโถน วิธีสร้างครอบครัว บางครั้งมันทำให้ทั้งคู่มีปัญหาทะเลาะกัน

เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นยายที่ไม่ดี

เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นยายที่ไม่ดีเลย เพราะเธอรู้สึกว่าเธอถูกบังคับให้ต้องเลี้ยงหลาน แต่อีกใจนึงเธอก็บอกตัวเองว่ามันเป็นสิ่งที่เธอควรจะต้องทำในฐานะยายที่ดี เธอนึกย้อนกลับไปว่าแม่ของเธอ ก็ไม่ได้ช่วยเลี้ยงลูกเช่นกัน เธอไม่ค่อยมายุ่งจนลูกเธอโต ลูกสาวทั้งสองคนของเธอ มองแม่เธอว่าเป็นเพื่อนมากกว่ายาย

เมื่อฉันกลายเป็นคุณย่าตอนอายุ 35 ปี

เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นแม่ของตัวเองในอดีต เธอรู้สึกผิด เธอจึงตัดสินใจช่วยลูกอย่างเต็มที่ Chrissy ลูกสาวคนโตของเธอมีลูกอีกสองคน Katelyn และ Brooke ตอนเธออายุ 23 และ 25 ส่วนลูกสาวคนที่สอง Tara มีลูกสองคน Danny และ Andrew ตอนอายุ 24 และ 26 ตอนที่ผู้เขียนเรื่องนี้อายุ 47 ปี เธอมีหลานแล้วรวมกัน 5 คน

เธอบอกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องทำตัวเหมือนยายคนอื่น เธอช่วยเหลือเท่าที่ที่เธอจะทำได้ แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะมีเวลาให้กับตัวเองด้วย เพราะชีวิตก็เป็นของเธอเช่นกัน

Source : huffpost

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

15 อาหารที่แม่ท้องควรเลี่ยง อาหารที่คนท้องห้ามกิน คนท้องห้ามกินอะไรบ้าง

เผยเคล็ดลับ 10 วิธี เร่งผมยาว แม่หลังคลอดผมร่วง สาวผมสั้น ทำยังไงให้ผมยาวเร็ว

แม่ท้องความต้องการทางเพศลดลง ตั้งครรภ์กับ ผลกระทบต่อความต้องการทางเพศ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

Jitawat Jansuwan